- Details
- Category: การตลาด
- Published: Saturday, 05 September 2015 08:15
- Hits: 8238
‘เอสเอฟเทคฯ’บุกไทยเต็มสูบ ชูนวัตกรรมออสเตรเลีย-ราคาจับต้องได้
แนวหน้า : นายรัฐนันทน์ เชนสิริเมธีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอฟเทค เทคโนโลยี จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านนวัตกรรมไฟส่องสว่างและพลังงานจากประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนรุกตลาดเมืองไทยอย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น หลังจากผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่เปิดตัวเข้าสู่ตลาด คือ แอร์สวิตช์ (Air Switch)สวิตช์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นนวัตกรรม Wireless Lighting Automation แบบพึ่งพาตนเอง ที่สามารถจำและตั้งค่าตำแหน่งไฟ รวมถึงปรับความสว่างเพื่อสร้างบรรยากาศตามความต้องการของผู้บริโภคแต่ละคนได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และโรงแรม ทำให้ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2558 มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่อีกกว่า 5 ผลิตภัณฑ์
สำหรับ ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเตรียมส่งเข้าสู่ตลาด อาทิ หลอดไฟแอลอีดี T8 ภายใต้แบรนด์ “ไพร่า” (Pyra), วีดีโอคอมมานด์ และแอร์สวิตช์รุ่นใหม่ที่ควบคุมการทำงานผ่านแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน เป็นต้น เพื่อเจาะตลาดทั้งที่เป็นกลุ่มโครงการเอกชนขนาดใหญ่ ตลาดค้าปลีก และภาครัฐ โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีจุดเด่นตรงที่เป็นนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นจากทีมงานของบริษัทในประเทศออสเตรเลีย และด้วยเหตุผลที่บริษัทเป็นเจ้าของทั้งเทคโนโลยี โรงงาน และเป็นผู้ทำตลาดเอง ทำให้ต้นทุนด้านราคาต่ำลง จนผู้บริโภคคนไทยสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมระดับโลกของบริษัทได้ง่ายขึ้น
ส่วนสาเหตุที่บริษัทรุกตลาดแอลอีดี แม้จะเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง เนื่องจากบริษัทเชื่อมั่นในนวัตกรรมของบริษัทว่าสามารถผลิตหลอดไฟแอลอีดีได้มาตรฐานสูง แต่ราคาคุ้มค่าคุ้มราคา ขณะเดียวกันหากพิจารณาจากศักยภาพการเติบโต และมูลค่าตลาดหลอดไฟแอลอีดี พบว่ามีความน่าสนใจมาก โดยจะเห็นได้จากอัตราการใช้แอลอีดีของคนไทยในปี 2558 เพิ่มสูงขึ้นถึง 45-50% เนื่องจากมีหน่วยงานภาครัฐร่วมรณรงค์และออกนโยบายให้ใช้ไฟที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้พลังงานอย่างสูงสุด นอกจากนี้ราคาหลอดแอลอีดียังลดต่ำลงค่อนข้างมาก ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่าย
โดยในการบุกตลาดครั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าภายในสิ้นปี 2558 จะมีอัตราการเติบโตมากกว่า 500% เมื่อเทียบกับปี 2557 แม้สภาพเศรษฐกิจในปี 2558 จะไม่ค่อยดีนัก แต่เชื่อว่าด้วยความเป็นผลิตภัณฑ์มาตรฐานสูง แต่วางจำหน่ายในราคาสมเหตุ
สมผล จะเป็นตัวผลักดันให้ผลิตภัณฑ์ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคและผู้ประกอบการ นอกจากนี้จากการที่บริษัทได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานใหม่ ด้วยการเพิ่มบุคลากรเข้ามาดูแลงานในตำแหน่งที่สำคัญๆ การได้พันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาเพิ่ม รวมถึงการเตรียมลงทุนตั้งโรงงาน น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
นายรัฐนันทน์ กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2559 ว่า บริษัทจะร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่ประเทศจีน นำเข้าผลิตภัณฑ์ไฟส่องสว่างเข้ามาทำตลาดอีกกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถครอบคลุมตลาดได้กว้างและหลากหลายมากขึ้น บริษัทเชื่อว่าหากแผนการดำเนินงานที่วางไว้ประสบความสำเร็จน่าจะทำให้บริษัทมีโอกาสเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ได้ภายใน 3 ปี