WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

4แบรนดไอตม

กูลิโกะ ส่ง 4 แบรนด์ไอติมประเดิมไทย ชิมลางตลาดนอกญี่ปุ่นครั้งแรก

    เอซากิ กูลิโกะ ผู้ผลิตขนมบิสกิตชั้นนำจากญี่ปุ่น ภายใต้แบรนด์ที่คนไทยรู้จักดีในชื่อ กูลิโกะ ป๊อกกี้ ทุ่มงบ 300 ล้านบาท เดินหน้ารุกตลาดไอศกรีมในประเทศไทย ประกาศเปิดตัว บริษัท กูลิโกะ โฟรเซ่น (ประเทศไทย) จำกัด พาเหรดไอศกรีม 4 ยี่ห้อหลัก มาให้คนไทยได้ฟินกันแบบเต็มแม็กซ์ ได้แก่ พาลิตเต้ (Palitte), ไจแอนท์ โคน (Giant Cone), พาแนปป์ (Panapp) และ เซเว่นทีน ไอซ์ (Seventeen Ice) พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มกราคม 2559 นี้

   คุณคิโยทะคะ ชิมะโมริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กูลิโกะ โฟรเซ่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจไอศกรีมนอกประเทศญี่ปุ่น โดยเหตุผลที่เลือกประเทศไทยประเดิมตลาดเป็นประเทศแรกเพราะมองเห็นว่าตลาดไทยมีศักยภาพในการเติบโตสูง ผู้บริโภคชอบมองหาประสบการณ์และสิ่งใหม่ๆ ที่แตกต่างอยู่เสมอ อีกทั้งสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนน่าจะทำให้ตลาดไอศกรีมคึกคักและได้รับการตอบรับที่ดีตลอดทั้งปี โดยทางบริษัทได้จ้างให้ บริษัท จอมธนา จำกัด ซึ่งมีโรงงานอยู่ที่ จ.ปทุมธานี เป็นผู้ผลิตไอศกรีมของกูลิโกะ โฟรเซ่น ทั้ง 4 แบรนด์ ที่จัดจำหน่ายในประเทศไทย ขณะที่ในส่วนของวัตถุดิบมีทั้งนำเข้าและวัตถุดิบที่หาได้ในประเทศ แต่ต้องได้รสชาติที่เหมือนกับผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นมากที่สุด

     ผู้บริหาร กูลิโกะ โฟรเซ่น เปิดเผยด้วยว่า การเปิดตลาดไอศกรีมในเมืองไทยคร้งนี้ ทางบริษัทใช้งบการตลาดประมาณ 300 ล้านบาท (ปี 2016 - 2020) ตั้งเป้าโกยยอดขาย 600 - 900 ล้านบาท และชิงส่วนแบ่งตลาดไอศกรีมในไทย 10% ได้ภายในปี 2563 โดยชูจุดขายโดนใจผู้บริโภคชาวไทยอยู่ที่ความแปลกใหม่ ทั้งรูปลักษณ์ รสสัมผัสของเนื้อไอศกรีม และราคา ที่แตกต่างจากไอศกรีมแบรนด์อื่นที่มีอยู่ในท้องตลาด มุ่งทำการตลาดทางสื่อโฆษณาทั้ง Above the line และ Below the line เบื้องต้นเน้นกลุ่มเป้าหมายที่อาศัยในกรุงเทพและปริมณฑล โดยมีการใช้สื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดียต่างๆ สื่อสิ่งพิมพ์ (Free Coppy) สื่อวิทยุ และ OOH Media (ป้ายโฆษณา) รวมถึงการแจกสินค้าให้ทดลองชิมเพื่อช่วยเพิ่มการบริโภคในระยะยาว และสร้างความคุ้นเคย การรับรู้ผ่านสื่อตามร้านค้า / ตู้แช่ ซึ่งจะมี 10,000 ตู้ภายในปี 2563 ในช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งโมเดิร์นเทรด และเทรดดิชันนอลเทรด อาทิ ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต, บิ๊กซี, แม็กซ์แวลู, เซเว่น-อีเลฟเว่น และร้านค้าทั่วไป ก่อนจะเริ่มทำตลาดในต่างจังหวัดช่วงกลางปีนี้ และแผนจะเปิดตลาดไอศกรีมในประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศต่อไป ในช่วงกลางปี ถึงสิ้นปี 2559

    สำหรับ ไอศกรีมทั้ง 4 แบรนด์ที่เปิดตัวให้คนรักไอศกรีมเมืองไทยได้ฟินกันแบบเต็มคำ ประกอบด้วย

    1.พาลิตเต้ มี 2 รสชาติ ได้แก่ รสนมและช็อคโกแลต กับ รสนมและไวท์ช็อคโกแลต ราคา 35 บาท กลุ่มเป้าหมายคือผู้หญิงที่ต้องการให้รางวัลตัวเองจากความเหนื่อยล้าหลังการทำงานหรือการเรียน ไอศกรีมรสนมเนื้อนุ่มที่ผสมกันอย่างลงตัวกับช็อคโกแลตกรุบกรอบที่เคลือบมาเป็นเกลียวรอบไอศครีม มีถ้วยพลาสติกใส่ด้านนอกโคนไอศกรีมเอาไว้อีก 1 ชั้นเพื่อให้สามารถรับประทานได้ง่าย ไม่เปื้อนมือ

    2.เจแอนท์ โคน มี 2 รสชาติ ได้แก่ รสช็อคโกแลตถั่วลิสง และ รสช็อคโกแลตคุกกี้ ราคา 25 บาท กลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียน วัยรุ่น วัยทำงาน ที่ต้องการเติมพลังให้กับตัวเอง ด้วยไอศกรีมเนื้อแน่นที่โรยหน้าด้วยช็อคโกแลตท็อปปิ้งชั้นดีรสชาติเข้มข้น ช่วยปลดปล่อยความเหนื่อยล้า และให้ความรู้สึกเพลิดเพลินจนคำสุดท้าย

    3.พาแนปป์ มี 2 รสชาติ ได้แก่ รสตรอเบอร์รี่ และรสองุ่น ราคา 25 บาท กลุ่มเป้าหมายคือผู้หญิงทันสมัย ไอศกรีมได้แนวคิดจาก "พาเฟ่ต์" หรือที่คนไทยคุ้นชินกันดีในนามไอศกรีมซันเดย์ มาพร้อมความอร่อยลงตัว 3 ชั้น คือไวท์ช็อคโกแลตกรุบกรอบ ซอสผลไม้ และไอศกรีมวานิลา นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ (ถ้วยและฝา) ยังถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถนำไปรียูสใช้งานอย่างอื่นได้อีกด้วย

     4.เซเว่นทีน ไอซ์ มี 2 รสชาติ ได้แก่ รสมิ้นท์และช็อคโกแลต กับ รสวานิลาและคุกกี้ ราคา 20 บาท กลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่น และคนที่มีหัวใจวัยทีนอยู่ที่ 17 ได้ร่วมสังสรรค์กันอย่างมีสไตล์ กับไอศกรีมรูปแบบแท่ง ฉีกเทรนด์ ที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการละลายนั่นเอง

                อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!