กลุ่มทรู พอใจในความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ทั้งรายได้จากการให้บริการที่ยังคงเติบโต และความสำเร็จในการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม 'ทรูโกรท'(TRUEGIF) รวมถึงภาระหนี้ที่ปรับลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญพร้อมประกาศทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2557 ก้าวเป็นผู้ให้บริการคอนเวอร์เจนซ์เต็มรูปแบบโดยปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร และกำหนดทิศทางมุ่งเน้นลูกค้าเป็นสำคัญ รุกเสริมความแข็งแกร่งทั้งด้านธุรกิจและการเงิน บริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มอัตรากำไรเบื้องต้น (EBITDA) มั่นใจนำกลุ่มทรูสร้างผลกำไรได้ภายในปี 2558
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ปีที่ผ่านมา กลุ่มทรูประสบความสำเร็จในหลายๆ ด้าน ทั้งรายได้จากผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจที่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ และความสำเร็จจากการเป็นองค์กรไทยรายแรกของประเทศที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโลก COPC CSP จาก COPC (Customer Operation Performance Center) รวมทั้งความสำเร็จจากการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม “ทรูโกรท” (TRUEGIF) ซึ่งส่งผลให้กลุ่มทรูสามารถลดภาระหนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม และในปี 2557 นี้ กลุ่มทรูจะก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการคอนเวอร์เจนซ์อย่างเต็มรูปแบบ โดยการปรับโครงสร้างการบริหาร และปรับองค์กร มุ่งให้ความสำคัญแก่ลูกค้าสูงสุด ทั้งการสร้างประโยชน์และมูลค่าเพิ่มยิ่งขึ้น รวมทั้งการก้าวเป็นองค์กรที่ขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
“ผมมั่นใจว่ากลุ่มทรูจะสามารถก้าวเป็นองค์กรที่ทำกำไรได้ในปีหน้าอย่างแน่นอน โดยในปีนี้จะเน้นการสร้างความแข็งแกร่งทั้งด้านธุรกิจและการเงิน การบริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเพิ่มอัตรากำไรเบื้องต้น (EBITDA) โดยใช้หลักการบริหารจัดการธุรกิจในแบบ Total Quality Management (TQM) ซึ่งเป็นการบริหารคุณภาพระบบงานทั้งหมดในองค์กร โดยการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกระดับ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กร และเพื่อยกระดับกลุ่มทรูให้ทัดเทียมมาตรฐานระดับโลก นอกจากนี้ยังนำ Lean Six Sigma ซึ่งเป็นขบวนการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาอย่างมีระบบเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่สาเหตุอย่างแท้จริง ตลอดจนปรับปรุงขั้นตอนการทำงานให้มีประสิทธิภาพเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า”
ในปี 2556 กลุ่มทรูมีรายได้จากการให้บริการโดยรวม จำนวน 66.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากรายได้ที่เติบโตในทั้งสามธุรกิจหลัก ขณะที่มีผลขาดทุนสุทธิ 9.1 พันล้านบาทซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายจากการสิ้นสุดสัมปทานของทรูมูฟในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการโอนย้ายลูกค้าทรูมูฟ มาเป็น ทรูมูฟ เอช การบันทึกการด้อยค่าสินทรัพย์โครงข่าย 2G รวมถึงค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น จากการร่นระยะเวลาการตัดค่าเสื่อมของสินทรัพย์ภายใต้สัญญาสัมปทานของทรูมูฟให้สั้นขึ้น อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวในช่วงการสิ้นสุดยุคสัมปทาน 2G เท่านั้น และรายได้รวมของกลุ่มทรูโมบายล์ ในปีที่ผ่านมายังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริการนอนวอยซ์ซึ่งเติบโตสูงถึงร้อยละ 49 จากปีก่อนหน้า ด้วยความเป็นผู้นำบริการ 3G ที่เร็ว แรงเต็มสปีด และครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด และบริการ 4G LTE รายแรกในไทย รวมถึงการนำเสนอแพ็กเกจบริการที่คุ้มค่าร่วมกับดีไวซ์หลากหลายรุ่น ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มได้เป็นอย่างดี ทำให้ ณ สิ้นปี 2556 กลุ่มทรูโมบายล์มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 22.9 ล้านราย
ทรูออนไลน์ ยังคงเดินหน้าขยายโครงข่ายบริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครอบคลุมแล้วกว่า 4.3 ล้านครัวเรือน ใน 61 จังหวัด ณ สิ้นปี 2556 และตั้งเป้าครอบคลุมทั่วประเทศในปีนี้ ทั้งนี้ จากการนำเสนอแพ็กเกจคอนเวอร์เจนซ์ที่เพิ่มความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าจากการรวมบริการอัลตร้า ไฮ-สปีด อินเทอร์เน็ต ของทรูออนไลน์ ร่วมกับบริการอื่นๆ ภายในกลุ่มทรู ส่งผลให้ทรูออนไลน์มีจำนวนผู้ใช้บริการบรอดแบนด์รายใหม่สุทธิสูงกว่า 240,000 ราย มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 ล้านราย ณ สิ้นปี 2556 และมีรายได้บริการบรอดแบนด์ของทรูออนไลน์ เติบโตสูงถึงร้อยละ 17 จากปีก่อนหน้า
ทรูวิชั่นส์ มุ่งเน้นการเพิ่มประสบการณ์การรับชมให้กับลูกค้าด้วยการสรรหาคอนเทนต์คุณภาพทั้งในและต่างประเทศ และการปรับเพิ่มช่องรายการในระบบ HD เป็นจำนวนที่มากที่สุดในไทยถึง 50 ช่อง นอกจากนี้ยังได้นำเสนอแพ็กเกจใหม่ที่หลากหลายและบริการเสริมที่น่าดึงดูดใจ อาทิ แคมเปญ “สุขx2” บริการอัลตร้า ไฮ-สปีด อินเทอร์เน็ต 12 Mbps. พร้อมรับชมช่องรายการต่างๆ จากทรูวิชั่นส์ถึง 78 ช่อง พร้อม 3 ช่อง HD ในราคาเพียง 699 บาท และทรูวิชั่นส์ เอนิแวร์ บริการโมบายเพย์ทีวีแบบใหม่ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ง่ายยิ่งขึ้น โดย ณ สิ้นปี 2556 ทรูวิชั่นส์มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นทั้งสิ้น 2.4 ล้านราย และมีรายได้จากค่าโฆษณาและค่าสปอนเซอร์ เป็นปัจจัยที่สร้างความเติบโตให้แก่รายได้ของทรูวิชั่นส์
“ปี 2557 นี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยและกลุ่มทรู อันเกิดจากการปรับเปลี่ยนสู่ระบบเสรีที่ชัดเจนเพิ่มมากขึ้น ภายหลังการออกใบอนุญาตต่าง ๆ ทั้งในด้านกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ของคณะกรรมการ กสทช. อีกทั้งความสำเร็จจากการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเป็นครั้งแรกของไทย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกัน ลดการลงทุนซ้ำซ้อน อันจะนำมาซึ่งการแข่งขันที่เป็นธรรมและการเติบโตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยในระยะยาว” นายศุภชัยกล่าวสรุป
|