WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ก.คมนาคม ประกาศค่าโดยสารแท็กซี่มิเตอร์อัตราใหม่ รถติดนาทีละ 2 บาท

      ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI - METER)ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร

     ตามที่กระทรวงคมนาคมได้ออกประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุก คนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI - METER) ที่จดทะเบียนในเขต กรุงเทพมหานคร ฉบับประกาศ ณ วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๑ นั้น

     โดยที่อัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI - METER) ได้ใช้บังคับมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งเป็นระยะเวลานานแล้ว ประกอบกับราคาเชื้อเพลิง และค่าครองชีพได้ปรับตัวสูงขึ้น จึงสมควรแก้ไขปรับปรุงประกาศกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนเสียใหม่ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน

     อาศัยอำนาจตามความในข้อ๑๕แห่งกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสาร ไม่เกินเจ็ดคนที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๕๐ ออกตามความในพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

          ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI - METER) ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร ฉบับประกาศ ณ วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๑

          ข้อ ๒ อัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร ให้กำหนด ดังนี้

          ระยะทาง ๑ กิโลเมตรแรก ๓๕.๐๐ บาท

          ระยะทางเกินกว่า ๑ กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ ๑๐ กิโลเมตรละ ๕.๕๐ บาท

          ระยะทางเกินกว่า ๑๐ กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ ๒๐ กิโลเมตรละ ๖.๕๐ บาท

          ระยะทางเกินกว่า ๒๐ กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ ๔๐ กิโลเมตรละ ๗.๕๐ บาท

          ระยะทางเกินกว่า ๔๐ กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ ๖๐ กิโลเมตรละ ๘.๐๐ บาท

          ระยะทางเกินกว่า ๖๐ กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ ๘๐ กิโลเมตรละ ๙.๐๐ บาท

          ระยะทางเกินกว่า ๘๐ กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ ๑๐.๕๐ บาท

          กรณีรถไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเดินรถต่อไปได้เกินกว่า ๖ กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตรานาทีละ ๒.๐๐ บาท

          ข้อ ๓ อัตราค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจากค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร ให้กำหนด ดังนี้

          (๑) กรณีการจ้างผ่านศูนย์บริการสื่อสารของผู้รับจ้าง ให้เรียกเก็บค่าจ้างเพิ่มขึ้นจากที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสารอีก ๒๐ บาท

          (๒) กรณีการจ้างจากท่าอากาศยานดอนเมืองหรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยรถยนต์รับจ้างนั้น จอดรอคนโดยสารอยู่ในท่าอากาศยาน ณ จุดที่ได้จัดไว้เป็นการเฉพาะ ให้เรียกเก็บค่าจ้างเพิ่มขึ้นจากที่ แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสารอีก ๕๐ บาท

          ข้อ ๔ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

          ประกาศณวันที่๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

          พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ค่าแท็กซี่ อัตราใหม่สะดุด ชี้ขึ้นได้หลังผ่านตรวจสอบมาตรฐานแล้ว

      แนวหน้า : กรมการขนส่งทางบก ยันขณะนี้ยังไม่มีรถแท็กซี่ที่ใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ แม้ว่าประกาศจะมีผลบังคับใช้แล้ว เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพรถ คาดปีใหม่นี้จะเริ่มเก็บอัตราใหม่ เผยมีรถตรวจสอบสภาพแล้วกว่า 36,000 คัน

     นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยภายหลังติดตามการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพรถแท็กซี่ก่อนปรับอัตราค่าโดยสารใหม่ระยะที่ 1 เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2557 ว่า ปัจจุบันยังไม่มีรถแท็กซี่ที่ใช้อัตราค่าโดยสารใหม่เพราะยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพรถตามหลักเกณฑ์การใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ที่จะต้องผ่านการดำเนินการจนครบถ้วนทั้ง 3 ขั้นตอน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนที่ 1 คือ การตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพรถโดยกรมการขนส่งทางบกอำนวยความสะดวกให้นำรถเข้าตรวจได้ทั้งที่สำนักงานขนส่งพื้นที่ 1-5,ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. ไม่เว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

     ทั้งนี้ ในส่วนของขั้นตอนที่ 2 จะดำเนินการตรวจสอบมาตรค่าโดยสารต้นแบบที่ปรับอัตราค่าโดยสารใหม่จากผู้ผลิต และขั้นตอนที่ 3 รถแท็กซี่ต้องเข้ารับการปรับจูนมาตรค่าโดยสารใหม่และผ่านการซีลตะกั่วที่มาตรค่าโดยสารเพื่อติดสติ๊กเกอร์ผ่านการตรวจยกระดับและปรับจูนมิเตอร์ โดยคาดว่าจะเริ่มต้นปรับจูนอัตราค่าโดยสารใหม่ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2557 ซึ่งภายหลังจากที่มีการประกาศอัตราค่าโดยสารใหม่ระยะที่ 1 มีรถแท็กซี่มิเตอร์เร่งนำเข้าตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพกันอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหลังจากประกาศอัตราค่าโดยสารใหม่ มีรถแท็กซี่เข้าตรวจสอบสภาพรถถึงเกือบ 3,000 คัน ส่งผลให้ปัจจุบันมีรถแท็กซี่เข้าตรวจสอบสภาพแล้วประมาณ 36,000 คัน

     สำหรับ อัตราค่าโดยสารใหม่มีรายละเอียดได้แก่ ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 35 บาท ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 5.50 เพิ่มขึ้นจากเดิมกิโลเมตรละ 50 สตางค์ ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 6.50 เพิ่มขึ้นจากเดิมกิโลเมตรละ 1 บาท ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 7.50 เพิ่มขึ้นจากเดิมกิโลเมตรละ 1.50บาท ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.00 เพิ่มขึ้นจากเดิมกิโลเมตรละ 1.50 บาท ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9.00 เพิ่มขึ้นจากเดิมกิโลเมตรละ 1.50 บาท ระยะทางเกินกว่า80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 เพิ่มขึ้นจากเดิมกิโลเมตรละ 2 บาท

      ซึ่งหากเกิดกรณีรถไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเดินรถต่อไปได้เกินกว่า 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตรานาทีละ 2 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมนาทีละ 50 สตางค์ สำหรับกรณีการเรียกรถแท็กซี่ผ่านศูนย์บริการสื่อสารของผู้รับจ้าง ให้เรียกเก็บค่าจ้างเพิ่มขึ้นจากที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสารอีก 20 บาท ซึ่งเป็นอัตราเดิม ส่วนการเรียกรถแท็กซี่จากท่าอากาศยานดอนเมืองหรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ จุดที่จัดไว้เฉพาะสามารถเรียกเก็บค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสารอีก 50 บาท ซึ่งเป็นอัตราเดิม

     นอกจากนี้ ภายหลังการปรับอัตราค่าโดยสารใหม่จะทำการประเมินและตรวจสอบคุณภาพการให้บริการก่อนประกาศปรับอัตราค่าโดยสารระยะที่ 2 จึงขอให้ผู้ประกอบการและผู้ขับรถแท็กซี่พัฒนาคุณภาพการให้บริการทั้งสภาพรถและมารยาทคนขับเพื่อสร้างความพึงพอใจต่อผู้ใช้บริการในระยะยาวต่อไป ทั้งนี้หากประชาชนพบรถแท็กซี่ที่ยังคงมีพฤติกรรมปฏิเสธผู้โดยสาร ขับรถประมาท พูดจาไม่สุภาพ แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

      ก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคม อนุมัติให้ปรับค่าโดยสารรถแท็กซี่ใหม่อีกร้อยละ 8 ตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. 2557 ที่ผ่านมาและอีก 6 เดือน (ช่วงที่ 2) จะปรับอัตราค่าโดยสารอีกร้อยละ 5

'อุเทน'สวดยับรัฐขึ้นราคาแท็กซี่ แก้ไม่ตรงจุดผลักภาระให้ปชช.

       แนวหน้า : นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค “Utain Shartpinyo” ถึงกรณีที่กระทรวงคมนาคมออกประกาศให้ปรับขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่มิเตอร์ มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยระบุว่า การแก้ไขปัญหารถแท็กซี่มิเตอร์ ด้วยการขึ้นราคาค่าโดยสาร ผลักภาระให้กับประชาชน ทั้งๆ ที่อัตราค่าโดยสารในปัจจุบัน ไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ผู้ขับรถแท็กซี่ขาดทุน หรือไม่จอดรับผู้โดยสาร แต่ปัญหาอยู่ที่ 1.จำนวนรถแท็กซี่มิเตอร์ มีมากกว่าผู้ต้องการใช้รถในช่วงเวลาปกติ ทำให้ต้องวิ่งรอกหาผู้โดยสาร เป็นเหตุให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและเสียเวลา 2.รถแท็กซี่มิเตอร์ส่วนใหญ่ เป็นรถที่เช่ามาขับเป็นกะ มีช่วงเวลาที่ต้องส่งคืนรถ โดยอู่ส่วนใหญ่กำหนดเวลาส่งคืนแทบจะเวลาเดียวกัน ส่งผลให้รถแท็กซี่มิเตอร์มีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการในช่วงเวลาดังกล่าว และ 3.ค่าเช่ารถที่แพงเกินไป ซึ่งต้องถามว่าเจ้าของอู่แท็กซี่มิเตอร์ที่มีรายได้จากค่าเช่าที่สูงนี้เสียภาษีรายได้บ้างหรือไม่ จากประเด็นปัญหา 3 ข้อนี้ ส่วนตัวจึงมีคำถามไปถึง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่าคิดเป็นทำได้หรือไม่

   “ยิ่งอยู่นาน ยิ่งเห็นว่า ทั้งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลนี้คิดไม่ได้ ทำไม่เป็น และเมื่อคนที่มีวาสนามีอำนาจยังคิดไม่ได้ ทำไม่เป็น และไม่แสวงหาข้อมูลจริงๆ จากบุคคลที่ควร แต่กลับวิ่งหาข้อมูลจากบุคคลเก่าๆ หน้าเดิมๆ แล้วความจริงจะปรากฎได้อย่างไร จึงทำแต่สิ่งผิดๆพลาดๆ แก้ปัญหาให้กับประเทศชาติไม่สำเร็จ สุดท้ายประชาชนจึงทุกข์ยากลำบากเช่นทุกวันนี้” นายอุเทน ระบุ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!