- Details
- Category: การตลาด
- Published: Saturday, 10 October 2015 19:48
- Hits: 1715
พิษศก.ฉุดยอดขายวิสกี้ซึมจอห์นนี่วอล์กเกอร์ทุ่มส่งแคมเปญใหญ่'Joy Will Take You Further' กระตุ้น
ไทยโพสต์ : พร้อมพงษ์ 'จอห์นนี่ วอล์กเกอร์' เปิดตัวแคมเปญใหม่ 'Joy Will Take You Further' ใหญ่สุดในรอบ 15 ปี ส่วน ‘ดิอาจิโอ’ เมืองไทย ทุ่ม 200 ล้านบาท เดินหน้าสร้างการรับรู้ก่อนไฮซีซั่น ปลุกยอดขายช่วงปลายปี
นางชลรดี เลี่ยมตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสก็อตซ์วิสกี้ ภายใต้แบรนด์ ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ เปิดเผยว่า จากปัจจัยลบของสภาพเศรษฐกิจโลกและภายในประเทศไทยที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมตลาดวิสกี้ได้รับผลกระทบไม่แตกต่างไปจากอุตสาหกรรมส่วนอื่นแต่อย่างใด แต่คาดการณ์ว่าหากไม่มีสถานการณ์ที่เหนือความคาดหมายเกิดขึ้น มองว่าไตรมาสสุดท้ายของปี โดยเฉพาะปลายปีที่มีการสังสรรค์คาดการณ์ว่าตลาดจะมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น
สำหรับ แผนในการดำเนินธุรกิจในส่วนของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ นับตั้งแต่ตอนนี้ได้มีการต่อยอดแคมเปญจาก “Keep Walking” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมาทั่วโลกเป็นระยะเวลา 15 ปีแล้ว มาสู่การเปิดตัวแคมเปญระดับโลกอีกครั้งในชื่อ “Joy Will Take You Further” ถือเป็นโกลโบลแคมเปญขนาดใหญ่ในรอบ 15 ปี ที่จะทยอยเปิดตัวกันใน 50 ประเทศทั่วโลก และสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากกว่า 300 ล้านคนอีกด้วย
ด้านการทำตลาดเพื่อนำเสนอแคมเปญใหม่ดังกล่าวภายในประเทศไทย บริษัทได้วางงบประมาณไว้ราว 200 ล้านบาท เพื่อใช้ในการสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยบนสื่อทุกรูปแบบ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดวิสกี้ โดยเฉพาะในส่วนของการทำภาพยนตร์โฆษณา ที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญของการทำให้แคมเปญประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ครั้งนี้ยังได้นายพาที สารสิน ซีอีโอสายการบินนกแอร์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเป็นแอมบาสซาเดอร์ในแคมเปญนี้อีกด้วย บริษัทแม่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับประเทศไทย เนื่องจากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยถือว่ามียอดขายเป็นอันดับ 1 อีกด้วย
“เมื่อก่อนกลุ่มเป้าหมายของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ จะค่อนข้างมีอายุหน่อย แต่ตอนนี้เราอยากเข้าไปถึงลูกค้าในวัย 25-35 ปี ผ่านแคมเปญตัวใหม่ อยากจะสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภคในเรื่องความหมายของคำว่าประสบความสำเร็จที่ต้องมาพร้อมกับความสุขควบคู่กันไปด้วย โดยทางสำนักงานใหญ่ที่ลอนดอนได้เปิดตัวแคมเปญนี้ไปแล้ว ส่วนในไทยคิดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดี เกิดการสื่อสารปากต่อปากในกลุ่มผู้บริโภคอย่างรวดเร็วหลังจากบริษัทได้ทำการตลาดไปแล้ว” นางชลรดีกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมองว่าราคาการนำเข้าวิสกี้มาในประเทศไทยค่อนข้างอยู่ในระดับสูง แต่ก็ต้องการให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าของบริษัทได้ง่ายขึ้น จึงได้มีการปรับราคาขายของเรด เลเบิ้ล เหลือประมาณกว่า 500 บาท จากเดิมอยู่ที่ราว 700-800 บาท เพื่อรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ท่ามกลางสภาพของตลาดที่มีหลายแบรนด์เป็นทางเลือกของผู้บริโภคเช่นนี้
ปัจจุบันการนำเข้าวิสกี้เข้ามาในประเทศไทยคิดเป็นมูลค่า 4,300 ล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตในระดับทรงตัว โดยบริษัทคิดเป็น 60% ของมูลค่าในการนำเข้า ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ในจอห์นนี่ วอล์กเกอร์เป็นสินค้าหลักในการสร้างรายได้ให้กับบริษัท คิดเป็น 82% ของยอดขายรวม ส่วนใหญ่มาจากเรด เลเบิ้ล และแบล็ค เลเบิ้ล เป็นหลัก.