- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Tuesday, 02 October 2018 17:02
- Hits: 7034
กรมการขนส่งทางบก ย้ำการกำหนดอายุการใช้งานรถตู้โดยสารประจำทางไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก เพื่อมาตรฐานความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ยืนยันพร้อมเสริมรถโดยสารจากทุกเส้นทางรองรับหากรถตู้หยุดวิ่งให้บริการ และจัดตั้งศูนย์ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับประชาชน
นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง รักษาราชการแทน อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึง กรณีรถตู้โดยสารประจำทางที่วิ่งเส้นทางในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 20 เส้นทาง ซึ่งจะครบกำหนดอายุ 10 ปี ในวันที่ 30 กันยายนนี้ และจะหยุดวิ่งให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 พบว่าในปี 2560 - 2561 จะมีรถตู้ที่หมดอายุการใช้งานจำนวนรถ 954 คัน ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นรถตู้ซึ่งจะครบอายุการใช้งาน 10 ปี ในวันที่ 30 กันยายน 2561 เพียง 584 คัน มิใช่เป็นจำนวนมากถึง 1,800 คัน ดังที่ปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อต่างๆ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้จัดให้มีการประชุมร่วมกับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)
และ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พร้อมทั้งได้เชิญตัวแทนรถตู้ทั้ง 20 เส้นทาง รับทราบและทำความเข้าใจถึงมาตรการกำหนดอายุรถตู้ 10 ปี ซึ่งเริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2553 เนื่องจากได้พิจารณาด้านสภาพรถที่เก่าเครื่องอุปกรณ์ชำรุดจะมีค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่ารถใหม่ ทำให้เกิดความไม่คุ้มทุนและรถที่มีอายุเกิน 10 ปี บริษัทประกันภัยจะไม่รับจัดทำประกันภัยให้ ซึ่งจะสร้างปัญหาให้กับเจ้าของรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนรถอายุการใช้งานมากจะก่อให้เกิดปัญหาด้านมลพิษทางอากาศ โดยผู้แทนกลุ่มรถตู้ได้รับทราบและยินดีให้ความร่วมมือกับทางราชการ
นายพีระพล ฯ กล่าวต่อไปว่า เพื่อการติดตามและแก้ไขปัญหาการเดินรถตู้โดยสารประจำทาง พร้อมประเมินสถานการณ์การเดินรถอย่างต่อเนื่องให้เพียงพอ ไม่ให้ส่งผลกระทบแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ คณะทำงานได้มีการตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแก้ปัญหาและการสำรองรถ ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ในเบื้องเบื้องต้นกรมการขนส่งทางบกได้ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถตู้โดยสารที่ให้บริการในเส้นทางอื่นที่มีปริมาณรถมากแบ่งมาเสริมในเส้นทางที่มีรถตู้ไม่เพียงพอตามสัดส่วน พร้อมทั้งจัดรถโดยสารปรับอากาศจำนวน 65 คัน เพื่อสำรองให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารในทันทีที่รถตู้มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดย ขสมก. จะส่งรถโดยสารมาสำรองในพื้นที่ทั้ง 4 จุด เริ่มตั้งแต่เวลา 05.30 น. ของวันที่ 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกได้จัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จรถตู้โดยสารประจำทาง ณ บริเวณอาคาร 3 ชั้น 1 อำนวยความสะดวกให้คำปรึกษาแนะนำกรณีรถตู้โดยสารประจำทางจะครบกำหนดอายุ 10 ปี และขั้นตอนการจดทะเบียนรถแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One stop service) เพื่อช่วยเหลือเจ้าของรถในกรณีที่มีความประสงค์ที่จะทำการเปลี่ยนรถทดแทนรถคันเดิมที่หมดอายุให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งจากตัวเลขการขอเปลี่ยนรถตู้ใหม่ที่ครบอายุการใช้งานขณะนี้พบว่า เจ้าของรถตู้คันเดิมได้แจ้งความประสงค์และยื่นขอเปลี่ยนรถกับ ขสมก.แล้วจำนวน 391 คัน นายพีระพลฯ กล่าวทิ้งท้าย
Click Donate Support Web