- Details
- Category: การตลาด
- Published: Saturday, 05 July 2014 22:23
- Hits: 15344
ลีวายส์® นำคุณร่วมเดินทางย้อนเวลาไปกับตำนานสุดคลาสสิค เปิดตัวสินค้าสุดวินเทจรุ่น LEVI'S® VINTAGE CLOTHING และสินค้ารุ่นพรีเมี่ยม LEVI'S® MADE AND CRAFTED™ อย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด
ดีเคเอสเอช ผู้นำในการให้บริการด้านการขยายตลาดโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย และลีวายส์® นำสาวกเสื้อผ้าวินเทจร่วมเดินทางย้อนเวลาไปยังต้นกำเนิดตั้งแต่ยุคตื่นทองกับเสื้อผ้าสไตล์วินเทจที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวจากประวัติศาสตร์ยีนส์อเมริกันอันล้ำค่า Levi’s® Vintage Clothing (LVC) และสินค้ารุ่นพรีเมี่ยม Levi's® Made and Crafted™ (LMC) ที่ออกแบบตัดเย็บด้วยกรรมวิธีพิเศษอย่างพิถีพิถัน มาให้คนไทยได้จับจองเป็นเจ้าของกันแล้วที่แรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ ร้านลีวายส์® สาขาโครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี กรุงเทพฯ
Levi’s® Vintage Clothing (LVC)
ลีวายส์® คัดสรรกางเกงยีนส์ยอดฮิตสุดเก๋าจากช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 124 ปีของลีวายส์® 501® มาผลิตใหม่ด้วยกรรมวิธีแบบดั้งเดิมที่เคยทำเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วในแบบย้อนยุคให้เหมือนเก่าทุกกระเบียดนิ้ว ทั้งเนื้อผ้า รูปทรง ตลอดจนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ด้วยคุณภาพการผลิตและเทคนิคเฉพาะที่แตกต่างรวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยลีวายส์® เลือกหยิบกางเกงยีนส์ 501® ในตำนานที่ผลิตในช่วงยุคสมัยคริสตศักราชต่างๆ มาผลิตใหม่ทั้งสิ้น 10 รุ่นคริสตศักราช
กางเกงยีนส์ 501® รุ่นปี 1890 เป็นปีแรกที่ลีวายส์®ใช้ตัวเลข "501" เป็นรหัสรุ่นของกางเกงยีนส์ โดยในยุคนั้นตัวเลข "5" จะถูกใช้เป็นรหัสนำหน้าของสินค้าลีวายส์® ที่ผลิตจากวัสดุที่ดีที่สุด
กางเกงยีนส์ 501® รุ่นปี 1922 เพิ่มรูร้อยเข็มขัดตรงขอบกางเกงยีนส์ครั้งแรก แต่ยังคงมีกระดุมสำหรับใส่สายเอี๊ยม (suspender) และสายปรับกระชับ (Back buckle belt)
กางเกงยีนส์ 501® รุ่นปี 1933 เป็นรุ่นสุดท้ายที่มีสายปรับประชับ (back buckle belt) และกระดุมสำหรับใส่สายเอี๊ยม (suspender) จุดสำคัญที่สุดของรุ่นนี้ คือ ป้ายสีขาวเล็กๆ พิมพ์รูปนกอินทรีสีฟ้าและตัวอักษร NRA (National Recovery Act) ที่อยู่บริเวณป้ายหนัง นอกจากนี้ป้าย Guarantee Ticket ได้ถูกเปลี่ยนจากคำว่า ‘This is a pair of them’ เป็น ‘This is a pair of Levi’s®’ ทรงกระบอกใหญ่ ขาตรง
กางเกงยีนส์ 501® รุ่นปี 1937 มีการเย็บป้ายเร้ดแท็ป® (Red Tab®) เข้ากับกระเป๋าหลังด้านขวาของกางเกงเป็นครั้งแรกเพื่อสร้างเอกลักษณ์อันโดดเด่นให้แบรนด์ลีวายส์® และซ่อนหมุดย้ำโลหะในการเย็บกระเป๋าหลังเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนเวลานั่ง
กางเกงยีนส์ 501® รุ่นปี 1944 (World War II) ในสถานการณ์ขาดแคลนในสภาวะสงคราม ลีวายส์® ต้องตัดการตกแต่งที่ไม่จำเป็นออกเพื่อลดปริมาณวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต โดยได้ตัดหมุดย้ำโลหะตรงเป้าด้านหน้าและสายปรับกระชับ (back buckle belt) ออก เส้นโค้งปีกนกบนกระเป๋าหลังถูกใช้วิธีการเพ้นท์สีแทนการเย็บด้วยเส้นด้าย กระดุมหน้าแบบโดนัท และกระดุมด้านบนเป็นรูปช่อมะกอก
กางเกงยีนส์ 501® รุ่นปี 1947 เป็นแม่แบบของกางเกงยีนส์ 501® ในปัจจุบัน ด้วยการตัดเย็บที่มีรูปทรงแบบสลิมเข้ารูปยิ่งขึ้น ใช้การเดินเส้นด้ายตรงกระเป๋าหลังแบบโค้งปีกนกด้วยจักรเป็นเส้นคู่ และเป็นช่วงที่คนยุคใหม่เริ่มหันมาใส่ยีนส์
กางเกงยีนส์ 501® รุ่นปี 1954 เป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่ใช้ซิปที่เป้ากางเกง และป้ายหนังมีการพิมพ์รหัส “501Z”
กางเกงยีนส์ 501® รุ่นปี 1955 เริ่มใช้ป้ายปะเก็นกระดาษแบบยุคปัจจุบันครั้งแรก โดยเป็นช่วงที่มีการใช้คำว่า Jeans แทนคำว่า Overall
กางเกงยีนส์ 501® รุ่นปี 1966 เริ่มใช้ Bar Tack แทนการตอกหมุดโลหะบนกระเป๋าหลังด้วยตะขอยึด เนื่องจากเมื่อผ่านการใช้งานเป็นเวลานาน หมุดโลหะมักจะทะลุเนื้อผ้ายีนส์ออกมา และนี่เป็นช่วงปลายของการใช้ Big E บนป้ายเร้ดแท็ป® (Red Tab®) ส่วนกระเป๋าหลังโค้งคู่ปีกนกมีความโค้งน้อยกว่าปกติ
กางเกงยีนส์ 501® รุ่นปี 1978 มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโลโก้สัญลักษณ์ลีวายส์® บนป้ายเร้ดแท็ป® (Red Tab®) จาก LEVI’S® เป็น Levi’s® ทำให้เกิดคอนเซ็ปต์ใหม่ของความเป็น ‘Big E’ และ ‘Little e’
พิเศษกับคอลเลคชั่น LVC ออเร้นแท็ป (Orange Tab) รุ่นปี 1960 ที่ผลิตขึ้นครั้งแรกในสหรัฐฯ เป็นการใช้ป้ายออเร้นแท็ป (Orange Tab) บ่งบอกสัญลักษณ์ลีวายส์® แทนการใช้ป้ายเร้ดแท็ป® (Red Tab®) สำหรับไอเท็มต่างๆ ทั้งกางเกงยีนส์เข้ารูป เสื้อสวมหัว เสื้อยืด เสื้อเชิ้ตเดนิม และเสื้อแจ็คเก็ตเดนิม ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ถือเป็นการปฏิวัติยีนส์คลาสสิคอเมริกันสู่ยุคเจเนเรชั่นใหม่ ทุกวันนี้ ออเร้นแท็ป (Orange Tab) ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคเสรีอันแสนจะเรียบง่าย
Levi’s® Made and Crafted™ (LMC)
เมื่อ 141 ปีที่แล้ว นายลีวายส์ สเตร้าส์ ได้คิดค้นกางเกงยีนส์เฉดสีครามเข้มที่พลิกโฉมการแต่งตัวของชาวอเมริกาและคนทั่วโลกไปตลอดกาลมาแล้ว กลับมาครั้งนี้ ลีวายส์® ได้สร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับวงการยีนส์ ทั้งเทคนิคการฟอก งานฝีมือตัดเย็บที่พิถีพิถันที่ต้องอาศัยความชำนาญในการทอและเลือกสรรวัสดุที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เพื่อให้ Levi’s® Made and Crafted™ (LMC) กลายเป็นไอเท็มดีไซน์สุดล้ำที่จะมาสร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ในอนาคต อีกทั้งให้ความรู้สึกในการสวมใส่ที่เบาสบายยิ่งขึ้น ทั้งเสื้อเชิ้ต เสื้อแจ็คเก็ต กระโปรง ชุดเดรส กางเกงยีนส์ และกางเกงสกินนี่ เป็นต้น
ผ้าเดนิมสีฟ้าครามยังคงเป็นตัวเอกดังเดิมด้วยการนำผ้าเดนิมสีครามจากแหล่งที่ดีที่สุดของโลก มาตัดเย็บด้วยมืออย่างประณีตให้คุณได้สัมผัสถึงความนุ่มนวล นอกจากนี้ ในแต่ละซีซั่น ลีวายส์® ร่วมกับโรงทอผ้าที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลกทั้งสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และอิตาลี่ ค้นคว้าและพัฒนาผ้าเดนิมคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ตลอดจนวัสดุอย่างหนังแว็กซ์มือจากอิตาลี่ ผ้าขนสัตว์และผ้าไหมที่ถักทอกับฝ้ายและวูลล์เพื่อผืนผ้าคุณภาพระดับพรีเมี่ยม พร้อมให้ความรู้สึกบางเบาสวมใส่สบายยิ่งขึ้น
เสื้อผ้าทุกชิ้นตัดเย็บด้วยกรรมวิธีที่ดีที่สุด นอกจากความประณีตพิถีพิถัน ยังต้องอาศัยความชำนาญของช่าง ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด เสื้อผ้าบางชิ้นอาศัยระยะเวลาในการตัดเย็บกว่า 2-3 วัน แม้กระทั่งดีเทลการตัดเย็บด้านในก็สวยงามเหมือนด้านนอกอย่างไม่มีที่ติ เช่นการตัดเย็บเสื้อเชิ้ตด้วยมือโดยเทคนิคการเดินเข็มเดียวอย่างประณีตพร้อมเก็บรายละเอียดด้านในอย่างเรียบร้อย
การคัดสรรวัสดุสุดพิเศษเพื่อสัมผัสที่เหนือกว่า เช่น กระดุมผ้าฝ้ายอัด กระดุมกระดูก และกระดุมไม้ ใช้สีย้อมผ้าสีฟ้าครามและสีอื่นๆ จากธรรมชาติ ตลอดจนการปักลายปีกนกบนด้านหลังกระเป๋าซึ่งจะค่อยๆ เผยออกมาให้เห็นเวลาสวมใส่ ถือเป็นซิกเนเจอร์ที่จะรู้ทันทีว่านี่คือลีวายส์®
เพื่อต้อนรับลีวายส์® รุ่น LVC และ LMC สู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย ลีวายส์® นำไอเท็มระดับตำนานมาให้ทุกคนได้สัมผัส คือ เสื้อทักซิโด้ในตำนาน ‘Crosby Tuxedo’ อันมีประวัติยาวนานที่ได้ปฏิวัติการสวมใส่ยีนส์ในปี 1951 จากเรื่องราวของ บิง ครอสบี้ (Bing Crosby) ศิลปินผู้โด่งดังของอเมริกา ที่ไม่สามารถใส่ยีนส์เข้าโรงแรมได้ จนในที่สุดลีวายส์® ได้พัฒนารูปแบบทำให้เขาสามารถสวมใส่ยีนส์ตัวเก่งก้าวเข้าสู่โรงแรมได้อย่างภาคภูมิและนั่นคือตำนานความเป็นมาของเสื้อทักซิโด้ ‘Crosby Tuxedo’ นั่นเอง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.levisthailand.com
เกี่ยวกับแบรนด์ลีวายส์®
แบรนด์ลีวายส์® แสดงความเป็นคลาสสิคในสไตล์อเมริกันที่มีความเท่ห์ในตัว ตั้งแต่เริ่ม บริษัท ลีวายส์® สเตราส์ แอนด์ โค ในปี 2416 กางเกงยีนส์ลีวายส์® กลายเป็น แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงที่สุดในโลกซึ่งสะกดจินตนาการและความภักดีกับผู้คนมาหลายยุคหลายสมัย ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ยีนส์และเครื่องประดับของลีวายส์® ถูกแพร่กระจายไปกว่า 110 ประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการในการแสดงออกถึงสไตล์ของตนเองต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์ลีวายส์® และสินค้าลีวายส์® กรุณาเข้าชม www.levi.com
เกี่ยวกับ ดีเคเอสเอช
ดีเคเอสเอช เป็นผู้นำในการให้บริการด้านการขยายตลาดโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย เมื่อกล่าวถึง “บริการด้านการขยายตลาด” ดีเคเอสเอช ทำงานร่วมกับบริษัทคู่ค้าในการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่หรือตลาดที่มีอยู่เดิมให้เพิ่มขึ้น
ดีเคเอสเอชได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SIX Swiss Exchange ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในเดือนมีนาคม 2555 จัดเป็นบริษัทระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซูริค มีสำนักงานครอบคลุมถึง 735 แห่ง ใน 35 ประเทศ ซึ่ง 710 แห่งตั้งอยู่ในเอเชีย รวมทั้งมีพนักงานผู้ชำนาญการอีก 26,700 คน โดยในปี 2556 ดีเคเอสเอช มียอดขายสุทธิ9 ,600 ล้านสวิสฟรังก์
เกี่ยวกับ ดีเคเอสเอช ประเทศไทย
ก่อตั้งในประเทศไทยเมื่อปี 2449 ดีเคเอสเอช เป็นผู้นำทางการบริการด้านการขยายตลาดให้กับธุรกิจผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ธุรกิจผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอุตสาหกรรม ธุรกิจเทคโนโลยี แม้ว่า ดีเคเอสเอช จะเป็นบริษัทสัญชาติสวิส แต่กลับหยั่งรากลึกอยู่ในชุมชนท้องถิ่น เนื่องจากบริษัทสามารถดึงความสามารถจากประสบการณ์การดำเนินธุรกิจในพื้นที่ที่ยาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่เหนือกว่าในด้านการให้บริการด้านการขยายตลาดที่ออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการของคู่ค้า ประเทศไทยถือเป็นจุดศูนย์กลางที่สำคัญที่สุดในเครือข่ายการทำธุรกิจของ ดีเคเอสเอช ในภูมิภาคและถือเป็นแบบอย่างในการสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องให้กับประเทศอื่นๆ
Levi’s® brings two of its clothing collections to South East Asia for the first time
DKSH (Thailand) Limited
DKSH, the leading Market Expansion Services provider with a focus on Asia, announces today the launch of Levi’s® Vintage Clothing (LVC) and the premium Levi's® Made and Crafted™ (LMC) line in Southeast Asia.
Bangkok, Thailand, July 3, 2014 - DKSH Thailand, the exclusive franchisee and distributor of Levi’s® in Thailand announces today the launch of two new clothing lines in Thailand and other countries in South East Asia.
The line Levi’s® Vintage Clothing (LVC) reproduces the same style and fit as the iconic 501® jeans which was introduced 124 years ago. The 501® jeans was established during the gold rush era, where miners and other workers were looking for a robust working garment. The LVC jeans reproduces every detail including fabric, sundries and even packaging, so that denim fans in 2014 can recreate the 10 looks and style of a bygone era.
The first collection of Levi’s 501® jeans has been amended in 1890, with the number “5” representing products made from best fabrics and materials. In 1922, the jeans had its key features with suspender buttons and a back buckle belt. Belt loops were added later in 1933, while in 1937, the Red Tab® was introduced to identify the Levi’s® brand. In 1944, during world war II, the arcuate was painted on the back pockets and in 1947, with a slimmer fitting, the arcuate was stitched on the back pockets with double needle technology. In 1954, a zip fly was incorporated and one year later in 1955, the ‘Two Horse’ leather-like patch was born. In 1966 then, the back pocket rivets were covered with bar tacks, while in 1978, the logo on the Red Tab® changed from LEVI’S to Levi’s with the concept ‘Big E’ and ‘Little e’. As of 1960, the special collection LVC got an orange tab to represent Levi’s brand instead of a Red Tab®.
Some 141 years ago, Levi Strauss invented a simple blue jeans that forever changed the way America and the rest of the world dressed. Levi’s® Made and Crafted™ (LMC) builds on this legacy of designing tomorrow’s classics by using today’s best materials and construction techniques for various clothes such as shirts, jackets, skirts, dresses and jeans. Every garment is cut, sewn and finished using the best methods available.
Indigo and Denim are still Levi’s® heroes. The LMC range has the best fitting jeans for both women and men, uses denim and indigo in new and unexpected ways. In terms of denim innovation, every season, Levi’s® works together with leading mills in the U.S., Japan and Italy to create the finest fabrics. In addition, hand waxed leathers are sourced from Italy as well as cashmere and silk yarns (woven with cotton and wool) to create comfortable fabrics.
To support the launch of the LVC and LMC jeans, Levi’s® produces a replica of the famous “Crosby Tuxedo” available for sale in Thailand. In 1951, the legendary U.S. actor and singer, Bing Crosby was denied entrance in a Canadian hotel because he dressed in denim. Levi’s® developed a custom denim tuxedo jacket so that Bing Crosby would never have had problems wearing Levi’s® jeans when entering the hotel.
The Levi’s® Vintage Clothing (LVC) and Levi's® Made and Crafted™ (LMC) collections are exclusively available for sale at the new Levi’s® store at the Central Embassy in Bangkok.
For more information: www.levisthailand.com
About Levi’s® brand
The Levi’s® brand epitomizes classic American style and effortless cool. Since their invention by Levi Strauss & Co. in 1873, Levi’s® jeans have become the most recognizable and imitated clothing in the world – capturing the imagination and loyalty of people for generations. Today, the Levi’s® range of jeans wear and accessories are available in more than 110 countries, allowing individuals around the world to express their personal style. For more information about the Levi’s® brand, its products and stores, please visit www.levi.com
About DKSH Group
DKSH is the leading Market Expansion Services provider with a focus on Asia. As the term "Market Expansion Services" suggests, DKSH helps other companies and brands to grow their business in new or existing markets.
Publicly listed on the SIX Swiss Exchange since March 2012, DKSH is a global company headquartered in Zurich. With 735 business locations in 35 countries – 710 of them in Asia – and 26,700 specialized staff, DKSH generated net sales of CHF 9.6 billion in 2013.
About DKSH Thailand
Since its establishment in Thailand in 1906, DKSH has been a leading player in providing Market Expansion Services for the consumer goods, healthcare, performance materials, and technology industries. Although it is a Swiss company, DKSH is deeply rooted in the local community. This is because the company is able to draw from a tradition, lasting over a century, of doing business in and with the nation. Through its industry expertise and unparalleled experience in offering Market Expansion Services tailored to the specific needs of its business partners, Thailand has evolved into the most important hub within DKSH’s dynamic network. In the region, the Thailand operation serves as a role model in leveraging success stories to other countries.
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด
ทศวรรณ โชติกโกวิท
แบรนด์ เมเนเจอร์ (ลีวายส์®)
โทร +66 2790 4437
เกรลิ่ง ไทยแลนด์
เจษฎา แสนพรหม (นุค)
โทร +66 2635 7151 2