- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Thursday, 07 June 2018 22:45
- Hits: 3678
JICA ชงผลสำรวจเขตศก.ทวายเตรียมนัดถก3ฝ่ายปลายมิถุนายนนี้
แนวหน้า : นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ให้คณะผู้แทน Japan Internationnal Cooperation Agency (JICA) เข้าพบ เพื่อนำเสนอร่างรายงานฉบับสุดท้ายของการสำรวจโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย
นายอาคม เปิดเผยว่าJICA ได้นำเสนอร่างรายงานฉบับสุดท้ายการสำรวจโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย แผนแม่บทการพัฒนา ซึ่งได้ศึกษาเพิ่มเติมจากการศึกษาระหว่างไทย-เมียนมา โดย JICA จะนัดประชุมหารือความร่วมมือ 3 ฝ่าย ระหว่าง JICA-ไทย - เมียนมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อประชุมหารือและแก้ไขร่างรายงานฉบับสุดท้ายของการสำรวจโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย เช่น รายละเอียดเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนมากขึ้น
โดยการศึกษาเพิ่มเติมจากแผนแม่บทดังกล่าวที่ทาง JICA เป็นผู้จัดทำการศึกษาได้รับความเห็นชอบระหว่างไทยกับเมียนมาแล้ว การดำเนินการโครงการเป็นความร่วมมือทั้ง 3 ฝ่าย JICAจึงทำการศึกษาเพิ่มเติมให้ ซึ่งจะนัดประชุมหารือกันในส่วนของคณะทำงานก่อนทั้ง 3 ฝ่ายช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนแม่บทที่ได้รับความเห็นชอบแบ่งเป็นระยะเริ่มต้นและเต็มรูปแบบการศึกษาใหม่นี้มีอะไรที่จะศึกษาเพิ่มเติมหรือไม่เพื่อนำไปสู่ความจำเป็นในการปรับปรุงแผนแม่บทที่จะได้รับความเห็นชอบใหม่
ทั้งนี้ แผนแม่บทที่ JICA ศึกษาจะมีความแตกต่างเรื่องประเภทอุตสาหกรรมโดยจะไม่มีประเภทอุตสาหกรรมใหญ่เช่นอุตสาหกรรมเหล็ก เนื่องจาก JICA มองว่า เมียนมายังจำเป็นที่ต้องใช้อุตสาหกรรมแรงงานอยู่ไม่จำเป็นต้องเป็นอุตสาหกรรมไฮเทคเพราะอุตสาหกรรมไฮเทคฐานการผลิตจะอยู่ที่ฝั่งไทย เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีไม่จำเป็นต้องมีอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ฝั่งเมียนมาอีกและไทยใช้ท่อแก๊สจากเมียนมา อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าหากเป็นอุตสาหกรรมแรงงาน ทำให้เกิดประโยชน์กับเมียนมาและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมกับไทยได้
ส่วนการแบ่งระยะการพัฒนาแผนนี้ จะยาวกว่าแผนเดิม ซึ่งแผนเดิมแบ่งเป็น ระยะเวลา ปี 2573, 2583 และ 2593 จนกว่าจะพัฒนาเต็มรูปแบบขณะที่แผนใหม่มีระยะเวลาใกล้เคียงกัน แต่งานที่ต้องเสร็จในแต่ละช่วงจะแตกต่างกัน โดยจะยืดเวลาออกไป เช่นท่าเรือ อาจจะไม่เริ่มภายในปีที่กำหนดไว้ แต่อาจจะเริ่มต้นได้อีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะประเมินด้านความพร้อมเป็นหลัก เพราะ นักลงทุนต้องการความมั่นใจและเห็นโครงสร้างพื้นฐานอย่างถนนเกิดขึ้นก่อน
อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างถนนที่จะเชื่อมไปยังทวายปัจจุบันสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน(องค์การมหาชน) (สพพ.) กำลังขอศึกษาทบทวนแนวเส้นทางและออกแบบรายละเอียด โดยสพพ. จะเป็นหน่วยงานที่จ้างที่ปรึกษาทบทวนและออกแบบรายละเอียดดังกล่าว คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาไม่นาน นอกจากนี้ สพพ. จะให้งบศึกษาทบทวน เพื่อไปสู่การให้เงินกู้กับเมียนมา ขณะนี้เมียนมาได้เสนอโครงการดังกล่าวต่อรัฐบาลเมียนมาแล้ว และเห็นชอบให้กู้เงินจากไทย แต่ไทยขอเวลาในการทบทวนแบบกับเส้นทางก่อน