- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Thursday, 04 June 2015 09:25
- Hits: 2115
คมนาคม จับมือทร.พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ ตั้งเป้ารับผู้โดยสาร 3 ล้านคนในปี 60
ก.คมนาคม - ทร. ลงนามในบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา ให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ แห่งที่ 3 ตั้งเป้าปี 2560 รองรับผู้โดยสารได้ 3 ล้านคน/ปี จากเดิม 2 แสนคน/ปี ตั้งคณะกรรมการ 3 ชุด พิจารณารายละเอียดงานที่รับผิดชอบ พร้อม ให้กำหนดงบประมาณที่จะต้องใช้ คาดใช้เวลา 2-3 เดือน ก่อนเสนอครม.พิจารณา
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม และพล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.) ลงนามในบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา ให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ แห่งที่ 3 โดยได้ตั้งเป้าหมายในปี 2560 สนามบินอู่ตะเภา จะรองรับผู้โดยสารได้ 3 ล้านคน/ปี จากเดิม 2 แสนคน/ปี ซึ่งในช่วงแรกจะ ให้กองทัพเรือ เป็นผู้บริหารทั้งหมด
"เนื่องจากขณะนี้สนามบินสุวรรณภูมิ มีความหนาแน่นของผู้โดยสาร เราเองก็มีความคิดที่จะพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ อีกแห่งหนึ่ง เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นให้มาลงที่นี่ โดยในอดีตเรามี แต่ชาร์ตเตอร์ไฟลท์ แต่ต่อไปเราจะมี schedule flight ด้วย" รมว. คมนาคม กล่าวกับผู้สื่อข่าว
โดยจากนี้อีกหนึ่งสัปดาห์จะมีการตั้งคณะทำงาน 3 ชุด ได้แก่ คณะทำงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมกับภายนอก ท่าอากาศยาน, คณะทำงานวางแผนธุรกิจส่งเสริมกิจการของท่าอากาศยานอู่ตะเภา และคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคม และ รองปลัดกระทรวง เป็นผู้รับผิดชอบ คณะทำงานทั้ง 3 คณะ จะพิจารณารายละเอียดงานที่รับผิดชอบ พร้อม ให้กำหนดงบประมาณที่จะต้องใช้ ซึ่งคณะทำงานพัฒนาโครงสร้างฯ จะใช้เวลา ดำเนินการ 2-3 เดือน คณะทำงานวางแผนฯ และคณะทำงานประชาสัมพันธ์ จะใช้เวลาประมาณ หนึ่งเดือนครึ่ง จากนั้นคณะทำงานทั้งหมดจะเสนอแผนงานมายังรมว.คมนาคม เพื่อพิจารณาต่อไป
"เราคาดหวังว่า จะโน้มน้าวสายการบินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรือจีน หรือรัสเซียที่ต้องการมาในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของไทย ให้มาลงที่สนามบินอู่ตะเภา ได้ช่วงแรกเราจะมีแผนประชาสัมพันธ์และโปรโมชั่น เพื่อดึงดูดให้มาใช้บริการนี้" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
ด้านพล.ร.อ.ไกรสร กล่าวว่า มีความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจนี้ เพราะมีสถานที่ที่มีความพร้อมและมีบุคลากรอยู่แล้ว เพื่อแบ่งเบาสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง โดยในช่วงแรก ทร.จะบริหารงานเองทั้งหมด โดยปัจจุบันสนามบินอู่ตะเภา มีผู้โดยสารใช้บริการราว 2 แสนคนต่อปี ส่วนใหญ่เป็นสายการบินเช่าเหมาลำ จากรัสเซียและสาธารณรัฐ ประชาชนจีน
สำหรับ บันทึกข้อตกลงดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานความร่วมมือ ในการพัฒนาพื้นที่ การวางแผนธุรกิจ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การจัดทำแผน และงบประมาณ เพื่อให้ท่าอากาศยานอู่ตะเภา เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 ภายใต้การบริหารของกองทัพเรือ โดยมีเป้าหมายการดำเนินงาน 3 ระยะ
ระยะที่ 1 ช่วงปี 58-60 จะพัฒนาให้รองรับผู้โดยสารเป็น 3 ล้านคน ต่อปี โดยใช้อาคารผู้โดยสารที่มีอยู่เดิม และอาคารใหม่ที่จะสร้างเสร็จในปี 59 รวมทั้งทางวิ่ง ทางขับ และลานจอดอากาศยาน
สำหรับ การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงท่าอากาศยานอู่ตะเภากับ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง และพื้นที่ท่องเที่ยวในภาค ตะวันออก ให้สามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย กรมทางหลวงจะ ก่อสร้างขยายทางหลวงจาก 2 ช่อง เป็น 4 ช่อง
ตลอดจนเตรียมก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายพัทยา- มาบตาพุด และ ปรับถนนทางเข้าออกหลักของท่าอากาศยานด้วย
ขณะที่หากมีเที่ยวบินและผู้โดยสารมากขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ กองทัพเรือ สามารถร้องขอให้ บมจ.การบินไทย และบมจ.ท่าอากาศยานไทย เข้ามาอำนวยความสะดวก ในการให้บริการด้านภาคพื้นได้
ส่วนระยะที่ 2 ช่วงปี 61-63 จะพัฒนาให้รองรับผู้โดยสารได้ 5 ล้านคนต่อปี
ขณะที่ระยะที่ 3 ตั้งแต่ปี 63 ศึกษาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและ สิ่งอำนวยความสะดวกในการพัฒนาขีดความสามารถของท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้ รองรับการเติบโตในอนาคต
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย