- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Tuesday, 11 November 2014 19:43
- Hits: 2667
ไฟเขียวแท๊กซี่ ปรับค่าโดยสาร 2 ครั้ง คมนาคมอ้างยกระดับบริการ
แนวหน้า : นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมกรมการการขนส่งทางบก และมอบนโยบายการบริหารว่า เป็นการหารือรับฟังการดำเนินงานและการกำกับดูแลของกรมการขนส่งทางบกในปีหน้า เพราะรถโดยสารที่จดทะเบียนในประเทศไทยมีถึง 35 ล้านคัน แบ่งเป็นรถยนต์และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 34 ล้านคัน และรถโดยสารสาธารณะ 1 ล้านคัน
ทั้งนี้ ยืนยันว่า จะสามารถตรวจสภาพรถแท๊กซี่ได้ครบ 110,000 คัน ที่มีอยู่ในระบบได้ก่อนการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารในเดือน ธ.ค.แน่นอน และยืนยันที่จะให้มีการตรวจสภาพรถแท๊กซี่และปรับค่าโดยสาร 2 ครั้งเช่นเดิม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชนและให้เกิดการบริการที่ดี จะตั้งคณะทำงานร่วมกันในการจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะทั้งรถโดยสารสาธารณะ รถจักรยานยนต์รับจ้าง และรถแท๊กซี่ เพื่อยกระดับการให้บริการ
สำหรับ การปรับจูนมิเตอร์เพื่อเตรียมขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่มิเตอร์ ขณะนี้ อยู่ระหว่างการให้รถแท๊กซี่เข้าตรวจสภาพรถเพื่อรอประกาศการปรับขึ้นค่าโดยสารจากกระทรวงคมนาคม โดยในวันที่ 3-6 พ.ย.ที่ผ่านมามีรถแท๊กซี่เข้าตรวจสภาพแล้ว 3,591 คัน และผ่านการตรวจ 2,759 คัน หรือ 76% ซึ่งเป็นการตรวจสภาพรถที่เข้มงวดทั้งการตรวจสภาพภายในและภายนอก
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษคือความมีมาตรฐานและปลอดภัย เช่นการยกระดับการอบรมก่อนสอบใบขับขี่จาก 2 ชั่วโมงเป็น 4 ชั่วโมง เพราะต้องการให้ผู้ที่ขับขี่รถยนต์บนท้องถนนเกิดความปลอดภัยมากที่สุด และในส่วนของรถบรรทุกในอนาคต หากต้องการที่ทำใบขับขี่จะต้องผ่านการอบรมจากศูนย์อบรมผู้ขับรถบรรทุกสาธารณะที่จังหวัดชัยภูมิ รวมถึงได้เตรียมยกระดับสถานีให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารทางถนน ให้เทียบกับเท่ากับสนามบิน เพื่อให้ผู้ที่ใช้บริการทางถนนได้รับการบริการที่ดี โดยจะเริ่มต้นที่บึงกาฬ และจะทำโครงการต่อเนื่องในปีหน้าที่จังหวัดพังงา
นอกจากนี้ ในส่วนประเด็นที่มีข้อสงสัยเรื่องการให้บริการรถแท๊กซี่ ของผู้ประกอบการ Uber Taxi ว่าถูกกฏหมายหรือไม่ ขณะนี้ได้ให้ทางกรมการขนส่งทางบกเรียกผู้ประกอบการ Uber Taxi เข้ามาดำเนินการเรื่องใบอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เพราะผู้ให้บริการ Uber Taxi ยังทำผิดกฎหมายเรื่องการใช้อุปกรณ์สื่อสารผิดประเภทและใช้รถผิดประเภท ซึ่งหากผู้ประกอบการ Uber Taxi ไม่เข้ามาที่กรมการขนส่งทางบกตามที่กำหนด ก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที
ส่วนการพัฒนาเขตการค้าชายแดนที่เป็นเขตเศรษฐกิจทั้ง 6 แห่งได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกกลับไปจัดทำแผนการพัฒนาการจัดระเบียบรถเข้า-ออก การตรวจสอบเอกสารและการตรวจสอบใบขับขี่จะต้องเข้มงวด ทั้งนี้หลังจากที่ประเทศไทยได้ทำข้อตกลงกับกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและกลุ่มอาเซียนในการเดินรถข้ามประเทศ ก็น่าจะทำให้การเดินรถระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียนจะมีระบบมากขึ้น ทั้งในด้านกฎหมายที่จะลงโทษผู้กระทำผิดและการได้รับประกันหลังเกิดอุบัติเหตุ