- Details
- Category: การตลาด
- Published: Saturday, 27 February 2016 13:33
- Hits: 4108
ADVANC เผยเหลือลูกค้า 2G ราว 7 ล้านเลขหมายที่กำลังเปลี่ยนถ่ายไปสู่ 3G จาก 12 ล้านเลขหมาย
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ ADVANC ได้ให้ข้อมูลในงาน Opportunity Day โดยมีนางสาวนัฐยา พัวพงศกร ผู้อำนวยการสำนักนักลงทุนสัมพันธ์ เป็นผู้ให้ข้อมูล โดยมีสาระสำคัญดังนี้
หลังจากที่บริษัทฯ ออกแคมเปญการตลาดโดยให้ลูกค้าที่ใช้ระบบ 2G สามารถนำมาอัพเกรดเป็นระบบ 3G หรือ 4G โดยไม่คิดมูลค่า ปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาแลกเครื่องกว่า 5 ล้านเลขหมาย จากปี 58 ที่มีลูกค้า 2G 12 ล้านเลขหมาย ปัจจุบันเหลือลูกค้าอยู่ราว 7 ล้านเลขหมาย
หลังจากนี้ต้องขึ้นอยู่กับลูกค้าที่จะเข้ามาแลกเครื่องซึ่งไม่สามารถตอบได้ว่าจะย้ายลูกค้า 2G ได้หมดในปีนี้หรือไม่ "
บริษัทฯ คาดหวังการเซ็นสัญญากับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการนำคลื่น 2100 MHz จำนวน 15 MHz เข้ามาร่วมให้บริการ พร้อมกันนี้จะมีการเช่าเสาโครงข่ายและเช่าอุปกรณ์เครือข่ายคลื่น 2100 MHz ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอทางทีโอทีสรุปขั้นสุดท้าย หลังบรรลุข้อตกลงความร่วมมือไปแล้วก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้ บริษัทชี้แจงในคำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2558 ว่า ของดเว้นการเปิดเผยข้อมูลโครงสร้างการทำธุรกิจกับทีโอที จนกว่าสัญญาจะเสร็จสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รวมค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในประมาณการปีนี้แล้ว
นอกจากนี้ คาดว่าอัตรา EBITDA margin ปี 59รวมจะอยู่ประมาณ 37-38% ลดลงจากปี 58 ที่ทำได้ 45.60% เนื่องจากปิดบริการโครงข่าย 2G ทำให้สูญเสียรายได้บางส่วน ประกอบกับต้นทุนการทำธุรกิจร่วมกับทีโอที
ปี 2559 คาดรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย)จะใกล้เคียงกับปี 58 ที่ 1.2 แสนล้านบาท
ราคา ADVANC ปิดตลาดภาคเช้าที่ 173.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 0.87% มูลค่าการซื้อขาย 796.38 ล้านบาท
ADVANC ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้ชื่อทางการค้า AIS และการให้บริการที่เกี่ยวข้อง เช่น นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ ศูนย์ให้บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ ให้บริการโทรคมนาคม และโครงข่ายโทรคมนาคม เป็นต้น
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
ADVANC คาดรายได้ปี 59 ไม่รวม IC ทรงตัวจากปีก่อน, EBITDA Margin ลด
นางสาวนัฐิยา พัวพงศกร ผู้อำนวยการสำนักนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) กล่าวว่า บริษัทฯคาดรายได้จากการบริการ (ไม่รวม IC) ปี 59 จะอยู่ในระดับทรงตัว เมื่อเทียบกับปีก่อนที่อยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปิดโครงข่าย 2G แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีปัจจัยบวกจากการให้บริการคลื่นความถี่ 3G และ 4G ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าหมายจะมีลูกค้า 4G ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านเลขหมาย จากปัจจุบันอยู่ราว 4.4 ล้านเลขหมาย ซึ่งจะมาจากลูกค้า 3G ที่เปลี่ยนมาใช้และลูกค้าใหม่
ทั้งนี้ บริษัทฯได้ประมาณการอัตรา EBITDA margin ปีนี้จะลดลงมาอยู่ที่ 37-38% จากปีก่อนอยู่ที่ 45.6% เป็นผลมาจากได้รับผลกระทบระยะสั้นจากการปิดโครงข่าย 2G ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกค้า 2G ซึ่งค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในการดูแลลูกค้าดังกล่าว จะมาจากการออกแคมเปญเปลี่ยนเครื่องมือถือ 2G เป็น 3G เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด โดยบริษัทฯใช้ทั้งการตลาดแบบตรงและประชาสัมพันธ์ในวงกว้าง รวมถึงยังมีค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการโรมมิ่ง ที่ได้ร่วมมือกับบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC)
นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายในการเป็นพันธมิตรธุรกิจกับทีโอที ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างรอทีโอทีสรุปในขั้นสุดท้าย โดยบริษัทฯจะมีการร่วมใช้คลื่นความถี่ 2100 MHz จำนวน 15 MHz เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งการเช่าใช้เสาโทรคมนาคม และอุปกรณ์เครือข่าย ที่เป็นการใช้สินทรัพย์เพื่อสร้างประโยชน์และช่วยให้แผนการใช้เงินลงทุนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น คาดหวังว่าน่าจะมีการเซ็นสัญญาร่วมกันกับทีโอทีได้ภายในปีนี้ โดยบริษัทฯวางงบลงทุนทั้งหมดนี้ไว้ราว 8,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะได้รับผลดีจากค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ที่ลดลง
สำหรับ งบลงทุนปีนี้วางไว้ที่ 40,000 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนโครงข่าย โดยเดือนก.พ.นี้จะขยายเครือข่าย 4G ครอบคลุมเพิ่มอีก 17 จังหวัด รวมเป็น 59 จังหวัด และครอบคลุมทั่วประเทศ 77 จังหวัดภายในเดือนพ.ค.นี้ ขณะที่แบ่งเงินลงทุนบางส่วนประมาณ 7,000 ล้านบาท มาใช้พัฒนาอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงและดิจิทัลคอนเทนต์ หรือ AIS Fibre เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่บริการกว้างขึ้น จากปัจจุบันครอบคลุมแล้ว 12 จังหวัด และจะขยายเพิ่มเป็น 24 จังหวัด ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งตลาดเพื่อเป็นผู้เล่นรายหลักภายใน 3 ปีจากนี้
"สิ่งที่ท้าท้ายในปีนี้คือการแข่งขันที่รุนแรง และปัจจัยจากผลกระทบในระยะสั้นของการปิดเครือข่าย 2G แต่เราก็สามารถปลดล็อคคลื่นความถี่ไปได้ และพร้อมเดินหน้าให้บริการมากขึ้น เรียกความเชื่อมั่นลูกค้ากลับมา ขณะที่ในระยะกลาง เราคาดว่า EBITDA จะฟื้นตัวหลังจากการปิดเครือข่าย 2G และยังเป็นผู้นำ ecosystem ในด้านดิจิทัล เพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่ รวมถึงอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะมีคลื่นความถี่เพิ่มขึ้น ส่วนในระยะยาวเราจะเป็นผู้ที่มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน มีทีมบริหารมืออาชีพ และมีการเติบโตอย่างยั่งยืน" นางสาวนัฐิยากล่าว
การแข่งขันของตลาด 4G ในปีนี้ บริษัทฯมองว่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรงในด้านของแพ็คเกจ เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ ซึ่งเอไอเอสมีการเร่งย้ายลุกค้าจำนวนมากเพื่อรักษาฐานลูกค้าและรักษารายได้ และออกแคมเปญแจกมือถือเพื่อขยายฐาน 3G ขณะที่ก็มีการขยายความครอบคลุม 4G ช่วยรองรับการใช้อินเทอร์เน็ต แพ็คเกจใหม่ให้ปริมาณเน็ตเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมี ARPU เพิ่มขึ้นจากการให้ปริมาณการใช้อินเตอร์เน็ตที่มากขึ้น ซึ่งเอไอเอสจะสร้างความแตกต่างด้วย AIS PLAY และ AIS Cloud+
อินโฟเควสท์