- Details
- Category: การตลาด
- Published: Thursday, 08 May 2014 22:18
- Hits: 3901
พิษการเมืองฉุดกำลังซื้อ 'คชาบราเธอร์ส'รีแบรนด์'สฟรี'หันเจาะแหล่งท่องเที่ยว
ไทยโพสต์ : ปทุมวัน * 'คชา บราเธอร์ส'รับไตรมาสแรกยอดขายทรงตัว ควักเงินลงทุน 150 ล้านบาท ลุยรีแบรนด์'สฟรี'ครั้งใหญ่ พร้อมขยายสาขาต่างจังหวัดจับกลุ่มนักท่องเที่ยว-พรีเมียมแมส ลดความเสี่ยง
นายฤทธิ์ คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คชา บราเธอร์ส จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร ไอศกรีม และขนมหวาน ภายใต้แบรนด์สฟรี, พาเฟริโอ, เกียวโรลเอ็น, เทราโอกะเกี๊ยวซ่า, ออลดีส์ คอฟฟี่ไลท์ และแพสเทล เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้เตรียมเงินลงทุนไว้ประมาณ 150 ล้านบาท โดยจะใช้ในการรีแบรนด์ในส่วนของแบรนด์ 'สฟรี'และ 'สฟรี เจอาร์'ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเดิมทีแบรนด์ดังกล่าวจะเน้นจับกลุ่มแมสเป็นหลัก แต่ภายหลังจากที่เริ่มทำการรีโนเวททั้ง 22 สาขาที่เปิดให้บริการอยู่ในตอนนี้แล้ว จะเน้นโฟกัสไปยังกลุ่มลูกค้าผู้หญิงที่ใส่ใจสุขภาพให้มากขึ้น เนื่องจากแบรนด์สฟรีเป็นขนมหวานที่มีความเป็นเฮลตี้เจ้าเดียวของเมืองไทย โดยคาดว่าจะดำเนินการปรับภาพลักษณ์ได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2557 และจะเสร็จสิ้นในช่วงปี 2558 ซึ่งจะทำให้แบรนด์ สฟรีมีอัตราการเติบโตในแต่ละสาขาอยู่ที่ 100% จากในปัจจุบันภาพรวมมีการเติบโตอยู่ที่ 2.5%
สำหรับ งบประมาณในส่วนที่เหลืออีกราว 50 ล้านบาท จะใช้ในการขยายสาขาให้กับแบรนด์ที่เหลือของบริษัท โดยล่าสุดจะทำการขยายสาขาให้กับแบรนด์เกียวโรลเอ็นขนาด 75 ตารางเมตร จำนวน 45 ที่นั่ง บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ภายใต้งบลงทุน 10 ล้านบาท ซึ่งสาขาดังกล่าวจะมีความแตกต่างจากสาขาที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้ง 4 สาขา และจะเป็นร้านของหวานระดับเวิลด์คลาสภายใต้ชื่อ'เกียว บาย เกียวโรลเอ็น'
ขณะเดียวกันในปีนี้ยังได้เตรียมขยายสาขาในส่วนของธุรกิจอาหารคาวภายใต้แบรนด์ "เทราโอกะ เกี๊ยวซ่า" บริเวณโครงการสยามสแควร์วันเพิ่มอีก 1 สาขา จากปัจจุบันเปิดให้บริการอยู่ 1 สาขาที่สยามพารากอน ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.2556 ที่ผ่านมา
"ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาผลการดำเนินงานของบริษัท ต้องยอมรับว่ามีอัตราการเติบโตที่ทรงตัว เพราะได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2556 ที่ผ่านมา และในขณะนี้ก็ยังไม่เห็นสัญญาณว่ากำลังซื้อจะเริ่มกลับมาแต่อย่างใด ซึ่งทำให้นับจากนี้บริษัทต้องหันมาทำการตลาดในกลุ่มลูกค้าพรีเมียมแมสให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง และมักจะไม่ได้รับผลกระทบ แม้ภาพรวมกำลังซื้อจะไม่ดีก็ตาม"นายฤทธิ์กล่าว
ล่าสุดบริษัทได้ทำการเปิดแบรนด์ขนมเอแคลร์ภายใต้ชื่อ'แพสเทล'สาขาแรกที่ศูนย์การค้าพารากอน ซึ่งแผน 1 ปีนับจากนี้ จะเร่งดำเนินการขยายสาขาให้ครบ 10 แห่ง ซึ่งจะใช้งบลงทุนประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อสาขา และจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 1 ปี โดยภายหลังจากดำเนินการขยายสาขาตามแผนที่วางไว้แล้ว คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 120 ล้านบาท
นายฤทธิ์ยังกล่าวว่า ภายในปีหน้าจะขยายธุรกิจออกไปยังต่างจังหวัด โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว ในเบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะขยายไปยังศูนย์การค้าที่จังหวัดภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 155 ล้านบาท จากปี 2555 มีรายได้อยู่ 100 ล้านบาท โดยในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้ประมาณ 200 ล้านบาท และภายใน 3 ปีนับจากนี้ตั้งเป้าจะมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจอยู่ที่ 500 ล้านบาท และขึ้นเป็นแบรนด์ขนมหวานอันดับหนึ่งของเมืองไทย.