- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Saturday, 18 April 2015 22:46
- Hits: 2963
ล้วงที่ดินร.ฟ.ท.ใช้หนี้เพิ่มเล็ง'จตุจักร-ถ.เชื้อเพลิง'คลังตั้งทีมประเมินราคา
ไทยโพสต์ *คลังจ่อดึงที่รถไฟหลังกระทรวงพลังงาน-พระราม 3 ล้างหนี้ ร.ฟ.ท.เพิ่ม พร้อมตั้งคณะทำงานตีมูลค่าที่ดินมักกะสันหวังใช้ล้างหนี้ 8 หมื่นล้านบาท
นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรม การนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะพิจารณานำที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริเวณ กม.11 หลังกระทรวงพลังงาน เขตจตุจักร และที่ริมแม่น้ำ พระราม 3 ถนนเชื้อเพลิง มาบริหารจัดการเพิ่ม นอกเหนือจากการตั้งคณะทำงานในการตีมูลค่าพื้นที่มักกะสันเพื่อแลกกับการชำระหนี้คงค้างของ ร.ฟ.ท.ที่ค้างกระทรวงการคลังอยู่กว่า 8 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงการคลังจะทำสัญญาเช่าที่ระยะยาวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เช่น กรณีที่ดินตรงมักกะสัน ซึ่งมีจำนวน 490 ไร่ ว่าจะนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงสังคมและพาณิชย์อย่างไร
"ประเมินพื้นที่มักกะสันโดยจะต้องดูว่าจะจัดสรรอย่างไร ทั้งมาทำสวนสาธารณะคู่กับ บึงมักกะสัน เพื่อเป็นปอดกรุง เทพฯ เพิ่มเติม และการตีมูลค่าในพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งจะต้องประเมินเงินที่ได้กลับมาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่วนพื้นที่จตุจักร กม.11 หลังกระทรวงพลังงาน ที่แม่น้ำพระราม 3 ถนนเชื้อเพลิง ก็ต้องประเมินด้วยว่าคุ้มหรือไม่" นายกุลิศกล่าว
ทั้งนี้ การดำเนินการดัง กล่าวเป็นไปตามที่คณะกรรม การนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซูเปอร์ บอร์ด มีมติเห็นชอบให้กระทรวง การคลังมีสิทธิ์ในการใช้ประ โยชน์พื้นที่ของ ร.ฟ.ท.ในระยะยาว เพื่อชำระหนี้คงค้าง และให้กระทรวงการคลังมีสิทธิ์ร่วมพิจารณาในพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือ จากมักกะสัน
สำหรับ การใช้ประโยชน์จากการเช่าพื้นที่มักกะสัน ที่จะนำมาพัฒนาเป็นพื้นที่สวนสาธารณะคู่กับบึงมักกะสัน พื้นที่แก้มลิง และใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ทางกระทรวงการคลังได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อประเมินมูลค่าที่ดินและการใช้ประโยชน์ โดยมีนายสมหมาย ภาษี รมว.การคลัง เป็นประธาน ร่วมกับปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดคมนาคม ร.ฟ.ท. ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการประ เมินที่ดิน และ สคร. ซึ่งเบื้องต้นคาดว่ามูลค่าพื้นที่จะไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท จึงยังต้องหาที่ดินแปลงอื่นคือ บริเวณ กม.11 หลังกระทรวงพลังงาน เขต จตุจักร และที่ริมแม่น้ำ พระ ราม 3 ถนนเชื้อเพลิง เพื่อให้เพียงพอต่อการล้างภาระหนี้ที่คงค้างมากกว่า 8 หมื่นล้านบาท
ก่อนหน้านี้ นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนา รักษ์ กล่าวว่า ภาระหนี้ของ ร.ฟ.ท.ที่มีทั้งหมด 1.1 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นลูกหนี้การค้า ส่วนที่เหลือ 8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 5 หมื่นล้านบาท เป็นผลขาดทุนจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาล อีก 3 หมื่นล้านบาท เป็นผลการขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจปกติของ ร.ฟ.ท.เอง
ดังนั้น การนำที่ดิน ร.ฟ.ท. มาแลกกับการให้กระทรวงการ คลังรับภาระหนี้แทนนั้น กระ ทรวงการคลังจะพิจารณาเฉพาะภาระหนี้ที่เกิดจากนโยบายรัฐบาลเท่านั้น ซึ่งหากมูลค่าของที่ดินมักกะสันไม่พอต่อการลดหนี้วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ร.ฟ.ท.ก็จะพิจารณานำที่ดินแปลงอื่นๆ มามอบให้กระทรวงการคลังด้วย เช่น ที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วน ระยะเวลาเช่านั้นคาดว่านานสุดคงไม่เกิน 99 ปี.
คลังเล็งที่ดินรฟท.เพิ่มล้างหนี้ 8หมื่นล้าน
ข่าวสด : นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะพิจารณานำที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) บริเวณ ก.ม.11 หลังกระทรวงพลังงาน เขตจตุจักร และที่ริมแม่น้ำ พระราม 3 ถนนเชื้อเพลิง มาบริหารจัดการเพิ่ม นอกเหนือจากการตั้งคณะทำงานในการตีมูลค่าพื้นที่มักกะสัน เพื่อแลกกับการชำระหนี้คงค้างของรฟท. ที่ค้างกระทรวงการคลังอยู่กว่า 8 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงการคลังจะทำสัญญาเช่าที่ระระยาวจากรฟท. เช่น กรณีที่ดินตรงมักกะสันของรฟท. ซึ่งมีจำนวน 490 ไร่ ว่าจะนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงสังคมและพาณิชย์อย่างไร
“ประเมินพื้นที่มักกะสันโดยจะต้องดูว่าจะจัดสรรอย่างไร ทั้งมาทำสวนสาธารณะ คู่กับบึงมักกะสัน เพื่อเป็นปอดกรุงเทพฯ เพิ่มเติม และการตีมูลค่าในพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งจะต้องประเมินเงินที่ได้กลับมาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่วนพื้นที่จตุจักร กม.11 หลังกระทรวงพลังงาน ที่แม่น้ำพระราม 3 ถนนเชื้อเพลิง ก็ต้องประเมินด้วยว่าคุ้มหรือไม่“ นายกุลิศกล่าว
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ด มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังมีสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์พื้นที่ของรฟท. ในระยะยาว เพื่อชำระหนี้คงค้าง และให้กระทรวงการคลังมีสิทธิ์ร่วมพิจารณาในพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจากมักกะสัน
สำหรับ การใช้ประโยชน์จากการเช่าพื้นที่มักกะสัน ที่จะนำมาพัฒนาเป็นพื้นที่สวนสาธารณะคู่กับบึงมักกะสัน พื้นที่แก้มลิง และใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ทางกระทรวงการคลังได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อประเมินมูลค่าที่ดินและการใช้ประโยชน์ โดยมีนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เป็นประธาน ร่วมกับปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงคมนาคม รฟท. ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการประเมินที่ดิน และ สคร. ซึ่งเบื้องต้นคาดว่ามูลค่าพื้นที่จะไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท จึงให้ยังต้องหาที่ดินแปลงอื่นคือ บริเวณ ก.ม.11 หลังกระทรวงพลังงาน เขตจตุจักร และที่ริมแม่น้ำ พระราม 3 ถนนเชื้อเพลิง เพื่อให้เพียงพอต่อการล้างภาระหนี้ที่คงค้างมากกว่า 8 หมื่นล้านบาท