- Details
- Category: การตลาด
- Published: Saturday, 05 September 2015 18:18
- Hits: 6708
ข้าวแสนดี ยอดทรุดกำลังซื้อหดพาติดลบเล็งทุ่มขยายโรงงาน
ไทยโพสต์ * กำลังซื้อฉุดยอดขาย 'ข้าวแสนดี' โอดครึ่งปีติดลบ 2% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี เล็งทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาท เดินหน้าขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 20 ล้านถุงต่อปี เผยเตรียมเทกโอเวอร์ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ เร่งรุกขยายช่องทางจำหน่ายนอกห้าง พร้อมส่งสินค้าทดลองตลาดในจีน ดันยอดจบปีโตได้ 10%
นางสาวกรองทิพย์ ธนถาวรลาภ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ข้าวแสนดี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวถุงภายใต้แบรนด์ข้าวแสนดี เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี 2558 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินธุรกิจได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว เห็นได้จากลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการตามศูนย์การค้า แม้จะมีจำนวนมาก แต่ไม่มีการใช้เงินหรือค่อนข้างระมัดระวังการใช้จ่าย รวมถึงตลาดข้าวสารแบบตักยังมีอัตราการเติบโตที่ดีกว่าข้าวสารแบบบรรจุถุง เนื่องจากมีราคาถูกกว่า ส่งผลให้ภาพรวมของบริษัทครึ่งปีแรกมียอดขายติดลบ 2% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี
สำหรับ แนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทภายในระยะเวลา 3-5 ปีนับจากนี้ บริษัทเตรียมเงินลงทุนไว้กว่า 200 ล้านบาท ส่วนแรกจะใช้ในการขยายกำลังการผลิตให้โรงงานแห่งใหม่ บริเวณจังหวัดปทุมธานี บนพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ จำนวนเงิน 100 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตลาดทั้งภายในประเทศไทยและต่างประเทศ จากเดิมที่มีโรงงานผลิตสินค้าอยู่ด้วยกัน 2 แห่ง คือ นวนคร และพระราม 3 ที่สามารถผลิตข้าวสารบรรจุถุงได้ 10 ล้านถุงต่อปี ซึ่งหากสร้างโรงงานแห่งใหม่ได้ตามแผนที่วางไว้ จะส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านถุงต่อปี
ขณะที่งบประมาณอีกกว่า 100 ล้านบาทนั้น บริษัทมองว่าอาจใช้เพื่อการเข้าซื้อ กิจการธุรกิจบรรจุภัณฑ์ เนื่อง จากสามารถนำมาต่อยอดกับธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยผู้ ประกอบการดังกล่าวเป็นผู้ดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศไทย ตอนนี้บริษัทกำลังวางแผนในการที่จะเทกโอเวอร์อยู่ ในส่วนนี้จะส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทถูกลง พร้อมกับขยายไปในไลน์สินค้าอื่นที่บริษัทอื่นผลิตได้ ขณะเดียวกันยังมองว่าแนวโน้มของธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะมีอัตราการเติบโตที่ดีเป็นอย่างมากในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าที่จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายภายในห้างสรรพสินค้าและโมเดิร์นเทรดอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการขยายช่องทางออกไปนอกร้านค้าปลีกสมัยใหม่ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และยังมีโอกาส รวมถึงเปิดตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น จากปัจจุบันมีสินค้าจำหน่ายในฮ่องกง ออส เตรเลีย และยุโรป บริษัทมองว่าทางแถบยุโรปยังสามารถขยายได้อีก ขณะเดียวกันประเทศจีนก็มีความน่าสนใจและได้ส่งสินค้าเข้าไปทดลองตลาดแล้ว
อย่างไรก็ดี บริษัทยังเชื่อ มั่นว่าผลประกอบการในปี 2558 จะยังมีอัตราการเติบโตประ มาณ 10% จากปกติเฉลี่ยแล้วในแต่ละปีจะโตราว 5% ผลมาจากการขยายตลาดใหม่ในต่างประเทศ และช่องทางการจัดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้น