WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1SCG8

เอสซีจี จับมือ ยามาโตะ เอเชีย เปิดตัว 'เอสซีจี เอ็กซ์เพรส' รุกตลาดบริการส่งด่วน ชูผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วน รายแรกที่มีบริการส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ

    ประเดิมให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมเปิดศูนย์บริการแห่งแรกสาขาบางซื่อ

    เอสซีจี เดินหน้ารุกตลาดบริการส่งด่วน ผนึกพันธมิตร ยามาโตะ เอเชีย ทุ่มงบ 633 ล้านบาท เปิดตัวธุรกิจขนส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วน "เอสซีจี เอ็กซ์เพรส" (SCG EXPRESS) ตอบเทรนด์อีคอมเมิร์ซที่เติบโตกว่า 12% ในปี 59 ชูจุดเด่นผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วน ภายใต้แนวคิดส่งมอบบริการที่มีคุณภาพและเอาใจใส่ ดูแลรับส่งพัสดุประดุจแม่แมวเอาใจใส่ดูแลลูกแมว มาพร้อม 4รูปแบบบริการ ได้แก่ บริการขนส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วนถึงบ้าน หรือ ทัค-คิว-บิง (TA-Q-BIN) บริการส่งเอกสารหรือพัสดุภัณฑ์ด่วนระหว่างบริษัทถึงบริษัท (Document TA-Q-BIN) บริการเก็บเงินปลายทาง (TA-Q-BIN COLLECT) และรายแรกและรายเดียวที่มีบริการขนส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ (COOL TA-Q-BIN) ประเดิมให้บริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมเปิดศูนย์บริการเอสซีจี เอ็กซ์เพรสแห่งแรกที่บางซื่อ ตั้งเป้าเปิดจุดให้บริการรับส่งพัสดุ เพิ่มเป็น 110 สาขา ภายในปี 60 ทั้งในรูปแบบศูนย์บริการเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Point) และตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Agent)

    นายนิธิ ภัทรโชค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-ตลาดในประเทศ ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทกับธุรกิจและไลฟ์สไตล์การจับจ่ายซื้อสินค้าของผู้บริโภคมากขึ้น แนวโน้มธุรกิจการค้าออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ช (E-commerce) โดยมีมูลค่าตลาดเติบโตกว่า 12% ในปี 59 ส่งผลให้ธุรกิจบริการส่งด่วนในประเทศเติบโตตามไปด้วย จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าจับตามอง ดังนั้น "เอสซีจี" ในฐานะองค์กรแห่งนวัตกรรมที่มุ่งมั่นในการพัฒนาเพื่อตอบความต้องการของผู้คน ได้ร่วมกับพันธมิตร "บริษัท ยามาโตะ เอเชีย จำกัด" (YAMATO ASIA PTE., LTD) ผู้นำตลาดการขนส่งพัสดุย่อยประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวธุรกิจใหม่'เอสซีจี เอ็กซ์เพรส' (SCG EXPRESS) ธุรกิจส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วน ภายใต้แนวคิด "Deliver Your Happiness"

     "การร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นการผสานความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมและคุณภาพของ "เอสซีจี" เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจขนส่งพัสดุย่อยของ"ยามาโตะ เอเชีย" ที่ได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากผู้บริโภคในญี่ปุ่น โดยได้ร่วมกันวิจัยตลาดและศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศไทยกว่า 2 ปี เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการส่งมอบบริการที่ตอบความต้องการของตลาดและผู้บริโภค และช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการขนส่งสินค้าในประเทศไทย โดยใช้งบประมาณเบื้องต้นกว่า 633 ล้านบาท" นายนิธิกล่าว

       'เอสซีจี เอ็กซ์เพรส' ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วน มุ่งมั่นส่งมอบบริการที่มีคุณภาพและดูแลรับส่งพัสดุประดุจแม่แมวเอาใจใส่ดูแลลูกแมว โดยได้นำแนวทางและมาตรฐานการให้บริการรับส่งสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งเรื่องความสุภาพและความเต็มใจในการให้บริการ มาประยุกต์และถ่ายทอดให้แก่พนักงานขนส่งสินค้า (Sales Driver) ในประเทศไทย โดยมี 4 รูปแบบบริการให้เลือก ได้แก่ บริการขนส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วนถึงบ้านหรือทัค-คิว-บิง (TA-Q-BIN) บริการรับพัสดุถึงบ้านลูกค้าและจัดส่งถึงปลายทางในวันถัดไป, บริการส่งเอกสารหรือพัสดุภัณฑ์ด่วนระหว่างบริษัทถึงบริษัท (DOCUMENT TA-Q-BIN), บริการเก็บเงินปลายทาง (TA-Q-BIN COLLECT) สามารถเลือกชำระได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิต และยังเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่มีบริการขนส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ (COOL TA-Q-BIN) จัดส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมตั้งแต่ต้นทางจนถึงมือผู้รับ ซึ่งมี 2 รูปแบบบริการ คือ สินค้าแบบแช่เย็น (Chilled) ระบบควบคุมอุณหภูมิที่รักษาความเย็นได้ 0-8 องศาเซลเซียส สินค้าแช่แข็ง (Frozen) ระบบควบคุมอุณหภูมิที่รักษาความเย็นได้ต่ำกว่า -15 องศาองศาเซลเซียสสำหรับขนาดพัสดุมีให้เลือกตั้งแต่ กว้าง+ยาว+สูง ขนาดไม่เกิน 160 เซนติเมตร น้ำหนักสูงสุดไม่เกิน 25 กิโลกรัม และราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 40 บาท เป็นต้นไป

      โดยในช่วงเปิดตัวธุรกิจ ประเดิมให้บริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นพื้นที่แรก พร้อมเปิดศูนย์บริการเอสซีจี เอ็กซ์เพรส สาขาบางซื่อเป็นสาขาแรก โดยตั้งอยู่ที่อาคาร 26A เอสซีจี สำนักงานใหญ่ มีพื้นที่ประมาณ 38 ตารางเมตร สำหรับผู้ที่สนใจสามารถใช้บริการส่งพัสดุผ่านศูนย์บริการฯ หรือใช้บริการรับพัสดุถึงบ้าน (Pick up Service) ผ่านคอลเซ็นเตอร์ โทร.02-239-8999 นอกจากนี้ยังสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและใช้บริการผ่านเว็บไซต์www.scgexpress.co.th และแอพพลิเคชั่น SCG EXPRESS ทั้งระบบ IOS และ Android ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

      "บริษัทจะเดินหน้าสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายหลัก ที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ช (B2C) กลุ่มผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์ในการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และประชาชนทั่วไป (C2C) โดยจะเน้นสื่อสารถึงจุดเด่นด้านคุณภาพและความเอาใจใส่ในการให้บริการ ที่ต้องการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ตลอดจนความพร้อมของทีมพนักงานขนส่งสินค้าที่มีจำนวนกว่า 130 คน ซึ่งสามารถรองรับการขนส่งพัสดุได้สูงสุด 5,000 กล่อง/วันเพื่อสร้างการรับรู้และสร้างการจดจำแบรนด์เอสซีจี เอ็กซ์เพรส ขณะเดียวกันจะเร่งเดินหน้าเปิดจุดให้บริการรับส่งพัสดุ เพิ่มเป็น 110 สาขา ภายในปี 60 ทั้งในรูปแบบศูนย์บริการเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Point) และตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Agent)" นายนิธิ กล่าวสรุป

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!