- Details
- Category: การตลาด
- Published: Tuesday, 04 October 2016 23:09
- Hits: 6222
มายรัม แนะใช้ 'ออมนิแชแนล' เข้าถึงนักช้อปยุคดิจิทัล เร่งยอดขายไตรมาสสุดท้ายกับอีคอมเมิร์ซ
คาดการณ์ปี 2559 อีคอมเมิร์ซไทยจะเติบโตแบบก้าวกระโดด 12.42% มูลค่ารวมสูงถึง 2.52 ล้านล้านบาท ทำให้นักการตลาดทั้งหลายสนใจการขายออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายที่สะท้อนผลประกอบการประจำปี มายรัม ดิจิทัลเอเยนซี่ชั้นนำในเครือ WPP ชี้นักการตลาดควรเร่งปรับใช้เครื่องมือผ่าน ‘ออมนิแชแนล’ ที่ช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคยุคดิจิทัล ช้อปได้ทุกที่ ทุกเวลา จากทุกช่องทาง ระบุกระแสความนิยมดิจิทัลช้อปปิ้งของไทยมีแนวโน้มดี เหตุค้าปลีกและแบรนด์ไทยพัฒนาตามอีคอมเมิร์ซ ช้อปผ่านมือถือขยายตัว หวังโกย ‘ยอดขาย’ เพิ่มในไตรมาสสุดท้ายของปี
นางสาวอุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้เชี่ยวชาญดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเมชั่น บริษัท มายรัม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันการแข่งขันทางการตลาดออนไลน์ของไทย เข้มข้นขึ้นมาก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้าย ความนิยมของอีคอมเมิร์ซ การทำการตลาดยุคใหม่ที่ต้องตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้บริโภคไทยปรับพฤติกรรมสู่ช้อปจากมือถือมากขึ้น วันนี้ สิ่งที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม คือ รูปแบบการให้บริการยุคใหม่ที่มาแรง คือ ‘ออมนิแชแนล’(Omnichannel)
เข้าถึงและดึงดูดด้วยประสบการณ์ดิจิทัล
ทุกวันนี้ ผู้บริโภคเข้าสู่การเป็นนักช้อปยุคดิจิทัลมากขึ้น ไม่สนใจว่าจะต้องซื้อสินค้าผ่านช่องทางไหน “ผู้บริโภคยุคนี้ต้องการ “ช้อปได้ทุกที่ ทุกเวลา จากทุกช่องทาง”
นางสาวอุไรพร อธิบายว่า ความสำคัญอยู่ที่ลูกค้าเป็นคนเดียวกัน ไม่ว่าจะเริ่มช้อปจากออนไลน์หรือออฟไลน์ ลูกค้าคนเดิมนี้ยังคงคาดหวังประสบการณ์การซื้อที่ดีทุกช่องทาง เพราะหากบริการไม่ถูกใจ หรือไม่สามารถสร้างประสบการณ์ในการเลือกชมสินค้าจนพอใจ ลูกค้าคนนั้นก็พร้อมไปซื้อแบรนด์คู่แข่งได้เสมอ
ข้อมูลวิจัยจากกูเกิล ระบุว่า 82% ของลูกค้าจะใช้อุปกรณ์โมบายค้นหาข้อมูลสินค้าก่อนจะมาถึงร้านค้า โดย 61% ของนักช้อปออนไลน์เริ่มจากอุปกรณ์แรก แต่จะไปสิ้นสุดการจับจ่ายที่อุปกรณ์อื่น และ 34% ของการซื้อออนไลน์เกิดขึ้นที่โมบาย ลูกค้าจะเริ่มต้นค้นหาสิ่งที่ต้องการผ่านเสิร์ชเอ็นจิ้น จากโซเชียลมีเดีย หรือจากอินฟลูอินเซอร์ จึงเป็นหน้าที่ของแบรนด์ต้องจัดเตรียมข้อมูล เรื่องราวและบริการต่างๆในเว็บไซต์หรือแอพให้ตอบโจทย์ความสนใจลูกค้าได้มากที่สุด
นางสาวอุไรพร แนะว่า การออกแบบต้องคำนึงถึงผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (User Centered Design) ใช้งานสะดวก เน้นการเข้าถึงผ่านโมบาย และควรสนับสนุนการค้นหาผ่าน Location-Based ให้ข้อมูลจากบริเวณใกล้เคียง เช่น ศูนย์บริการ/สาขาที่อยู่ใกล้ ข้อมูลและฟังก์ชั่นออกแบบให้พร้อมต่อการเปรียบเทียบและตัดสินใจ การสั่งซื้อและชำระเงินต้องง่ายและสะดวก ลูกค้าไม่ต้องเป็นกังวลในการใช้งานและรับบริการจากแบรนด์
ปัจจัยเร่งยอดขายไตรมาสสุดท้าย
ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ระบุมูลค่า ตลาดอีคอมเมิร์ซของไทย คาดการณ์ปี 2559 จะเติบโตแบบก้าวกระโดด 12.42% มูลค่ารวมสูงถึง 2.52 ล้านล้านบาท และมีผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทย ปี 2559 พบว่า "สมาร์ทโฟน" คือ อุปกรณ์หลักที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนิยมใช้เชื่อมต่อกว่า 85.5% ขณะที่ มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากถึง 59% ซื้อสินค้าใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ มากกว่า 1 ใน 2 ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมด ตอบว่าเคยซื้อสินค้า และใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ โดยใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ซื้อสินค้า 38.4% แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีความมั่นใจและไว้ใจในการซื้อสินค้า เห็นถึงแนวโน้มและทิศทางที่ดีในการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซ
“ธุรกิจจึงต้องสร้างประสบการณ์ดิจิทัล (Digital Experience) ที่ตอบโจทย์การช้อปของลูกค้าไม่ว่าจะมาจากช่องทางใด เมื่อโซลูชั่นการตลาดดิจิทัลพัฒนาขึ้นมาก ช่วยปิดช่องว่างการสื่อสารและติดตามลูกค้าซึ่งออฟไลน์ทำไม่ได้” นางสาวอุไรพรกล่าว
“แบรนด์ต้องเข้าใจถึง Customer Journey เพื่อเสนอสินค้าและบริการที่ดีและตรงความต้องการลูกค้าในทุกช่องทาง รวมทั้งการเชื่อมต่อในทุกช่องทางในองค์กรระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เช่น การที่ร้านค้าสามารถระบุได้ว่ามีสินค้าที่สาขาไหนหรือพร้อมจัดส่งได้จุดไหนเวลาใด นับเป็นจังหวะสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าเร็วขึ้น
จากข้อมูลปัจจุบันพบว่าห้างร้านและแบรนด์ที่มียอดขายสูงๆ ต่างใช้ออมนิแชแนลเป็นกลยุทธ์สำคัญ มีทั้งร้านออฟไลน์เป็นของตัวเอง เชื่อมโยงข้อมูลและระบบระหว่างออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน
“การวางกลยุทธ์ด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นควบคู่กับออมนิแชแนล เพื่อให้องค์กรพร้อมรับมือการขายและการบริการในทุกช่องทาง จึงควรเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การสื่อสาร จัดเตรียมคอนเทนท์ การติดต่อหรือ Engage กับลูกค้าและผู้สนใจ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายที่เป็นเวลาแห่งการจับจ่ายใช้สอยประจำปี การทำโปรโมชั่น การขายและการชำระเงิน รวมถึงการบริหารการจัดส่งสินค้า จุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างออนไลน์และออฟไลน์เป็นจังหวะสำคัญที่สร้างยอดขายให้เกิดขึ้นได้ และต้องทำให้ธุรกิจนำหน้าคู่แข่งได้ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ด้วย” นางสาวอุไรพร กล่าว
เกี่ยวกับบริษัท มายรัม (ประเทศไทย) จำกัด www.mirum.co.th
เดิมคือ บริษัท ธอมัสไอเดีย จำกัด ดิจิทัลเอเยนซี่ชั้นนำของไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2538 นับเป็นผู้ดำเนินธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่นส์รายแรกๆ ของไทย ที่ขยายกิจการและมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพงานบริการสู่ระดับสากล จนเข้าร่วมกับกลุ่มเอ็กซ์เอ็มเอเชียในปี พ.ศ. 2556 และเป็นหนึ่งในกลุ่มมายรัม เครือข่ายดิจิทัลเอเยนซี่ระดับโลกของ WPP ที่ก่อตั้งขึ้น เพื่อปักธงความเป็นผู้นำธุรกิจวงการดิจิทัลเอเยนซี่อย่างจริงจัง โดยการรวมเอาบริษัทดิจิทัลเอเยนซี่ชั้นนำที่ประสบความสำเร็จกว่า 46 แห่งใน 20 ประเทศสำคัญทั่วโลกและทีมงานมืออาชีพที่เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลโซลูชั่นส์มากกว่า 2,400 คน ปัจจุบันมายรัมได้ขยายขอบเขตการให้บริการด้านดิจิทัลโซลูชั่นส์ โดยเพิ่มสมาชิกใหม่จากฟิลิปปินส์และอินเดีย ครอบคลุมเมืองหลักในเอเซีย