WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aKFC9

ยัม ประเทศไทย ก้าวสู่ 'ผู้บริหารแบรนด์และแฟรนไชส์เคเอฟซี'เต็มตัว เปิดตัวแฟรนไชส์ซีรายที่สาม เดอะคิวเอสอาร์ ออฟ เอเชียภายใต้ข้อตกลงการรับสิทธิ์เข้าบริหารร้านเคเอฟซีมากกว่า 240 ร้านในประเทศไทย

     ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เจ้าของแฟรนไชส์แบรนด์เคเอฟซี ประกาศเดินหน้าการเติบโต พร้อมขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารแบรนด์และแฟรนไชส์แบรนด์เคเอฟซีเต็มตัว หลังจากลงนามในข้อตกลงพันธมิตรแฟรนไชส์กับแฟรนไชส์ซีรายที่สาม บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (QSA) หรือ ‘คิวเอสเอ’ทำให้เคเอฟซี ปรับบทบาทและกระบวนทัพเป็น ศูนย์กลางการพัฒนาแบรนด์และแฟรนไชส์ (Brand Innovation Center) กุมบังเหียนวางกลยุทธ์แบรนด์ การตลาด และนวตกรรมด้านสินค้าและบริการ รวมถึงแผนการบริหารดูแลแฟรนไชส์เพื่อร่วมสร้างการเติบโตของร้านเคเอฟซี สู่เป้าการขยายสาขากว่า 800 สาขาทั่วประเทศ และครองอันดับ 1 แบรนด์ร้านอาหารบริการด่วนในไทย

       จากข้อตกลงครั้งนี้ ยัม ประเทศไทย ตกลงมอบสิทธิ์การเป็นแฟรนไชส์ซีแก่บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (QSA) หรือ 'คิวเอสเอ' ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท ฟู๊ดออฟเอเชีย จำกัด (FOA) หรือ “เอฟโอเอ” บริษัทผู้ผลิตภัณฑ์อาหารชั้นนำของไทยในเครือไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยจะเข้าบริหารและปรับปรุงร้านเคเอฟซีมากกว่า 240 ร้าน ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การขยายแฟรนไชส์เพื่อการเติบโตทางธุรกิจ ด้วยการหาแฟรนไชส์ซีและเน้นสร้างนวัตกรรมของแบรนด์ให้โดดเด่นและเข้าถึงผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้นตามประกาศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพือเป็นไปตามเป้าหมายการขยายสาขาทั่วประเทศไทยมากกว่า 800 สาขาภายในไม่กี่ปีข้างหน้า

       การเพิ่มพันธมิตรแฟรนไชส์ของยัม ประเทศไทยนี้ ดำเนินไปตามนโยบายของบริษัทแม่ ยัม! แบรนด์ ในการสร้างการเติบโตของธุรกิจแบบก้าวกระโดดและขับเคลื่อนความสำเร็จของแบรนด์เคเอฟซีทั่วโลก โดย ยัม ประเทศไทย ได้พิจารณาคัดเลือกแฟรนไชส์ซี จากความพร้อมและศักยภาพในการเข้าบริหารและดูแลร้านเคเอฟซีอย่างดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมผ่านสินค้าคุณภาพและบริการประทับใจ

        โรเจอร์ อีตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคเอฟซี โกลบอล กล่าวว่า “เราตื่นเต้นมากที่ได้ต้อนรับพันธมิตรแฟรนไชส์รายใหม่ คิวเอสเอ ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะส่งมอบสิ่งดีๆ แก่ลูกค้า ความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และความชำนาญในธุรกิจ เหล่านี้คาดว่า คิวเอสเอจะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมเพื่อผลักดันให้เคเอฟซี ก้าวไปข้างหน้าในฐานะแบรนด์ที่โดดเด่นที่สุดในประเทศไทยต่อไป”

       เคเอฟซี เป็นแบรนด์ร้านอาหารบริการด่วนอันดับ 1 ของประเทศไทยมานานกว่า 33 ปี เป็นแบรนด์ที่มีสาขาเข้าถึงลูกค้ามากที่สุดและมีลูกค้าใช้บริการถี่ที่สุด เคเอฟซีมีสัดส่วนของลูกค้าที่เข้ามาร้านเคเอฟซีสูงถึง 49%[1] เทียบกับร้านอาหารที่มีสาขาอยู่ทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า โรงหนัง หรือไฮเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทย ทั้งนี้ เคเอฟซี ประเทศไทยยังได้รับรางวัลทั้งระดับโลกและระดับประเทศจากองค์กรที่ได้รับความเชื่อถือมากมาย อาทิ ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 แบรนด์ยอดเยี่ยม Best Buzz Brand Award จาก YouGov[2] , รางวัล Best Brand Performance บนเฟสบุ๊คจาก Thailand Zocial[3] Award 2017 และรางวัลแบรนด์ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนอันดับ 1 ของไทยจาก Marketeer[4] เป็นต้น

      ด้านนางแววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้จัดการทั่วไป เคเอฟซีประเทศไทย กล่าวว่า “เคเอฟซี ประเทศไทย ยินดีต้อนรับ เดอะ คิวเอสอาร์ออฟ เอเชีย ในฐานะแฟรนไชส์ซีรายใหม่ของเรา เราได้เห็นถึงความชื่นชอบในแบรนด์เคเอฟซี ความใส่ใจดูแลในพนักงาน ความมุ่งมั่นสร้างการเติบโตทางธุรกิจ และศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง จึงทำให้มั่นใจว่า ด้วยความร่วมมือกันระหว่าง ยัม ประเทศไทย และแฟรนไชส์ซี่ทั้งสามรายของเรานี้ จะทำให้แบรนด์เคเอฟซีในประเทศไทยนั้นยิ่งมีความโดดเด่นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าที่ผ่าน โดยคิวเอสเอจะเข้ามาเป็นพันธมิตรที่ร่วมสร้างการเติบโตสู่เป้าหมายการขยายร้านเคเอฟซีกว่า 800 ร้านที่ดีอย่างแน่นอน”

      ด้านนางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ คิวเอสอาร์ออฟเอเชีย กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นกับการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเคเอฟซี ฟู๊ดออฟเอเชียมีวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำธุรกิจอาหารคุณภาพของอาเซียนที่ครองใจผู้บริโภคสูงสุด และตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทุกไลฟ์สไตล์และทุกโอกาส  เคเอฟซี ถือเป็นต้นแบบของธุรกิจด้านร้านอาหารบริการด่วนในประเทศไทยและมีโอกาสการเติบโตสูงมาก เราทั้งคู่เป็นพันธมิตรที่เหมาะสมด้วยต่างเป็นองค์กรที่แข็งแกร่ง มีสถานะทางการเงินเข้มแข็ง และพร้อมด้วยประสบการณ์ในธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งทำให้เราสามารถเดินหน้าสร้างและบริหารร้านเคเอฟซีได้อย่างรวดเร็ว”

      ยัม ประเทศไทย จะมีบทบาทในฐานะผู้บริหารแบรนด์และดูแลแฟรนไชส์ซี โดยจะมุ่งเน้นไปที่การเติบโตทางธุรกิจและนวัตกรรม รวมถึงการรักษามาตรฐานด้านการปฎิบัติงานของร้านฯ และด้านอื่นๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับโลกของแบรนด์เคเอฟซี ในขณะที่ผู้ได้รับสิทธิ์ในการบริหารร้านหรือแฟรนไชส์ซี จะมุ่งเน้นไปที่การดำเนินกิจการร้านและการขยายสาขา  ในประเทศไทย มีร้านเคเอฟซีจำนวน 601 สาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2560) ดำเนินงานโดย เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป, เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ และ ยัม ประเทศไทย การโอนกรรมสิทธิ์การบริหารร้านเคเอฟซีให้กับ เดอะคิวเอสอาร์ออฟเอเชีย คาดว่าจะแล้วเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2560

      ข้อตกลงครั้งนี้ มีไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ หรือ พีดับบลิวซี เป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน และมี เบเกอร์ แมคเคนซี่ เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

เกี่ยวกับเคเอฟซี ประเทศไทย

          เคเอฟซี เป็นหนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารบริการด่วนที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมทั่วโลก ก่อตั้งโดยผู้พันฮาร์แลนด์ แซนเดอร์ ในปี พ.ศ. 2495 เพื่อส่งมอบไก่ทอดสูตรต้นตำรับและเมนูอาหารที่มีคุณภาพและคุ้มราตาให้กับลูกค้าทั่วโลก ในประเทศไทย ร้านเคเอฟซีเปิดบริการสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ในปี พ.ศ.2527 จากนั้นได้ขยายสาขาไปทั่วประเทศ ปัจจุบันมีร้านเคเอฟซีมีมากกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ ดำเนินงานโดย บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทเซ็นทรัล เรสตอรองส์กรุ๊ป จำกัด และบริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวอร์ลอปเมนท์ จำกัด เคเอฟซียังคงมุ่งมั่นที่จะคิดค้นและนำเสนอเมนูอาหารใหม่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ มีคุณภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานระดับโลก พร้อมสร้างพนักงานที่มีคุณภาพและรักการบริการเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีและอบอุ่นแก่ลูกค้าทั้งมารับประทานที่ร้าน ซื้อสินค้ากลับบ้านและสั่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่าน Call Center 1150 และเว็บไซต์ www.kfc.co.th ติดตามข้อมูลข่าวสารของเคเอฟซีประเทศไทยเพิ่มเติมได้ที่ www.kfcthailand.com

เกี่ยวกับไทยเบฟเวอเรจ

         บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ("ไทยเบฟ") ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยในปี 2546 โดยมีจุดประสงค์เพื่อรวมกิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเบียร์และสุราชั้นนำของไทยที่เป็นของผู้ถือหุ้นและผู้ร่วมทุนรายอื่นๆ เข้ามาเป็นกลุ่มบริษัท ต่อมาในปี 2549 ไทยเบฟได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ("SGX") ภายหลังจากจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ไทยเบฟได้ขยายขอบเขตธุรกิจจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปสู่ธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์และอาหาร เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าเพิ่มประสิทธิผลในช่องทางการกระจายสินค้ารวมถึงกระจายความเสี่ยงของกิจการ ปัจจุบันไทยเบฟไม่เพียงแต่เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มชั้นนำในประเทศไทย แต่ยังเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในเอเชียอีกด้วย โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 4 สายธุรกิจ ได้แก่ สุรา เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหาร

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!