WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Zebra Technologies'ซีบรา' เตือนพิมพ์บัตรเสี่ยงโดนแฮ็กข้อมูล(Card Printer)

     ไทยโพสต์ : ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าไปถึงขั้นที่อุปกรณ์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้งานง่าย ตรงไปตรงมา กลับกลายเป็น ‘สมาร์ท’ ในปัจจุบัน อีกทั้งเชื่อมต่อกับเครือข่ายได้ เหล่านี้ช่วยให้องค์กรได้รับประโยชน์สูงสุดจากกระบวนการทางธุรกิจ และยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน หนึ่งในตัวอย่างที่กล่าวมาก็คือ เครื่องพิมพ์บัตร (Card Printer) โดยเฉพาะตัวที่ใช้ผลิตบัตรที่ระบุตัวตนสำหรับหน่วยงานราชการ รวมถึงจำพวกบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็ม และบัตรพรีเพด สำหรับองค์กรทางการเงินต่างๆ

       นายไรอัน โกห์ รองประธานฝ่ายขาย  ซีบรา เทคโนโลยีส์ ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า วิวัฒนาการของเทคโนโลยีการพิมพ์บัตร จากเทคโนโลยีตรงไปตรงมาที่ไม่ต้องพัฒนาอะไรมากมาย ปัจจุบันเครื่องพิมพ์บัตรเหล่านี้พัฒนาจนกลายเป็นอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายได้ มีเครื่องมือรักษาความปลอดภัยฝังอยู่ข้างในเพื่อป้องกันไม่ให้มีการโกง ด้วยการนำเครื่องพิมพ์มาปลอมบัตรระบุตัวตนทางราชการ บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรอื่นๆ อุปกรณ์เหล่านี้ ตอนนี้มีความสามารถเสริมในการเก็บข้อมูลเชิงลึกที่มีค่า ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนตัวของผู้ถือบัตร และช่วยให้องค์กรนำข้อมูลเหล่านี้มายกระดับการบริการและการดำเนินงานต่างๆ

     เนื่องจากเครื่องพิมพ์บัตรได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเครือข่ายที่เติบโตขึ้นและซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งเป็นเครือข่ายที่บริษัทต่างๆ นำมาใช้สร้างคุณค่าให้กับธุรกิจ จึงทำให้อาจจะมีความเสี่ยงบางอย่างที่ผู้มีอำนาจตัดสินใจควรจะระมัดระวัง ตัวอย่างเช่น แม้ว่าจะมีฟีเจอร์ด้านการรักษาความปลอดภัยฝังมากับตัวเครื่องพิมพ์บัตรรุ่นปัจจุบันก็ตาม แต่ก็ยังมีกรณีการฉ้อโกงในระดับสูงอยู่ดี ปลายปีที่ผ่านมา รายงานด้านอาชญากรรมไซเบอร์ของนอร์ตัน ที่จัดทำโดยไซแมนเทค ฉบับปี 2012 พบว่า การโกงบัตรเครดิตและเหตุการณ์ในการขโมยลักษณะนี้ทั่วโลกอยู่ที่ 7% และ  6% ตามลำดับ และแสดงให้เห็นว่าเครือข่ายที่เครื่องพิมพ์การ์ดเชื่อมต่ออยู่ ยังคงมีช่องโหว่ให้โจมตีผ่านไซเบอร์ได้

      ทั้งนี้ เทคโนโลยียังคงพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ฉะนั้น การลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น คือประเด็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยใหม่ๆ ซึ่งองค์กรธุรกิจก็ยังคงต้องระมัดระวังและป้องกันอยู่อย่างสม่ำเสมอเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังหลายประการที่บริษัทต้องใส่ใจ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากระบบการพิมพ์บัตรที่เชื่อมต่อผ่านเครือข่าย อีกทั้งหลีกเลี่ยงช่องโหว่และหลุมพรางต่างๆ บนไซเบอร์ได้

    เพื่อป้องกันปัญหาถูกขโมยข้อมูล องค์กรธุรกิจ จะต้องมีวิธีการเลือกใช้อุปกรณ์และวางระบบรักษาความปลอดภัย ดังนี้ 1.เลือกเครื่องพิมพ์ที่มีตัวล็อก เครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายมักจะไม่ได้อยู่ในจุดที่สื่อสารเชื่อมโยงกันในทางตรงเสมอไป ไม่เหมือนกับปกติที่มีการเชื่อมต่อกับเครื่องพิมพ์โดยตรง ตัวล็อกสามารถช่วยป้องกันการพยายามขโมยด้วยวิธีการปกติ การเข้าถึงควรจำกัดอยู่เฉพาะผู้ดูแลหลักที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น

     2.การเข้ารหัสข้อมูลความลับที่ใช้ระบุตัวตน ข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการทำไอดีเพื่อความปลอดภัยในการระบุตัวตนผู้ใช้ ควรจะมีการเข้ารหัสที่โฮสต์ตลอดจนตัวเครื่องพิมพ์เอง วิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดคือการใช้มาตรฐานการเข้าข้อมูลแบบ AES (Advanced Encryption Standard) ฉะนั้น ควรเลือกเครื่องพิมพ์ที่สามารถดำเนินการเรื่องของการเข้ารหัสข้อมูลได้โดยตรง

    3.ไม่ควรให้มีการเข้าถึงข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตนได้โดยตรง การให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ต้องมีการรักษาความปลอดภัยควรจะให้เข้าผ่านแอปพลิเคชันเท่านั้น สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ดูแลเรื่องการรักษาความปลอดภัยสามารถจำกัดการเข้าถึงข้อมูลที่ระบุตัวตนด้วยการกำหนดระดับของการมอบสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้

   4.เปิดให้มีการเชื่อมต่อข้อมูลเท่าที่จำเป็นเท่านั้น การรักษาความปลอดภัยในการเชื่อมต่อระหว่างฐานข้อมูลที่ระบุตัวตนผู้ใช้ ควรเปิดเฉพาะตอนที่ต้องเข้าถึงข้อมูลเท่านั้น การเปิดให้มีการเชื่อมต่อในเวลานานเกินความจำเป็นอาจทำให้เกิดความเสี่ยงและไม่ปลอดภัยได้

    นอกจากนี้ ให้พยายามอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสและสปายแวร์ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ง่ายที่สุดในการปกป้องข้อมูล รวมถึงสิ่งที่บ่อยครั้งอาจจะมองข้ามไป ซึ่งระบบเครื่องพิมพ์บัตรที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายได้อย่างมีคุณภาพจะแข็งแกร่งตราบเท่าที่เครือข่ายที่ใช้งานมีความปลอดภัย ดังนั้น จึงควรตระหนักเรื่องของเกร็ดความรู้ในการปกป้องเครือข่ายเหล่านี้ เพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรของคุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายและทำงานได้อย่างฉลาด.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!