- Details
- Category: การตลาด
- Published: Monday, 27 June 2016 09:08
- Hits: 2403
ปตท.เปิดศูนย์ธุรกิจคาเฟ่อเมซอน และสถาบันพัฒนาศักยภาพธุรกิจน้ำมัน
ยกระดับคุณภาพและสร้างมาตรฐานสินค้าและบริการธุรกิจน้ำมัน ปตท. ร่วมสร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักและสร้างความภาคภูมิใจให้คนไทย
พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานพิธีเปิด ศูนย์ธุรกิจคาเฟ่ อเมซอน หรือ Amazon Inspiring Campus (AICA) และสถาบันพัฒนาศักยภาพธุรกิจน้ำมัน หรือ Oil Business Academy (OBA) อย่างเป็นทางการ ณ ตำบลสนับทึบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ
พลเอก อนันตพร กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่ ปตท. ผู้ปฏิบัติงานภายใต้นโยบายของกระทรวงพลังงาน ซึ่งมีการดำเนินงานด้านธุรกิจพลังงานและธุรกิจค้าน้ำมันอย่างครบวงจร มายาวนานกว่า 30 ปี ได้นำความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ เข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพและมาตรฐานในอุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงสร้างมาตรฐานการดำเนินธุรกิจน้ำมันและธุรกิจเสริมครบวงจรของไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล ผ่าน AICA และ OBA ซึ่งนอกจากประโยชน์ในการเป็นแหล่งเรียนรู้และศูนย์ฝึกอบรมแล้ว ความสวยงามและทันสมัยของสถานที่ทั้ง 2 แห่ง จะเป็นจุดปักหมุดเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดอยุธยาฝั่งตะวันออกได้อีกด้วย
นอกจากนี้ คุณเทวินทร์ ได้เน้นว่า AICA ถูกจัดตั้งเพื่อให้คนไทยได้รับบริการและดื่มกาแฟที่มีรสชาติตามมาตรฐานคาเฟ่อเมซอนในราคาที่เข้าถึงได้ และมีการใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิตตั้งแต่การคัดเลือกและรับซื้อเมล็ดกาแฟที่ได้คุณภาพเพื่อนำมาคั่วให้ได้ตามมาตรฐานที่ดีเยี่ยม และนำไปผลิตเป็นเครื่องดื่มจนถึงมือลูกค้า AICA ประกอบด้วย โรงคั่วกาแฟที่ผ่านการรับรองระบบมาตรฐาน วิธีการปฏิบัติที่ดีในการผลิตอาหารตามมาตรฐานสากล (Good Manufacturing Practice: GMP Codex) มีกำลังการผลิต 2,700 ตันต่อปี, ศูนย์ฝึกอบรมบาริสต้า และแหล่งถ่ายทอดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กาแฟ
โดยส่วนหนึ่งของเมล็ดกาแฟที่ใช้เป็นวัตถุดิบได้มาจากความร่วมมือกับโครงการหลวงปีละประมาณ 100,000 กิโลกรัม และได้สนับสนุนในการปลูกกาแฟและรักษาผืนป่าเพื่อไร่กาแฟใน “โครงการวิจัยและพัฒนาการปลูกกาแฟและผลิตกาแฟระบบอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” ซึ่งการปลูกกาแฟมีความก้าวหน้าไปกว่า 70% และคาดว่าจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ภายในปี 2561 เพื่อให้ชุมชนมีรายได้ที่มั่นคงและพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืนในที่สุด ทั้งยังจะเข้าไปสนับสนุนให้ชุมชนจัดตั้งสหกรณ์หรือวิสาหกิจชุมชนธุรกิจเมล็ดกาแฟในโครงการ Social Enterprise โดยจะเริ่มจากการรับซื้อเมล็ดกาแฟดิบ ซึ่งตั้งเป้าหมายจะรับซื้อที่ 10% ของปริมาณเมล็ดกาแฟที่ ปตท. ต้องการทั้งหมดภายใน 2 ปีนี้
สำหรับ OBA ได้ก่อตั้งเพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ในธุรกิจน้ำมัน ในการรวบรวมองค์ความรู้และพัฒนาต่อยอด รวมถึงถ่ายทอด สู่พนักงานและคู่ค้า/ลูกค้า เพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้กับ ปตท. ควบคู่กับการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยหลักสูตรของ OBA ในปี 2559 มีทั้งหมด 67 หลักสูตร จะมีผู้เข้ารับการอบรมกว่า 8,000 คน ตั้งแต่พนักงาน ปตท. รวมถึงเครือข่ายทางธุรกิจ อาทิ ผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมัน ปตท., ผู้แทนจำหน่ายโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม ปตท. คู่ค้า/ลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม, คู่ค้า/ลูกค้าอากาศยานและเรือขนส่งทั้งภาครัฐและเอกชน และผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์หล่อลื่น ปตท. ทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้การออกแบบสถาบันฯ นั้น ได้คำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ภายใต้แนวคิดการลดใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การนำระบบ Solar Roof และระบบ Wastewater Treatment มาใช้ ซึ่งนอกจากช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังเป็นการร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมตามนโยบายองค์กรอีกด้วย
นับเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของ ปตท. ในการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการที่มีมาตรฐาน พร้อมดูแลให้คนไทยให้ได้รับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพเป็นเลิศ และเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่เวทีสากล ร่วมสร้าง แบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักและสร้างความภาคภูมิใจให้กันคนไทย
