- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Sunday, 12 April 2015 14:42
- Hits: 1810
กทพ.จัดตั้งหน่วยบริการประชาชนบนทางพิเศษ เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงเทศสงกรานต์ 2558 พร้อมยกเว้นค่าผ่านทางของทางพิเศษบูรพาวิถี
ณ บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษบางนา กม.6 (ขาออก) ทางพิเศษบูรพาวิถี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอำนวยความสะดวกและปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2558 ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม โดยมี พลโท วิวรรธน์ สุชาติ ประธานคณะกรรมการ กทพ. และนายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการ กทพ. ร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งหน่วยบริการประชาชน จะให้บริการ จำนวน 6 แห่ง ระหว่างวันที่ 9 เมษายน 2558 จนถึงวันที่ 20 เมษายน 2558 นอกจากนี้ กทพ. ยังได้ยกเว้นค่าผ่านทางของทางพิเศษบูรพาวิถีตลอดสายทาง ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 10 เมษายน 2558 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 19 เมษายน 2558 ทั้งนี้ ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ยังคงเก็บค่าผ่านทางตามปกติ
นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการ กทพ. เปิดเผยว่า เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์ 2558 มีวันหยุดยาว ต่อเนื่องหลายวัน ทำให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน กทพ. จึงได้กำหนดจัดโครงการเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2558 โดยกำหนดดังนี้
จัดหน่วยบริการประชาชนผู้ใช้ทางพิเศษ
โดย กทพ. จัดตั้งหน่วยบริการประชาชนบนทางพิเศษ เพื่อให้บริการฟรีในการตรวจเช็คเครื่องยนต์เบื้องต้น เติมลมยาง น้ำ น้ำกลั่น รวมทั้งบริการน้ำดื่ม นมเปรี้ยว น้ำนมข้าวโพด กาแฟ ผ้าเย็น ลูกอม ขนมขบเคี้ยว หมากฝรั่ง ยาดม พัด ผ้าขนหนูอเนกประสงค์ กระเป๋าผ้า พวงกุญแจ ปากกา แผนที่การเดินทาง กระเป๋ากันง่วง เอกสารประชาสัมพันธ์ และมีการรณรงค์ความปลอดภัยในด้านต่างๆ อาทิ ง่วงไม่ขับ เมาไม่ขับ ขับไม่โทร เป็นต้น โดยหน่วยบริการประชาชนฯ จัดไว้จำนวน 6 แห่งด้วยกันคือ
- ระหว่างวันที่ 9 - 20 เมษายน 2558 จัดหน่วยบริการที่ด่านฯ บางแก้ว 1
- ระหว่างวันที่ 9 - 14 เมษายน 2558จัดหน่วยบริการที่ด่านฯ ประชาชื่น (ขาออก) ด่านฯ บางปะอิน (ขาออก) และด่านฯบางนา กม.6 (ขาออก)
- ระหว่างวันที่ 15 -20 เมษายน 2558 จัดหน่วยบริการที่ด่านฯ บางปะอิน(ขาเข้า) และด่านฯ จตุโชติ
การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
- จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานจัดการจราจร อำนวยความสะดวกเพิ่มเติมในบริเวณที่เป็นเส้นทางเดินทาง เข้า-ออก กรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่ทางพิเศษทุกสายทาง ตลอด 24 ชั่วโมง
- จัดพนักงานเก็บค่าผ่านทางพิเศษเพิ่มเติม เพื่อให้บริการจัดเก็บค่าผ่านทางฯ ทุกช่องทาง โดยเฉพาะด่านฯ ขาเข้าและขาออกเมือง
- จัดพนักงานสื่อสารประจำศูนย์ควบคุมทางพิเศษทุกสายทาง โดยใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิดดูแล ตรวจตราตลอดเส้นทาง รวมทั้งควบคุมสั่งการและประชาสัมพันธ์สภาพการจราจรผ่านป้ายปรับเปลี่ยนข้อความ (VMS) และวิทยุจราจร (จส.100,สวพ.91)
- จัดพนักงาน EXAT Call Center ให้บริการสอบถามข้อมูลและสภาพการจราจรบนทางพิเศษ ตลอด 24 ชั่วโมง
การอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย
- จัดหน่วยเฉพาะกิจทางพิเศษ ซึ่งประกอบด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ 30 นาย พร้อมรถจักรยานยนต์ เคลื่อนที่เร็ว พร้อมอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ติดสัญญญานไฟวับวาบ เพื่อออกตรวจตราและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุต่างๆ บนทางพิเศษโดยเร็วที่สุด
- จัดรถกู้ภัยตรวจตราดูแลสิ่งผิดปกติบนทางพิเศษ เพื่อรักษาความปลอดภัยและมีรถยกประจำจุด ตลอดเส้นทาง
- จัดพนักงานจัดการจราจรร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด่วนตั้งจุดตรวจสอบวินัยจราจร โดยมีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ตรวจจับความเร็ว รวมถึงตรวจสอบกวดขันรถกระบะที่มีคนนั่งท้ายกระบะ โดยไม่มีหลังคาคลุมหรือผูกมัดสิ่งของให้มั่นคงแข็งแรง
นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการทางพิเศษยังถามข้อมูลสภาพการจราจรบนทางพิเศษตรวจสอบระยะทาง และอัตราค่าผ่านทาง ฯลฯ ผ่านทาง www.exat.co.th ด้วยโปรแกรม IMAP : Interactive Map และระบบรายงานสภาพการจราจรบนทางพิเศษบนโทรศัพท์มือถือ (Smart phone) ผ่าน Application “EXAT ITS” โดยสามารถ download ได้จาก App Store ใช้ได้ทุกระบบปฏิบัติการ (IOS , Android ) ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการวางแผนการเดินทางอีกด้วย
“การยกเว้นค่าผ่านทางของทางพิเศษบูรพาวิถี จะช่วยให้ประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวได้รับความสะดวก รวดเร็วในการใช้บริการทางพิเศษเพื่อเดินทางไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้อย่างสะดวก อย่างไรก็ตาม กทพ. อยากฝากให้ผู้ใช้บริการทางพิเศษทุกท่านโปรดตรวจสอบสภาพรถให้อยู่ในสภาพที่พร้อมจะเดินทาง และประการสำคัญที่สุดคือ “ง่วงอย่าขับ” “เมาไม่ขับ” และ “ขับไม่โทร” และกรณีที่ท่านไม่ได้รับความสะดวกหรือมีเหตุขัดข้องบนทางพิเศษ สามารถติดต่อศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ (EXAT Call Center) ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1543 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือใช้โทรศัพท์ฉุกเฉินที่ติดตั้งอยู่บนทางพิเศษทุกระยะ 500-1,000 เมตร แจ้งเหตุได้เช่นกัน” นายอัยยณัฐฯ กล่าวในท้ายที่สุด
