WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

LOสรอยทพย ไตรสทธสนข.เอกซเรย์ความพร้อมระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้รับเปิด AEC

    บ้านเมือง : กระทรวงคมนาคม ในฐานะเป็นหน่วยงานกำกับดูแลโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม โดยหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญด้านการวางแผนโครงการนั้น คือสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ซึ่งที่ผ่านมาได้มีโอกาสพาคณะสื่อมวลชนศึกษาดูงานตามแนวเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้ เพื่อเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน วันนี้ "บ้านเมือง" มีคำตอบ

     นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. กล่าวถึงการศึกษาดูงานตามแนวเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เชื่อมต่อบริเวณด่านปอยเปต ราชอาณาจักรกัมพูชา-สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ว่าลงพื้นที่ในครั้งนี้ถือเป็นเตรียมความพร้อมด้านการเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน ที่กำลังจะมีการรับรองประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

    นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เพื่อเป็นการพัฒนาการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) นั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเน้นการเชื่อมต่อ โดยด่านคลองลึกเป็นด่านพรมแดนที่สำคัญในการเชื่อมต่อจากเส้นทางประเทศไทย ตรงบริเวณจังหวัดสระแก้ว เข้าสู่ปอยเปต ราชอาณาจักรกัมพูชา และสามารถเชื่อมต่อไปยังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้ ด้านการขนส่งสินค้า อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาอัตราการเติบโตของปริมาณสินค้าและคนที่ผ่านเข้าออกเพิ่มสูงขึ้นมาก ตามนโยบายของรัฐบาลได้มอบหมายให้จังหวัดสระแก้วเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าด่านคลองลึกมีความแออัดมาก สภาพจราจรติดขัดยาว 3 กม. ดังนั้นจึงจะมีการจัดสร้างจุดผ่านแดนแห่งใหม่ ที่บ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อแยกคนและสินค้าออกจากกัน โดยเตรียมพื้นที่สำหรับก่อสร้างด่านใหม่ประมาณ 500 ไร่ พื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 1,600 ไร่ ซึ่งจะอยู่ตรงข้าม-บ้านโอเนียง นิคมอุตสาหกรรมปอยเปต ของกัมพูชา อยู่ห่างจากด่านคลองลึกประมาณ 10 กม. เชื่อมกันโดยถนนศรีเพ็ญ (ถนนความมั่นคง)

     "โครงการก่อสร้างถนนแยก ทล.348-บ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นการก่อสร้างถนนใหม่สนับสนุนการขนส่งสินค้าและการเดินทางเข้าออกบริเวณจุดผ่านแดนด่านบ้านป่าไร่ โดยเสนอให้ก่อสร้างถนนใหม่ ระยะทาง 11.800 กิโลเมตร ขนาด 4 ช่องจราจร กว้าง 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้าง 2.5 เมตร เขตทาง 60 เมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโครงข่าย โดยมีจุดเริ่มต้นเชื่อมกับถนนทางหลวงหมายเลข 348 ที่ กม.4+500 ห่างจาก อ.อรัญประเทศ 5 กิโลเมตร แนวถนนโครงการมีแนวทางไปตามแนวทิศตะวันออก ผ่านไร่อ้อยและมันสำปะหลังและเป็นที่ลุ่มตลอดเส้นทาง ซึ่ง กม.ที่ 6+200 แนวสายทางตัดผ่านทางหลวงหมายเลข 3397 ตัดกับถนนทางหลวงหมายเลข 3446 และสิ้นสุดโครงการที่บ้านป่าไร่เชื่อมต่อกับแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา โครงการก่อสร้างถนน สายแยก ทล.33-ด่านบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงการทันต่อเวลา สามารถรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจเพื่อเชื่อมโยงการผลิตจากแหล่งผลิตไปสู่ตลาด และผู้บริโภค รวมทั้งการลดต้นทุนในทุกขั้นตอนของการกระจายสินค้า

      จึงได้พิจารณาโครงข่ายทางหลวงชนบทที่มีความสำคัญ และเป็นเส้นทางในการขนส่งสินค้าเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม โดยจะก่อสร้างโครงการถนนต่างๆ ที่เป็นเส้นทางลัด ทางเลี่ยงเมือง เพื่อเชื่อมโยงข่ายให้สมบูรณ์ พร้อมทั้งสนับสนุนยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ของประเทศ เพื่อเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรมทางหลวงชนบท จึงจัดสรรงบประมาณดำเนินการก่อสร้างถนนสาย แยก ทล.33-ด่านผ่านแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขนาด 4 ช่องจราจร ผิวจราจรกว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 2.50 เมตร จุดเริ่มต้นแยกออกจากทางหลวงหมายเลข 33 บริเวณ กม.ที่ 291+500 สิ้นสุดบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 33 บริเวณด่านผ่านแดนบ้านคลองลึก เพื่อให้เกิดความสะดวกในการใช้เส้นทางและส่งเสริมโครงข่ายที่สมบูรณ์ สำหรับจุดเริ่มต้นโครงการเชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 33 บริเวณ กม.291+500 แนวถนนโครงการมีแนวทางไปทางทิศใต้ แนวสายทางจะตัดผ่านทางรถไฟสายตะวันออก ซึ่งตัดกับเส้นทางทางหลวงชนบท และสิ้นสุดโครงการที่ด่านผ่านแดนบ้านคลองลึก ซึ่งตัดถนนทางหลวงหมายเลข 33 นอกจากนี้ แนวโครงการยังตัดผ่านทางรถไฟคลองห้วนไผ่และห้วยพรหมโหด อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงชนบทได้ทำสัญญาจ้างลงวันที่ 23 มี.ค.58 ว่าจ้างบริษัท พี.พี.เอ.คอนสตรัคชั่น จำกัด ทำการก่อสร้างถนนสายแยก ทล.33-ด่านผ่านแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งสิ้น 840 วัน และกรมทางหลวงชนบทได้แจ้งให้เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.58 ที่ผ่านมา"

    สำหรับ เป้าหมายการก่อสร้างจุดผ่านแดนบ้านป่าไร่นั้น คาดว่าด่านพร้อมโครงข่ายจะแล้วเสร็จประมาณ 3 ปี ซึ่งกระทรวงคมนาคมและสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะทำแผนโครงสร้างพื้นฐานภาพรวมเชื่อมเข้าสู่ด่านเสนอที่ประชุมคณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐาน และด้านศุลกากรเพื่อทำแผนปฏิบัติ ในการประชุมวันที่ 18 พ.ค.นี้ และนำเสนอคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันที่ 21 พ.ค.นี้ เพื่อพิจารณาโครงการ

    อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างรถไฟ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นั้น ที่มีโครงการเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยและราชอาณาจักรกัมพูชานั้น โครงการได้มีความคืบหน้าด้านการก่อสร้างภายหลังได้ลงนามในสัญญาจ้างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินงานปรับปรุงทางรถไฟเดิมเสริมความมั่นคงโครงสร้างทาง เปลี่ยนรางปัจจุบัน 60 ปอนด์/หลา เป็นขนาด 100 ปอนด์/หลา เปลี่ยนหมอนไม้เป็นหมอนคอนกรีตและหมอนเหล็ก (บริเวณสะพาน) รวมทั้งปรับปรุงทางหลีกและระบบอาณัติสัญญาณในย่านสถานี 17 สถานี ช่วงชุมทางคลองสิบเก้า-สุดสะพานคลองลึกระยะทาง 170 กม. วงเงิน 2,808 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 900 วัน สำหรับ

     โครงการก่อสร้างนั้น ได้เริ่มในสัญญาดำเนินการและจะแล้วเสร็จตามสัญญาในวันที่ 9 ก.พ.59 โดยการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ ระยะทาง 6 กิโลเมตร จากสถานีอรัญประเทศสุดชายแดนไทยที่บริเวณด่านคลองลึก อ.คลองลึก จ.สระแก้ว รวมถึงสร้างสะพานข้ามแดนคลองลึกที่มีคลองกั้นอยู่กับชายแดนประเทศกัมพูชาที่ด่านปอยเปต ระยะทาง 43 เมตร วงเงินประมาณ 30 ล้านบาท ส่วนกัมพูชานั้นกำลังก่อสร้างฟื้นฟูแนวเส้นทางใหม่จากศรีโสภณ-ปอยเปต ระยะทาง 48 กม. แต่ยังขาดอีกประมาณ 6 กม. จากปอยเปตมาเชื่อมกับชายแดนประเทศไทย

     นายพีระพล กล่าวว่า การเดินทางเพื่อเชื่อมโยงดังกล่าวนั้น จากประเทศไทยเส้นทางดังกล่าวสามารถเชื่อมโยงการเดินทางมายังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้ ตามแนวเส้นทางที่จะเกิดการเชื่อมต่อเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) สำหรับการศึกษาดูงานด้านท่าเทียบเรือที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามนั้น เนื่องจากเป็นเส้นทางที่อยู่ในการตกลงเรื่องการเชื่อมต่อระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้ ในการเชื่อมโยงการค้าผ่านท่าเรือทวาย ผ่านมายังจังหวัดกาญจนบุรี อำเภอคลองลึก ต่อมายังราชอาณาจักรกัมพูชา และเชื่อมต่อถึงท่าเรือไซ่ง่อน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้ หากมีการเชื่อมโยงสมบูรณ์ก็สามารถเพิ่มการค้าระหว่างประเทศได้

     อย่างไรก็ตาม ด้านการขนส่งสินค้าที่ท่าเรือแหลมฉบังนั้น ก็ถือว่าเป็นประตูด้านการขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีพื้นที่หลังท่าที่เหมาะสม ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ในวงรัศมีที่ใกล้กับประเทศไทยนั้น ก็ให้ความสนใจในส่วนของไทย ทั้งนี้ ในส่วนของท่าเรือน้ำลึกก๋ายแม็บ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ก็มีแผนที่จะเชื่อมต่อ 5 จังหวัดในตอนใต้ของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ขณะที่ประเทศกัมพูชาไม่มีท่าเรือใหญ่ จุดนี้เองก็จะเป็นอีกทางเลือกที่กัมพูชาจะสามารถเลือกได้ว่าจะมาใช้บริการที่ท่าเรือแหลมฉบัง หรือท่าเรือก๋ายแม็บ เมื่อการเชื่อมโครงข่ายสมบูรณ์ แต่จะมีจุดเลือกหรือข้อเปรียบเทียบตรงระยะทาง และค่าบริการ ซึ่งวัตถุประสงค์เชื่อมต่อระหว่างท่าเรือกับท่าเรือก็คือการเพิ่มกิจกรรมด้านการเชื่อมต่อระหว่างประเทศให้มากขึ้น

    ทั้งนี้ เรามองไปถึงการค้าระหว่างประเทศอย่างการค้าที่คลองลึกก็มีมูลค่าด้านขนส่งสินค้า 7 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นลักษณะด้านการส่งออกสินค้า มากกว่านำเข้าสินค้า หากการเชื่อมต่อโครงข่ายสมบูรณ์ก็จะเพิ่มการผลิตสินค้าได้มากขึ้น โดยคาดว่าจะมากกว่าการส่งออกสินค้าด้านถนน แต่โครงข่ายการขนส่งสินค้าทั้งถนน และทางรางของประเทศไทยนั้น ก็เป็นโครงข่ายเชื่อมต่อจากการขนส่งสินค้าทางน้ำอยู่แล้ว นั้นคือ การสร้างมูลค่าด้านการค้าของประเทศไทย และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถระหว่างประเทศ สำหรับโครงข่ายด้านขนส่งนักท่องเที่ยวนั้น การพัฒนาการเชื่อมโยงดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งเสริม และการให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย สำหรับปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ก็ใช้ประเทศไทยเป็นฮับด้านการเดินทาง คือการเดินทางโดยเครื่องบินมาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่องเที่ยวในไทยแล้วอาจจะมีแผนข้ามด่านเพื่อข้ามมาท่องเที่ยวที่กัมพูชา อย่างนครวัด นครทม แล้วก็อาจจะเชื่อมต่อไปยังประเทศอื่นๆ ที่ใกล้เคียงได้เช่นกัน

     สำหรับ การคมนาคมขนส่งทางถนนเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทย-กัมพูชาเวียดนาม เป็นเส้นทางการคมนาคมขนส่งตามแผนงานพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยใช้แนวเส้นทางพื้นที่พัฒนาตอนใต้ ประกอบด้วย 3 เส้นทาง เส้นทางที่ 1 เส้นทางสายเหนือ โดยเริ่มจากกรุงเทพฯอ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว (ไทย)-เมืองปอยเปต-เสียมเรียบ-สตึงเตร็ง-รัตนศีรี-โอ ยาดัฟ (กัมพูชา)-เมือปเลก (เวียดนาม), เส้นทางที่ 2 เส้นทางสายกลาง โดยเริ่มจากรุงเทพฯ-อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว (ไทย)-เมืองปอยเปต-พนมเปญ-บาเว็ท (กัมพูชา)-เมืองม็อคแบ็ด-โฮจิมินห์ซิตี้-หวุงเต่า (เวียดนาม) และมีจุดข้ามแดนที่สำคัญ คือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว-เมืองปอยเปต-บาเว็ท-เมืองม็อคแบ็ด และเส้นทางที่ 3 เส้นทางเลียบชายฝั่งด้านใต้ โดยเริ่มจากกรุงเทพฯ-จ.ตราด (ไทย)-เมืองเกาะกง-กำปอต (กัมพูชา)-ฮาเตียน-ก่ามาว-นามคาม (เวียดนาม) และมีจุดข้ามแดนที่สำคัญ คือ จ.ตราด-เมืองเกาะกง-กำปอต-ฮาเตียน

    ส่วนเส้นทางการคมนาคมขนส่งทางรางเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยกัมพูชา-เวียดนาม เป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งตามแนวรถไฟสายสิงคโปร์- คุนหมิง ที่มีเส้นทางผ่านประเทศสิงคโปร์-มาเลเซีย-ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม-จีน (คุนหมิง) เป็นเส้นทางหลัก และมีเส้นทางเชื่อมประเทศไทย-เมียนมาร์ และประเทศไทย-สปป.ลาว เป็นเส้นทางสายย่อย ซึ่งเรียกว่าแนวเส้นทางสายตะวันออก รวมระยะทางทั้งสิ้น 5,382 กิโลเมตร สำหรับเส้นทางที่ยังขาดการเชื่อมต่อ ในส่วนที่เป็นโครงข่ายทางรถไฟของประเทศไทยนั้น พบว่าขาดเพียง 2 ช่วง ที่ต้องมีการก่อสร้างเพิ่มเติม คือช่วงอรัญประเทศ-คลองลึก ระยะทาง 6 กิโลเมตร และด่านเจดีย์สามองค์-น้ำตก ระยะทาง 153 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ถือว่าไทยค่อนข้างมีความพร้อมในการดำเนินการพัฒนาโครงข่ายการขนส่งรถไฟ ตามแผนการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานภายใต้แผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

     อย่างไรก็ตาม สำหรับเส้นทางรถไฟสายปอยเปต-ศรีโสภณ ทางรถไฟที่ขาดช่วงอยู่ที่ 48 กิโลเมตร ระหว่างปอยเปต (ศรีโสภณ) กับชายแดนไทยกำลังสร้างใหม่ให้สามารถรับน้ำหนักกดเพลาได้ 20 ตัน ช่วง 42 กิโลเมตรแรกไปยังปอยเปตแล้วเสร็จในเดือน พ.ค.2555 ที่ผ่านมา และส่วนที่เหลือ 6 กิโลเมตร ผ่านตัวเมืองปอยเปตไปยังชายแดนไทยนั้นแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2555 แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเดินรถ เส้นทางรถไฟสายอรัญประเทศ-คลองลึก ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อเดือน ธ.ค.2557 ที่ผ่านมา ส่วนสะพานข้ามคลองลึกคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้ สำหรับทางที่ขาดการเชื่อมต่อฝั่งกัมพูชา ระหว่างปอยเปตคลองลึก จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างอย่างช้าภายในปี 2558 สำหรับเส้นทางรถไฟสายพนมเปญ-ล็อกนินห์ ระยะทาง 254 กิโลเมตร ตามแผนแม่บทความเชื่อมโยงของอาเซียน มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2558 และเส้นทางรถไฟสายล็อกนินห์โฮจิมินห์ ระยะทาง 129 กิโลเมตร ตามแผนแม่บทความเชื่อมโยงของอาเซียน มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2558 นี้เช่นกัน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!