- Details
- Category: การตลาด
- Published: Wednesday, 20 August 2014 11:11
- Hits: 2976
แกรมมี่ จัดทัพช่อง 'ONE' & 'GMM CHANNEL'รุกตลาดดิจิตอลทีวีขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จ
บ้านเมือง : จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ปรับทัพการบริหารใหม่ ตั้ง'ถกลเกียรติ วีรวรรณ'นำทัพ 'ช่อง one'และ'สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา'นำทัพช่อง "GMM CHANNEL" วางกลยุทธ์ ช่องใหม่ มัดใจคนดู ยอมรับรายได้หดเหตุการเมือง แต่มั่นใจอนาคตดีขึ้น
น.ส.บุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือแกรมมี่ เปิดเผยว่า จากนี้ไปธุรกิจดิจิตอลทีวีจะแข่งขันกันอย่างเข้มข้นขึ้น แกรมมี่เองได้มีการ เตรียมความพร้อมเพื่อรุกตลาดดิจิตอลทีวีอย่างจริงจัง ด้วยการแต่งตั้งนายถกลเกียรติ วีรวรรณ หรือคุณบอย นำทัพ "ช่อง one" (หมายเลข 31 หรือหมายเลข 41 ในโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม) และนางสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา หรือคุณฉอด นำทัพช่อง "GMM CHANNEL" (หมายเลข 25 หรือหมายเลข 35 ในโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม) ซึ่งผู้บริหารทั้งสองท่านนี้ ได้สร้างสรรค์ผลงานที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางมาโดยตลอด บริษัทฯ มั่นใจว่าด้วยความพร้อมทั้งบุคลากรและศักยภาพของคอนเทนต์นั้น ธุรกิจดิจิตอลทีวีจะสามารถสร้างอีกปรากฏการณ์ให้แกรมมี่เติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ
สำหรับ กลยุทธ์การวางผัง 'ช่อง one' นั้น บริษัทฯ จะแบ่งออกเป็นเฟส โดยเฟสแรกเริ่มตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2557 และหลังจากนั้น 2-3 เดือน จะทยอยเติมรายการใหม่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีรายการข่าวจากทีมงานมืออาชีพ นำโดยนักข่าวคุณภาพ ให้ทุกคนได้รับข่าวสารอย่างเป็นจริง เป็น กลาง และสร้างสรรสังคมน่าอยู่ ซึ่งเชื่อว่า ช่อง one จะเป็นช่องที่มีผู้ชมสูงเป็นลำดับต้นๆ และด้วยเงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท
ทางด้าน'ช่อง GMM CHANNEL'ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อมาจาก'BiG'นั้น เป็นช่องที่รวบรวมรายการคุณภาพไว้อย่างคับคั่ง อาทิ ซีรีส์สุดฮิต "ฮอร์โมน...วัยว้าวุ่น ซีซั่น 2" ที่กลับมาสร้างกระแสความนิยมอีกครั้ง และยังมีรายการวาไรตี้สำหรับวัยรุ่น รวมถึงรายการสำหรับคอกีฬาโดยเฉพาะ โดยรายการดังกล่าวเหล่านี้เป็นทั้งรายการใหม่และรายการที่ได้รับความนิยม รวมถึงมีฐานผู้ชมที่เหนียวแน่นอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ช่อง GMM CHANNEL ติดตลาดได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีรายการจากผู้ผลิตนอกต่างๆ ที่ให้ความสนใจนำรายการเข้ามานำเสนอและกำลังอยู่ในกระบวนการคัดสรรรายการที่ดีและเหมาะสมกับกลุ่มผู้ชมของ GMM CHANNEL ที่สุดมานำเสนอในเร็ววันนี้ เพื่อเพิ่มฐานคนดูในระดับต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับ ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ปี 2557 รายได้รวมเริ่มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่ลดลง 18% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤติทางการเมือง กลุ่มธุรกิจเดิมโดยเฉพาะธุรกิจเพลง มีการยกเลิกเลื่อนงานแสดงหลายแห่ง อีกทั้งในช่วงครึ่งปีแรกนั้น อยู่ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิตอลทีวี ตลาดโฆษณาจึงมีการชะลอตัว และได้ส่งผล กระทบยังธุรกิจสื่อ โดยยอดใช้งบโฆษณาหดตัวในทุกสื่อ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ และสิ่งพิมพ์ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย ขณะเดียวกันทิศทางแนวโน้มของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นก็มีทิศทางที่ดีขึ้น คาดว่าในไตรมาสที่ 3 และตลอดทั้งปีนี้ ภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาน่าจะเติบโตคงที่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน
ด้านกลุ่มธุรกิจใหม่ เช่น ธุรกิจโฮมช็อปปิ้ง มีผลประกอบการเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 127% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว และมียอดขายรายวันที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าธุรกิจนี้จะสามารถสร้างผลกำไรได้ภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ นอกจากนั้น ธุรกิจแพลทฟอร์ม GMM Z มีรายได้จากการขายกล่องรับสัญญาณดาวเทียมเติบโต 7% ในไตรมาสที่ 3 จากการขยายตัวของฐานผู้รับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก โดยมีตัวเลขกล่องสะสมในตลาดรวม 2.7 ล้านกล่อง
ในส่วนของธุรกิจโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิก (เพย์ทีวี) หรือ GMM Z Pay TV บริษัทฯ ได้ผนึกกำลังกับ CTH หนึ่งในผู้ให้บริการเพย์ทีวีในไทย ในการบริหารงานและการให้บริการที่ดีขึ้น ซึ่งการปรับกลยุทธ์ในครั้งนี้ถือเป็นการรวมศักยภาพทางธุรกิจของ CTH และแกรมมี่ ที่มีลักษณะส่งเสริมและเกื้อหนุนเข้าด้วยกันทั้งด้านเครือข่าย ด้านการตลาด ด้านรายการทั้งกีฬา สาระและความบันเทิง และฐานลูกค้าที่มีรวมกันกว่า 5 ล้านกล่อง เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุด ครบทุกความต้องการให้กลุ่มผู้บริโภค อีกทั้งจะช่วยลดต้นทุนและลดการแข่งขันในการดำเนินธุรกิจของทั้งสองบริษัท อันส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับ ภาพรวมการลงทุนในธุรกิจใหม่ของ บริษัทฯ ปัจจุบันมีสัดส่วนของรายได้ธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 30 ของรายได้รวมจากการขาย การให้บริการ และค่าลิขสิทธิ์ ในขณะที่รายได้ของธุรกิจเดิม ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน
เนื่องจากสถานการณ์การเมืองที่มีความไม่แน่นอน และมีการชะลอการซื้อสื่อโฆษณาออกไป การแสดงคอนเสิร์ตต้องเลื่อนออกไปเป็นช่วงครึ่งหลังของปี บริษัทฯ ยังคงมีผลการดำเนินงานมีผลขาดทุน 913 ล้านบาท จากการลงทุนในธุรกิจใหม่อยู่ อย่างไรก็ดี บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถพลิกรายได้ให้กลับมาสู่ระดับปกติได้ในช่วงครึ่งปีหลัง อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 2.99 เท่า
ทั้งนี้ สถานะทางการเงินของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะหลังการปรับกลยุทธ์เพย์ทีวี ฟิทช์เรทติ้งส์ได้ขยับอันดับเครดิตในประเทศของจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ เป็นบวก จากเดิมให้แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ พร้อมคงเครดิตในประเทศระยะยาวที่ BBB+ กับเครดิตในประเทศระยะสั้นที่ F2 สะท้อนปัจจัยความเสี่ยงที่ลดลง และฐานะทางการเงินดีขึ้น
นอกจากนั้น บริษัทยังได้เตรียมพร้อมทางด้านแหล่งทุน โดยที่การประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2557 ได้มีมติอนุมัติเพิ่มทุนด้วยการออกหุ้นจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจำนวนไม่เกิน 63.63 ล้านหุ้น ในอัตราส่วน 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคา 13.50 บาทต่อหุ้น ร่วมกับการเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงจำนวนไม่เกิน 120 ล้านหุ้น ซึ่งบริษัทจะคำนวณราคาเสนอขายโดยวิธีการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ราคาเสนอขายจะไม่ต่ำกว่าราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม