- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Sunday, 24 May 2015 21:52
- Hits: 2967
บอร์ดทอท.เคาะลงทุนสุวรรณภูมิเฟส 2 วงเงิน 6.2 หมื่นล.-เวลา 45 เดือน
แนวหน้า : บอร์ดทอท.เคาะลงทุนสุวรรณภูมิเฟส 2 วงเงิน 6.2 หมื่นล.-เวลา 45 เดือน หวั่น EIA-EHIA ฉุดงานช้า 1 ปี
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวันนี้มีมติให้ปรับแนวทางการดำเนินงานพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ให้เป็นไปตามนโยบายกระทรวงคมนาคมใน 3 ส่วน ประกอบด้วย โครงการพัฒนาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอยู่ระหว่างปีงบประมาณ 2554-2560 เดิมคณะกรรมการอนุมัติกรอบดำเนินการแบ่งออกเป็น 2 ระยะ แต่กระทรวงคมนาคมได้ให้แนวทางว่าการดำเนินการพัฒนาเฟส 2 ให้ยึดตามมติ ครม.เมื่อปี 2553 โดยให้ก่อสร้างพัฒนาครั้งเดียวไม่ต้องแบ่งการดำเนินการออกเป็น 2 ช่วง ดังนั้น การพัฒนาโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 ก็จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างเดือนมีนาคม 2559 และให้ทั้งโครงการเสร็จปี 2562 แบ่งกรอบการทำงานเป็นการจัดหาผู้รับจ้าง 9 เดือน และใช้เวลาก่อสร้าง 33 เดือน รวมเป็นระยะเวลาที่ใช้พร้อมกับการทดสอบทั้งหมดระยะเวลา 45 เดือน
นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาทางวิ่งที่ 3 หรือรันเวย์ที่ 3 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เดิมคณะกรรมการ ทอท.อนุมัติการพัฒนารันเวย์สำรองไว้ แต่กระทรวงคมนาคมมีนโยบายให้ดำเนินการเร่งรัดการพัฒนารันเวย์ที่ 3 โดยยังต้องทำรันเวย์สำรอง คาดว่าหากการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพที่เกิดจากโครงการ (อีเอชไอเอ) ผ่านความเห็นชอบภายในเดือนตุลาคมนี้ ก็จะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ และจะสามารถเปิดใช้รันเวย์ที่ 3 เดือนตุลาคม 2562
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะกรรมการ ทอท.แสดงความเป็นห่วงต่อปัญหาความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นจากการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) เนื่องจากการศึกษาผลกระทบทั้งอีไอเอ ซึ่งจะใช้พัฒนารันเวย์ความยาวไม่เกิน 3,000 เมตร แต่หากรันเวย์ยาวตั้งแต่ 3,000 เมตรขึ้นไปต้องมีการศึกษาอีเอชไอเอด้วย การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้ง 2 แบบจะใช้เวลารวมเฉลี่ย 1-2 ปี หากการศึกษาไม่เสร็จปีนี้จะทำให้โครงการต้องล่าช้าออกไปอีก 1 ปีแน่นอน และที่สำคัญหากรันเวย์ที่ 3 ยังก่อสร้างไม่เสร็จสุวรรณภูมิจะไม่สามารถทำการซ่อมใหญ่รันเวย์ 1 และ 2 ที่ใช้งานในปัจจุบัน ตามหลักเกณฑ์ทั่วไปการใช้งานผิวรันเวย์จะมีอายุเฉลี่ย 6-8 ปี ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการซ่อมใหญ่ แต่ขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิใช้ขั้นตอนการซ่อมบำรุงเป็นช่วงๆ เพื่อให้การซ่อมผิวรันเวย์ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพงานบริการของเที่ยวบินที่ขึ้นลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
สุดท้าย คณะกรรมการยังได้อนุมัติให้มีการทบทวนแนวทางการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้การก่อสร้างสอดคล้องกับแผนแม่บทที่จะมีการปรับปรุงทั้งท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้สอดคล้องการเติบโตปริมาณจราจรทางอากาศทั้ง 2 สนามบินเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้ การปรับแผนพัฒนาสุวรรณภูมิเฟส 2 ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม ยืนยันไม่กระทบวงเงินลงทุนโครงการดังกล่าวที่อนุมัติกรอบดำเนินการไว้ที่ 62,000 ล้านบาท
อนุมัติแผนสุวรรณภูมิเฟส
บ้านเมือง : นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวันนี้มีมติให้ปรับแนวทางการดำเนินงานพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ให้เป็นไปตามนโยบายกระทรวงคมนาคมใน 3 ส่วน ประกอบด้วย โครงการพัฒนาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอยู่ระหว่างปีงบประมาณ 2554-2560 เดิมคณะกรรมการอนุมัติกรอบดำเนินการแบ่งออกเป็น 2 ระยะ แต่กระทรวงคมนาคมได้ให้แนวทางว่าการดำเนินการพัฒนาเฟส 2 ให้ยึดตามมติ ครม. เมื่อปี 2553 โดยให้ก่อสร้างพัฒนาครั้งเดียวไม่ต้องแบ่งการดำเนินการออกเป็น 2 ช่วง ดังนั้น การพัฒนาโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 ก็จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างเดือนมีนาคม 2559 และให้ทั้งโครงการเสร็จปี 2562 แบ่งกรอบการทำงานเป็นการจัดหาผู้รับจ้าง 9 เดือน และใช้เวลาก่อสร้าง 33 เดือน รวมเป็นระยะเวลาที่ใช้พร้อมกับการทดสอบทั้งหมดระยะเวลา 45 เดือน
นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาทางวิ่งที่ 3 หรือรันเวย์ที่ 3 ของ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เดิมคณะกรรมการ ทอท.อนุมัติการพัฒนารันเวย์สำรองไว้ แต่กระทรวงคมนาคมมีนโยบายให้ดำเนินการเร่งรัดการพัฒนารันเวย์ที่ 3 โดยยังต้องทำรันเวย์สำรอง คาดว่าหากการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่เกิดจากโครงการหรืออีเอชไอเอ ผ่านความเห็นชอบภายในเดือนตุลาคมนี้ ก็จะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ และจะสามารถเปิดใช้รันเวย์ที่ 3 เดือนตุลาคม 2562
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะกรรมการ ทอท. แสดงความเป็นห่วงต่อปัญหาความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นจากการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการศึกษาผลกระทบทั้งอีไอเอ ซึ่งจะใช้พัฒนารันเวย์ความยาวไม่เกิน 3,000 เมตร แต่หากรันเวย์ยาวตั้งแต่ 3,000 เมตรขึ้นไปต้องมีการศึกษา อีเอชไอเอ การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้ง 2 แบบจะใช้เวลารวมเฉลี่ย 1-2 ปี หากการศึกษาไม่เสร็จปีนี้จะทำให้โครงการต้องล่าช้าออกไปอีก 1 ปีแน่นอน และที่สำคัญหากรันเวย์ที่ 3 ยังก่อสร้างไม่เสร็จสุวรรณภูมิจะไม่สามารถทำการซ่อมใหญ่รันเวย์ 1 และ 2 ที่ใช้งานในปัจจุบัน