WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ค้าปลีกส่อฟื้นยากแนะรัฐช่วยคนจน

   ไทยโพสต์ * นายกสมาคมค้าส่งค้าปลีกไทย ระบุปราบอิทธิพลมืด สกัดรายได้กลุ่มคนชั้นล่างกำลังซื้อหด ส่งผลภาพรวมค้าส่ง-ค้าปลีกยังไม่ฟื้น แนะรัฐควรหานโยบายช่วยเหลือคนจนค่อนประเทศลำดับแรก

    นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกของประเทศไทยในช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ คาดการณ์ว่ายังจะไม่ฟื้นตัวเท่าไหร่นัก ปัจจัยหลักมาจากรายได้ของประชาชนในระดับล่างหรือกลุ่มรากหญ้าที่หายไป เนื่องจากการปราบอิทธิพลมืด เพราะประชาชนที่อยู่ในระดับรากหญ้าจำนวนมากที่เป็นลูกจ้างให้กับธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้อาชีพของคนที่มีรายได้น้อยหายไป ประกอบกับตัวเลขของหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในอัตราที่สูงอยู่ สิ่งเหล่านี้นับว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การเติบโตภาพรวมของค้าปลีก-ค้าส่งยังคงชะลอตัว

   "การปราบปรามอิทธิพลมืดต่างๆ ก็พอเข้าใจได้ว่าเป็นปัญ หาที่ต้องดำเนินการแก้ไข เพราะถูกปล่อยปละละเลยมาเป็นระยะเวลานาน แต่ก็ต้องยอมรับว่าบุค คลที่ประกอบอาชีพในตลาดมืด หรือทำงานนอกระบบก็มีอยู่จำ นวนมาก ต้องทำการจัดระเบียบให้คนเหล่านั้นเข้ามาอยู่ในระบบ ควรหาวิธีการให้พวกเขาเหล่านั้นได้มีอาชีพจะดีกว่า ซึ่งอาจจะต้องทำสิ่งที่ผิดกฎหมายอยู่ในปัจจุบันให้เป็นเรื่องที่ถูกต้องเสีย โดยอาจมีการเปิดบ่อนให้ถูกต้องตามกฎหมาย หรือบริเวณไหนที่ห้ามซื้อขายของ ก็เปิดให้ขายอย่างถูกต้อง แล้วเก็บค่าเช่ามาเป็นประกันสังคมแทน เพราะหากห้ามไม่ให้พวกเขาขายของ ก็จะยิ่งทำให้คนชั้นล่างไม่มีสถานที่เพื่อประกอบอาชีพ" นายสมชายกล่าว

   ขณะเดียวกัน ยังมองว่าในช่วงที่ผ่านมาอุตสาหกรรมค้าส่ง-ค้าปลีก ไม่มีหน่วยงานไหนที่เข้ามาแก้ไขเรื่องของผลผลิตกสิกรรมที่เป็นเอกภาพและเป็นรูปธรรมมากนัก จะสังเกตได้ว่ามีเพียงแค่หน่วยงานที่ดำเนินการนโยบายเรื่องของการพยุงราคาหรือชดเชยราคาเท่านั้น การวางแผนในส่วนของการขาย หรือหาตลาดใหม่ให้กับผลผลิต ยังไม่มีหน่วยงานไหนมาดูแลแต่อย่างใด ขณะที่การขยายตัวของธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกที่จับกลุ่มลูกค้าระดับบนยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพราะกำลังซื้อของคนกลุ่มนี้ยังมีมาก ไม่ได้รับผลกระทบ แม้ภาพรวมของเศรษฐกิจจะไม่ดี หรือเกิดปัญหาทางการเมืองก็ตาม

   นายสมชาย ยังกล่าวว่า หากมีการจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้น จะมี นโยบายต่างๆ เกิดขึ้น ก็อยากให้ดำเนินการช่วยเหลือคนที่มีรายได้น้อยก่อนเป็นลำดับแรก เพราะกลุ่มคนดังกล่าวมีอยู่จำนวนมาก หรือเกินกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรในประเทศไทย และนับว่าเป็นกำ ลังซื้อที่สำคัญที่จะสามารถทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจเติบโตไปได้ โดยที่ผ่านมางบประมาณหลายแสนล้านบาทจากทางภาครัฐที่ลงทุนในหลายโครงการ ก็ไม่ได้ลงมาสู่ระบบรากหญ้าในประเทศอย่างแท้จริง แทบจะเหมือนว่านำเงินไปใช้จ่ายให้ต่างประเทศด้วยซ้ำ.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!