- Details
- Category: การตลาด
- Published: Wednesday, 18 January 2017 23:51
- Hits: 9208
อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ เตรียมสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยอีกครั้ง จุดพลุคว้างานใหญ่ 'อัสตานา เอ็กซ์โป 2017'งานนิทรรศการนานาชาติ 1 ใน 3 ของโลก ณ กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน
อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จุดพลุคว้างานใหญ่ ‘อัสตานา เอ็กซ์โป 2017’ (Astana Expo 2017) ณ กรุงอัสตานา ประเทศสาธารณรัฐคาซัคสถาน งานนิทรรศการนานาชาติระดับโลก ภายใต้หัวข้อหลัก ‘พลังงานแห่งอนาคต’ (Future Energy) เดินหน้าเตรียมความพร้อม เพื่อสร้างประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ให้กับประเทศไทยอีกครั้ง
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน บริษัท ครีเอทีฟ อีเว้นท์ อันดับ 7 ของโลก (จัดอันดับโดยนิตยสารสเปเชี่ยล อีเว้นท์ แม็กกาซีน ประเทศสหรัฐอเมริกา) กล่าวว่า “นับเป็นข่าวดีเปิดศักราชของ อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ในปีนี้ กับการจุดพลุคว้างานใหญ่ ‘อัสตานา เอ็กซ์โป 2017’ (Astana Expo 2017) งานนิทรรศการนานาชาติระดับโลก ณ กรุงอัสตานา ประเทศสาธารณรัฐคาซัคสถาน โดยได้เตรียมเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการเป็นเจ้าภาพเข้าร่วมงาน ‘อัสตานา เอ็กซ์โป 2017’ ซึ่งมีประเทศเข้าร่วมงานกว่า 100 ประเทศ และองค์กรระดับโลกกว่า 10 หน่วยงาน รวมมากกว่า 110 พาวิลเลียน บนพื้นที่การจัดงานทั้งหมด 1,740,000 ตร.ม. (1,087.5 ไร่) และในส่วนของพื้นที่จัดงานนิทรรศการ 250,000 ตร.ม. (156.25ไร่) ใจกลางเมือง โดยประเทศเจ้าภาพคาดว่าจะมีผู้ร่วมเข้าชมงานมากกว่า 5 ล้านคน”
“ซึ่งประเทศไทยได้รับการจัดสรรพื้นที่จำนวน 934.05 ตารางเมตร ถือเป็นการร่วมงานใหญ่ระดับโลกอีกครั้งของประเทศไทย เนื่องจากงานเวิลด์เอ็กซ์โปถือเป็น 1 ใน 3 งานใหญ่ของโลก เช่นเดียวกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และฟุตบอลโลก งานในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อหลัก คือ ‘พลังงานแห่งอนาคต’ (Future Energy) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน - 10 กันยายน 2560 เรียกว่าเป็นการประเดิมข่าวดีตั้งแต่ต้นปี 2017 ของ อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ โดยทางบริษัทได้รับมอบหมายในฐานะผู้บริหารจัดการอาคารศาลาไทย รับผิดชอบตั้งแต่ขั้นตอนของการวางแผนกลยุทธ์ ดำเนินการจัดนิทรรศการ บริหารจัดการ ควบคุมงานก่อสร้าง และรวมถึงวางแผนด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ โดยได้จับมือร่วมกับ บริษัท ดีไซน์ 103 อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อดูแลในเรื่องการออกแบบโครงสร้างอาคาร”
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน กล่าวเพิ่มเติม “ต้องบอกว่า ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ อินเด็กซ์ฯ เอาชนะการประกวดงาน จนได้รับมอบหมายให้ดำเนินงานจัดการ อาคารศาลาไทย ซึ่งเราได้เข้าไปศึกษาถึงข้อมูลประเทศคาซัคสถาน เพื่อตีโจทย์ วางกลยุทธ์ ในการพัฒนา ออกแบบหน้าตาภายนอก รวมถึงงานด้านนิทรรศการ ด้วยการนำเอา 'Insight' ของชาวคาซัคสถานมาวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง เพื่อนำเสนอในสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายหลักต้องการเห็นและสนใจ โดยในส่วนของอาคารนิทรรศการไทย จัดขึ้นภายใต้แนวคิด“การพัฒนาด้านพลังงานชีวภาพเพื่อมนุษยชาติ (Bioenergy for All)'ที่ต้องการสื่อถึงพลังงานเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เพื่อแสดงศักยภาพของประเทศไทยในด้านการพัฒนาพลังงานทดแทน และความก้าวหน้าในการพัฒนาพลังงานชีวภาพ (Bioenergy)'โดยนำเสนอในรูปแบบ'EDUTAINMENT' ด้วย 3 ห้องนิทรรศการหลัก ซึ่งจะมีการใช้เทคโนโลยีมาผสมผสาน นำเสนอในรูปแบบ ห้องภาพยนตร์ 3 มิติ หรือ 3D theater และหุ่นยนต์มาสคอตในรูปแบบที่สนุกสนาน รวมถึงสื่ออินเตอร์แรคทีฟต่างๆ ด้วยการพัฒนาแนวความคิด การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย จากการศึกษาหาข้อมูล และทำโฟกัสกรุ๊ปกับประชากรในประเทศคาซัคสถาน เพื่อพัฒนางานอย่างมีกลยุทธ์ จนทำให้สามารถคว้าโอกาสในการจัดงานอาคารศาลาไทยมาได้อีกครั้ง โดยมีมูลค่าการจัดงาน ทั้งสิ้น 249 ล้านบาท”
“และด้วยความพร้อมของอินเด็กซ์ฯ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบวงจร รวมถึงความเชี่ยวชาญในการเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการทำงานเอ็กซ์โปมากที่สุดในประเทศไทย ผนวกกับความแข็งแกร่งในเรื่องของโนฮาวน์ (Know-how) ของอินเด็กซ์ฯ มั่นใจจะสามารถสร้างสรรค์งาน ‘อัสตานา เอ็กซ์โป 2017’ ครั้งนี้ ให้ประชาชนชาวไทย และชาวต่างชาติได้ประทับใจอย่างแน่นอน และเพื่อตอกย้ำว่าครีเอทีฟคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก”
อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ได้เคยฝากผลงานสร้างสรรค์ไว้ในงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2010 ณ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน (World Expo 2010, Shanghai China) และงานอินเตอร์เนชั่นแนล เอ็กซ์โปซิชั่น 2012 ณ เมืองยอซู ประเทศเกาหลี (International Exposition 2012, Yeosu Korea) ในฐานะผู้บริหารจัดการอาคารศาลาไทย หรือ ไทยแลนด์ พาวิลเลียน (Thailand Pavilion) นับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทยครั้งยิ่งใหญ่สู่สายตานานาชาติ สร้างแบรนดิ้งให้กับประเทศไทย บนเวทีระดับโลก ส่งผลให้อาคารศาลาไทยเป็นพาวิลเลียนยอดนิยมจากทั่วโลก ได้รับรางวัลมากมายจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เป็นเครื่องการันตี และตอกย้ำถึงความสำเร็จได้เป็นอย่างดี”