- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Monday, 11 May 2015 00:26
- Hits: 2878
คมนาคม ชง‘บิ๊กตู่’พค.นี้ ผ่าโครงสร้างกรมการบินฯ
แนวหน้า : พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญ (SSC) ของกรมการบินพลเรือน ของไทยว่า ที่ประชุมได้มีมติในการปรับโครงสร้างของ กรมการบินพลเรือนใหม่ ทั้งหมด โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้แก่
1.เตรียมจัดตั้งคณะกรรมการค้นหา และช่วยเหลือ และคณะกรรมการวิเคราะห์สาเหตุและอุบัติเหตุมาอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงคมนาคม จากเดิมที่อยู่ภายใต้ กรมการบินพลเรือน 2.เตรียมจัดตั้ง สำนักการบินพลเรือนแห่งชาติ เข้ามาดูแลในเรื่องมาตรฐานการบิน และการออกใบอนุญาตสายการบิน ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่อยู่ภายใต้การดูแลของ กระทรวงคมนาคม และ3.เตรียมจัดตั้งกรมการท่าอากาศยาน ซึ่งจะมีหน้าที่คอยดูแล และพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 28 แห่ง
รมว.คมนาคม คาดว่าไม่เกินวันที่ 22 พ.ค. 2558 จะสามารถเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาเพื่อขอใช้ มาตรา 44 (ม.44)แห่งรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ในการจัดตั้งหน่วยงานทั้งหมด จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะสามารถส่งให้ นายกรัฐมนตรีพิจารณาได้ในวันที่ 10 พ.ค. 2558 และคาดว่าประมาณต้นเดือนมิ.ย. 2558 การพิจารณาจะแล้วเสร็จ และจะทราบว่าโครงสร้างหน่วยงานใหม่ทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้เมื่อใด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการส่งข้อกฎหมายในการปรับปรุงโครงสร้างทั้งหมดให้นายกรัฐมนตรี พิจารณานั้น คาดว่าจะดำเนินการได้หลังจากเสนอแผนการปรับโครงสร้างกรมการบินพลเรือนเรียบร้อยแล้วประมาณ 2 สัปดาห์
สำหรับ การส่งแผนการแก้ไขข้อบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญฉบับล่าสุดไปให้ทางองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) พิจารณา ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขแผน และจะมีการพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 10 พ.ค.นี้ เพื่อให้ได้แผนที่ถูกต้อง และครบถ้วนก่อนส่งไปให้ ICAO
ก่อนหน้านี้ ICAO ประเมินพบว่า กรมการบินพลเรือนของไทย มีข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญ (SSC) ด้านการรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (AOC) และการดำเนินการเกี่ยวกับการออกใบรับรองการขนสินค้าอันตราย (Dangerous Goods) ส่งผลต่อสายการบินแบบเช่าเหมาลำที่จะขออนุญาตบินไปในหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
หูกวางปรับโครงสร้างบพ.ลงตัว
บ้านเมือง : พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธาน คระกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการตรวจสอบกรมการบินพลเรือน (บพ.) ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตามโครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยสากล (Universal Safety Oversight Audit Program; USOAP) เปิดเผยถึงความคืบหน้า ว่า ขณะนี้มีความชัดเจนเรื่องรูปแบบการปรับโครงสร้างกรมการบินพลเรือน โดยมอบหมายให้นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม สรุปความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องไปปรับปรุงให้มีความเหมาะสมมากที่สุด โดยการประชุมร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 20 พ.ค.เพื่อสรุปรายละเอียด โดยคาดว่าจะนำโครงสร้างใหม่เสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาได้ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ เพื่อใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการออกคำสั่งจัดตั้งพร้อมบทเฉพาะกาล ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างองค์กรส่วนราชการตามขั้นตอนปกติที่ต้องยกร่างกฎหมาย ซึ่งใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี
สำหรับ การปรับโครงสร้าง บพ.โดยแยกงานออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. คณะกรรมการค้นหา ช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรือ ผู้รอดชีวิต และคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน โดยยกระดับจากเดิมที่อยู่ภายใต้สำนักมาตรฐานการบินของ บพ. ขึ้นมาอยู่ในระดับกระทรวง เพื่อแยกดำเนินการที่ชัดเจนเรื่องความเป็นกลาง 2.งานด้านนโยบาย และด้านกำกับดูแล จะจัดตั้งเป็นสำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติ ทำหน้าที่ในด้านการบริหาร ด้านมาตรฐานการบิน มาตรฐานสนามบินการออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการค้าขายในการเดินอากาศ (AOL) และใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (AOC)งานด้านความปลอดภัย และด้านเทคโนโลยีต่างๆ โดยเป็นองค์กรอิสระ มีคณะกรรมการที่มาจากการแต่งตั้ง ส่วนผู้อำนวยการคนแรกจะมาจากการแต่งตั้งเพื่อความรวดเร็ว จากนั้นจะใช้วิธีสรรหา โดยกระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้เสนอชื่อคณะกรรมการ ขอรับจัดสรรงบประมาณ จากคณะรัฐมนตรี (ครม.) 3.ด้านปฏิบัติการ จัดตั้งกรมการท่าอากาศยาน ทำหน้าที่ดูแลบริหาร สนามบินในความรับผิดชอบของ บพ.จำนวน 28 แห่ง โดยยังคงเป็นหน่วยงานราชการ มีอธิบดีเป็นผู้บริหารสูง มีรองอธิบดี 2 คน โดยงานหลักที่รับผิดชอบทั้งด้านการพัฒนาสนามบิน วางแผน ก่อสร้าง บริหาร ดำเนินการเพื่อให้การให้บริการผู้โดยสารได้อย่างมีมาตรฐานปลอดภัย ซึ่งจะมีกองคลังและรายได้ งานด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยจะเพิ่มเติมในส่วนของงานด้านเทคนิค ด้านสำรวจออกแบบ ระบบให้บริการที่ปลอดภัยทันสมัย และด้านไอทีด้วย
ชง'บิ๊กตู่'ใช้ม.44 ปรับโครงสร้างบพ.
ไทยโพสต์ ; ราชดำเนิน * "ประจิน" ยันแผนแก้ไขข้อบกพร่อง SSC เสร็จ 10 พ.ค.นี้ พร้อมเตรียมชง "ประ ยุทธ์" ใช้อำนาจ ม.44 อนุมัติแผนปรับโครงสร้างองค์กร บพ.แยกหน่วยงานกำกับและบริการออกจากกัน คาดมีผลต้น มิ.ย.
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลัง การประชุมคณะกรรมการอำ นวยการเพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากการตรวจสอบขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ว่า แผนแก้ไขข้อบกพร่อง ที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัยด้านการบิน (SSC) เรื่องเร่งด่วนเกี่ยวกับการขนส่งวัตถุอันตรายและการออกใบอนุญาตการบิน (ACO) ฉบับสม บูรณ์จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 10 พ.ค.นี้
ส่วนการปรับโครงสร้างองค์กรแยกหน่วยงานกำกับดูแลและการให้บริการ จะสรุปเสนอ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายในวันที่ 22 พ.ค.นี้ เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 ลงนามให้มีผลบังคับใช้ภายในต้นเดือน มิ.ย.นี้
"การปรับโครงสร้างองค์กร บพ. จะขอใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อเร่งรัดขั้นตอนให้เร็วขึ้น หลังจากเสนอเรื่องให้นายกรัฐ มนตรีลงนามแล้ว จะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ เพื่อจัดตั้งองค์กรตามโครงสร้างใหม่ และใช้เวลาในการย้ายสำนักงานต่างๆ ประมาณ 3-4 เดือน" พล.อ.อ. ประจินกล่าว
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ในส่วนของการปรับโครงสร้างและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการบินจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1.คณะกรรมการค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย และคณะกรรมการสอบสวนอากาศยานเกิดอุบัติเหตุ จากเดิมเป็นเพียงสำนัก มาตรฐานการบิน ที่อยู่ภายใต้ การกำกับของกรมการบินพล เรือน (บพ.) แต่มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นองค์กรอิสระที่อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม เพื่อให้การดำเนินงานมีความเป็นอิสระเพื่อความเป็นกลางในการทำหน้าที่ในการค้นหาและช่วยเหลือ หรือการสอบสวนเมื่อเกิดอุบัติเหตุด้านการบิน
กลุ่ม 2.การจัดตั้งสำนัก งานการบินพลเรือนแห่งชาติ จะทำหน้าที่กำกับดูแลการบริหารด้านมาตรฐานการบินและท่าอากาศยาน การออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการค้าขายในการเดินอากาศ และใบรับรองผู้ดำเนินการทางอากาศ รวมทั้งกำกับดูแลความปลอดภัยและเทคโนโลยีต่างๆ และกลุ่มที่ 3.การจัดตั้งกรมการท่าอากาศยาน เพื่อดูแลท่าอากาศยานทั้ง 28 แห่ง.