- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Friday, 17 April 2015 21:48
- Hits: 2311
ขสมก.เผยมี 2 รายผ่านคุณสมบัติเข้าเคาะราคาประมูลรถเมล์ NGV 22 เม.ย.
นางปราณี ศุกระศร กรรมการและรักษาการผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)เปิดเผยว่า คณะกรรมการประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ(NGV)จำนวน 489 คัน มีบริษัทที่ผ่านคุณสมบัติและด้านเทคนิคจำนวน 2 ราย จากผู้เข้ายื่นข้อเสนอมาทั้งหมด 5 ราย โดย 2 รายดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มกิจการร่วมค้า JVCC และ บริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด
จากนั้นทั้ง 2 รายจะเสนอราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ เลื่อนจากเดิมที่กำหนดในวันที่ 20 เม.ย.เนื่องจากการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและรายละเอียดด้านเทคนิคของผู้เสนอราคาที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและระยะเวลาในการพิจารณา
"เราขยายเวลาการตรวจสอบเอกสารครั้งแรกจะพิจารณาเสร็จในวันที่ 8 เม.ย.แต่ก็ขยายเวลาไปวันที่ 9-10 เม.ย. ทำให้การประมูลอีอ๊อคชั่นเลื่อนออกไปด้วย โดยมีผู้ผ่านคุณสมบัติอยู่ 2 ราย"นางปราณี กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
อนึ่ง โครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ(NGV)จำนวน 489 คันด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (ครั้งที่ 3) ราคากลาง ยังคงอยู่ที่ 3,65,000 บาทต่อคัน
ด้านนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน (CHO) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า กลุ่มกิจการร่วมค้า JVCC มี CHO ถือหุ้น 50% และ บริษัท ช.ทวีขอนแก่น ซึ่งเป็นบริษัทย่อยถือหุ้น 50% เป็น 1 ใน 2 รายที่ผ่านคุณสมบัติและด้านเทคนิคโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ(NGV) ล๊อตแรกจำนวน 489 คัน ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และเตรียมเสนอราคาด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 22 เม.ย.
นายสุรเดช อธิบายเหตุผลที่บริษัทกลับเข้ามาร่วมประมูลครั้งนี้ เพราะบริษัทในจีนที่เป็นซัพพลายเออร์ในการจัดหาประกอบรถได้ปรับลดราคาลงมาหลังจากที่ได้มีการเจรจากัน ทำให้บริษัทสามารถประมูลแช่งขันตามราคากลางที่ 3,650,000 บาทต่อคันได้ นอกจากนี้ บริษัทยังคาดหวังจะได้งานจัดหารถล็อตใหม่อีกกว่า 1 พันคัน
"ตอนแรกซัพพลายเออร์จีนไม่ลดราคา ทำให้ราคารภที่จัดหาสูงถึง 4-5 ล้านบาท เราจึงไม่เข้าร่วมประมูล แต่เมื่อได้เจรจาและจีนปรับลดราคาให้ซึ่งเขาอยากได้งานเพราะตอนนี้เศรษฐกิจจีนไม่ค่อยดี ทำให้เราสามารถประมูลได้"นายสุรเดช กล่าว
สำหรับบริษัท บริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัดซึ่งผ่านคุณสมบัติเช่นเดียวกันนั้น นายสุรเดช กล่าวว่า เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เพราะเจ้าของกิจการเป็นคนจึนที่มาดำเนินธุรกิจจำหน่ายรถบัสจีนในไทยนานแล้ว
อินโฟเควสท์
ขสมก.เผยมี 2 รายผ่านคุณสมบัติเข้าประมูลรถเมล์ NGV เตรียมประมูล 22 เม.ย.นี้
นางปราณี ศุกระศร กรรมการและรักษาการผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)เปิดเผยว่า คณะกรรมการประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ(NGV)จำนวน 489 คัน มีบริษัทที่ผ่านคุณสมบัติและด้านเทคนิคจำนวน 2 ราย จากผู้เข้ายื่นข้อเสนอมาทั้งหมด 5 ราย โดย 2 รายดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มกิจการร่วมค้า JVCC และ บริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด
จากนั้นทั้ง 2 รายจะเสนอราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ เลื่อนจากเดิมที่กำหนดในวันที่ 20 เม.ย.เนื่องจากการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและรายละเอียดด้านเทคนิคของผู้เสนอราคาที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและระยะเวลาในการพิจารณา
"เราขยายเวลาการตรวจสอบเอกสารครั้งแรกจะพิจารณาเสร็จในวันที่ 8 เม.ย.แต่ก็ขยายเวลาไปวันที่ 9-10 เม.ย. ทำให้การประมูลอีอ๊อคชั่นเลื่อนออกไปด้วย โดยมีผู้ผ่านคุณสมบัติอยู่ 2 ราย"นางปราณี กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
อนึ่ง โครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ(NGV)จำนวน 489 คันด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (ครั้งที่ 3) ราคากลาง ยังคงอยู่ที่ 3,65,000 บาทต่อคัน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
กิจการร่วมค้า VS กิจการค้าร่วม
กิจการค้าร่วม (Consortium) คือการประกอบธุรกิจที่มีลักษณะของการร่วมกันขององค์กรธุรกิจตั้งแต่สององค์กรขึ้นไป เพื่อดำเนินกิจการหนึ่งด้วยวัตถุประสงค์ คือการเข้าร่วมกันเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงตามแผนธุรกิจ แต่ละฝ่ายจะใช้ความสามารถและความชำนาญในการทำงานในส่วนที่ตนรับผิดชอบให้สำเร็จตามโครงการและมีการแบ่งแยกการทำงานไว้อย่างชัดเจน โดยต่างฝ่ายต่างออกใบแจ้งหนี้และใบเสร็จรับเงินเฉพาะบริษัทของตน
สัญญากิจการค้าร่วมเป็นเพียงการลงนามร่วมกันในการทำสัญญากับเจ้าของโครงการเท่านั้น เพราะแต่ละฝ่ายจะรับผิดชอบเฉพาะในส่วนของตน ไม่มีการร่วมทุนหรือแบ่งผลกำไรหรือขาดทุนระหว่างกัน เมื่องานเสร็จสิ้นแล้วก็จะยุติลงเหมืนอกับกิจการร่วมค้า กิจการร่วมค้าไม่มีชื่อเรียกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และประมวลกฎหมายรัษฎากร จึงไม่ต้องขอบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร แต่มีการเสียภาษีจากกำไรของแต่ละบริษัทนั่นเอง
Consortium จะมีลักษณะแตกต่างจาก Joint Venture กล่าวคือ สมาชิกของ Consortium นั้นจะมีการแบ่งแยกงานและเงินที่สมาชิกแต่ละคนจะได้รับจากเจ้าของโครงการ จะมีการร่วมกันก็เพียงแต่มาลงนามในสัญญาฉบับเดียวกันที่ทำกับเจ้าของโครงการเท่านั้นเอง โดย Consortium นั้นไม่ได้เป็นหน่วยภาษีแยกต่างหากจากผู้เป็นสมาชิกของ Consortium
จึงกล่าวได้ว่า Consortium นั้นสมาชิกแต่ละคนจะได้รับเงินในส่วนของงานที่ตนทำ จะกำไรหรือขาดทุนก็เป็นเรื่องของตน ไม่มีการไปรวมกับกำไรหรือขาดทุนของสมาชิก Consortium รายอื่นและสมาชิก Consortium แต่ละรายก็จะเสียภาษีโดยยื่นแบบแสดงรายการชำระภาษีของตนแยกแต่ละรายไป
ส่วนในแง่ความรับผิดนั้น สมาชิกของกิจการร่วมค้าจะรับผิดร่วมกันต่อเจ้าของโครงการ แต่ Consortium นั้น โดยปกติต่างคนต่างรับผิดชอบเฉพาะส่วนที่เป็นงานของตน แต่หากเจ้าของโครงการต้องการให้สมาชิกของ Consortium รับผิดชอบร่วมกันทั้งหมดก็ตกลงกันได้
คำว่า Consortium นั้นไม่มีการบัญญัติไว้ทั้งในประมาวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และประมวลรัษฎากร จึงไม่ต้องขอบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี และทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากไม่ใช่หน่วยภาษีที่แยกต่างหากจากสมาชิก Consortium
ที่มา: บริษัท พัฒนกิจ บัญชี ภาษีและฝึกอบรม จำกัด