- Details
- Category: การตลาด
- Published: Monday, 03 April 2017 07:28
- Hits: 10139
สสว. ร่วมกับ หน่วยงานภาคีรณรงค์ช้อปช่วงสงกรานต์ พร้อมนำระบบ IT เข้าช่วยในการบริหารสินค้าของร้านประชารัฐฯ ในปั๊ม ปตท. ทั่วประเทศ
หน่วยภาคีทั้ง 5 ประกอบด้วย ททท. ปตท. สสว. พช. และ ธพว. จัดแคมเปญรณรงค์'ช้อปสงกรานต์ทั่วไทย กับร้านประชารัฐสุขใจ SHOP’ ในราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท กระตุ้นยอดขายให้ร้านเติบโตอย่างยั่งยืน โดยสามารถค้นหาที่ตั้งของร้านฯ ผ่านแอพพลิเคชั่น Google Map ได้แล้วทุกจังหวัดทั่วไทย พร้อมนำระบบ IT เข้าช่วยในการบริหารสินค้าของร้านประชารัฐฯ ในปั๊ม ปตท. ทั่วประเทศ
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกรมการพัฒนาชุมชน ดำเนินโครงการนี้มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 บัดนี้ได้เปิดร้านประชารัฐสุขใจ SHOP ครบ 148 แห่งในปั๊ม ปตท. ทั่วประเทศแล้ว โดยร้านประชารัฐฯ จะนำสินค้าเด่นจากวิสาหกิจชุมชนในแต่ละจังหวัดมาเสนอขาย มีวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมโครงการ 16,000 ชุมชน ในจำนวนร้านค้าทั้งหมด 148 แห่ง มีอยู่ 28 ร้านค้าใน 14 จังหวัด ที่มียอดขายอยู่ในเกณฑ์ระดับดี สามารถเลี้ยงตัวได้ กลุ่มสินค้าที่ได้รับความสนใจสูงสุดคือ กลุ่มอาหารแปรรูป เครื่องดื่มบรรจุเสร็จ ผักผลไม้ออแกนิค รองลงมาได้แก่ กลุ่มของใช้ของฝากจากชุมชนแต่ละจังหวัด
ในช่วงวันที่ 1-17 เมษายนนี้ ร้านประชารัฐฯ จะจัดแคมเปญพิเศษขายสินค้าในราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนแวะซื้อสินค้าที่ร้านประชารัฐฯ ซึ่งได้แสดงตำแหน่งของร้านประชารัฐฯ ไว้ใน Google Map แล้ว
นอกจากนี้ ยังได้รับความอนุเคราะห์จากภาคเอกชนรายใหญ่ให้ร้านประชารัฐฯ
นำสินค้าไปขายในล็อบบี้ของอาคารที่ทำการในกรุงเทพฯ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เช่น ธนาคารกสิกรไทย (สนับสนุนพื้นที่ขายใน 3 อาคาร คือ สำนักงานใหญ่ที่ราษฎร์บูรณะ พหลโยธิน และแจ้งวัฒนะ) ธนาคาร SME (สำนักงานใหญ่ พหลโยธิน) ธนาคารไทยพาณิชย์ (สำนักงานใหญ่ แยกรัชโยธิน) ห้างสรรพสินค้ามาบุญครองสนับสนุนพื้นที่จำหน่าย 6 เดือน บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต และเมืองไทยประกันภัย ถนนรัชดาภิเษก รวมไปถึงตลาดคลองผดุงฯ ซึ่งทั้งหมดนี้มีส่วนช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านประชารัฐฯ ได้เป็นอย่างมาก
ในปี 2560 สสว. ร่วมกับภาคเอกชน มีแผนการยกระดับการดำเนินธุรกิจของร้านประชารัฐฯ ดังนี้ คือ
1. จัดอบรมเรื่องการขายและการตลาดให้ผู้บริหารร้านและเครือข่ายร้านประชารัฐฯ
2. นำระบบ POS (Point of Sale) มาช่วยในการบริหารสินค้าคงคลัง และติดตามการขายของร้านประชารัฐ
3. ให้ร้านประชารัฐฯ 28 แห่งที่มีความเข้มแข็ง เป็นพี่เลี้ยงในเรื่องการจัดส่งสินค้าและการขายให้แก่ร้านประชารัฐฯ ในพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะในเรื่องการขนส่งสินค้าจากจังหวัดอื่นเข้ามาขาย เพราะตามสถิติ 70% ของลูกค้าร้านประชารัฐฯ เป็นคนในพื้นที่มีเพียง 30% ที่เป็นนักท่องเที่ยว การนำสินค้าจากจังหวัดอื่นเข้ามาขายจะช่วยให้มีความหลากหลายมากขึ้น
4. จะนำร้านประชารัฐฯ เข้าร่วมโครงการ Online Marketing ที่ สสว. ดำเนินการอยู่
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นอกจากบทบาทของ ททท. ที่เกี่ยวข้องกับโครงการร้านประชารัฐสุขใจ SHOP คือ ดำเนินการสนับสนุนการจัดสร้างร้านประชารัฐฯ จำนวน148 แห่งทั่วประเทศแล้ว ในโอกาสเทศกาลสำคัญของไทย ททท. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการจัดแคมเปญรณรงค์ในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะช่วยกระตุ้นยอดขาย และสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวผู้เดินทางในช่วงเทศกาล ให้รู้จักสินค้ากลุ่มวิสาหกิจชุมชนมากขึ้น โดยทุกร้านทั่วประเทศจะจัดให้มีสินค้าดังของแต่ละจังหวัด แต่ละภาค มาให้ลูกค้าที่แวะสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ได้เลือกซื้อของฝากได้ทั่วไทย ในราคาเริ่มต้น 20 บาท จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านแวะร้านประชารัฐฯ สุขใจในปั๊มน้ำมัน ปตท. โดยท่านสามารถค้นหาที่ตั้งร้านประชารัฐฯ ผ่านแอพพิเคชั่น Google Map ได้แล้วทุกจังหวัดทั่วไทย
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ในฐานะหนึ่งในภาคีเครือข่ายความร่วมมือแคมเปญรณรงค์ “ช้อปสงกรานต์ทั่วไทย กับร้านประชารัฐ สุขใจ SHOP” ได้เตรียมความพร้อมของสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในการสนับสนุนโครงการฯ โดยมอบพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่มีศักยภาพทั่วประเทศ จำนวน 148 สถานี ให้เป็นจุดตั้งโครงการเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยไม่คิดค่าตอบแทนการใช้พื้นที่ และในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์นี้ ปตท. พร้อมดูแลความมั่นคงด้านพลังงาน ไม่ให้ขาดแคลน และดูแลความปลอดภัยทุกเส้นทางด้วยโครงการ PTT Engine Tune-up ให้ประชาชนนำรถเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ฟรี 25 รายการ ได้ที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บนเส้นทางสายหลัก 59 แห่งทั่วประเทศ และสามารถรับบริการตรวจเช็คเครื่องยนต์ฟรี 15 รายการ ณ ศูนย์บริการ ProCheck จำนวน 57 แห่ง และ PTT Fit Auto 26 แห่งทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันที่ 3-10 เมษายนนี้ เพื่อให้พร้อมสำหรับการเดินทางทั่วไทยอย่างปลอดภัยและประหยัดพลังงาน
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) กล่าวว่า ธนาคารได้ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการโครงการร้านประชารัฐสุขใจ SHOP มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแคมเปญที่จะจัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มยอดขายให้ผู้ประกอบการที่ร่วมโครงการได้อย่างแน่นอน และถ้าผู้ประกอบการต้องการเงินทุนหมุนเวียน ธนาคารพร้อมสนับสนุนด้านเงินทุนอย่างเต็มที่ อาทิ สินเชื่อ SMART SMEs บัญชีเดียว, สินเชื่อ SMEs Transformation Loan, สินเชื่อ Smile Factoring เบิกจ่ายทั่วไทยในวันเดียว นอกจากนี้ ธนาคารยังมีโครงการติดปีกความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ การตลาดออนไลน์ การจัดอบรม และสัมมนาฟรีให้กับวิสาหกิจชุมชน กลุ่ม OTOP และผู้ประกอบการ SMEs ทั้งประเทศ โดยผู้ที่สนใจกิจกรรมดีๆ ของธนาคารสามารถติดตามผ่านช่องทาง facebook/SMEDevelopmentBank หรือ Call Center 1357
นายศุภกร มูลสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า บทบาทของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ในการดำเนินงานประชารัฐ สุขใจ SHOP คือการบริหารจัดการร้านค้า จำนวน 143 แห่ง จาก 73 จังหวัด โดยการนำผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร ในพื้นที่มาจำหน่ายในร้านค้า ซึ่งถือเป็นช่องทางการตลาดที่ทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในชุมชน
โดยการดำเนินงานประชารัฐ สุขใจ SHOP ในปี 2559 ที่ผ่านมา เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้แก่แรงงานในชุมชน กว่า 200,000 ราย ทำให้มีการกระจายรายได้ เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในพื้นที่ นอกจากนี้ ปี 2559 กรมฯ ได้มีการประเมินจัดระดับประชารัฐ สุขใจ SHOP เพื่อประเมินศักยภาพการดำเนินงาน พบว่า ประชารัฐสุขใจ SHOP ที่มีการบริหารจัดการดีมาก มีจำนวน 25 แห่ง มีการบริหารจัดการในระดับปานกลาง จำนวน 107 แห่ง และควรปรับปรุงการบริหารจัดการ จำนวน 11 แห่ง
ซึ่งในปี 2560 กรมฯ จะดำเนินการพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการประชารัฐ สุขใจ SHOP ให้ดียิ่งขึ้น สำหรับแคมเปญรณรงค์ ‘ช้อปสงกรานต์ทั่วไทย กับร้านประชารัฐ สุขใจ SHOP’ นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ จะได้พบกับสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละจังหวัด ที่จะต้องซื้อเป็นของฝาก ของที่ระลึกให้แก่คน ในครอบครัว เช่น เส้นมิตรภาพ สามารถแวะซื้อกระหรี่ปั๊ปจากจังหวัดสระบุรี หมี่โคราชที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครราชสีมา หรือเป็นข้าวหอมมะลิจากจังหวัดร้อยเอ็ด เส้นเพชรเกษม สามารถแวะซื้อขนมหม้อแกง และน้ำตาลโตนด จากจังหวัดเพชรบุรี หรือกาแฟอันเลื่องชื่อ รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากกล้วยเล็บมือนาง และรังนก จากจังหวัดชุมพร เส้นสุขุมวิท สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จักสานจากอำเภอพนัสนิคม หรือผลิตภัณฑ์จากสับปะรดศรีราชา จากจังหวัดชลบุรี หรืออัญมณี จากจังหวัดจันทบุรี สำหรับเส้นพหลโยธิน สามารถเลือกซื้อส้มโอขาวแตงกวา จากจังหวัดชัยนาท หรือกระยาสารทกล้วยไข่จากจังหวัดกำแพงเพชรได้ นักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าประชารัฐ สุขใจ SHOP แค่เพียง 1 ชิ้น ท่านมีส่วนทำให้เกิดการส่งเสริมและสืบสานภูมิปัญญาของคนในชุมชนให้ยังคงอยู่ เกิดการสร้างงาน และสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน และทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง