- Details
- Category: การตลาด
- Published: Tuesday, 01 September 2015 14:09
- Hits: 2079
มาม่า ยอดกระเตื้อง แต่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นโหมโปรโมชั่นกระตุ้น
ไทยโพสต์ : เพชรบุรี * 'สหพัฒน์'เผยภาพรวมยอดขายมาม่าปรับตัวดีขึ้น แม้สัญญาณกำลังซื้อผู้บริโภคยังไม่กลับมา เชื่อโปรโมชั่นจะช่วยปลุกตลาด คาดภาพรวมปี 2558 ยังโตตามเป้าที่ 5% หรือมูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท
นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มาม่า เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ยอดขายเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ แม้ว่าจะยังไม่เห็นสัญญาณของผู้บริโภคกลับมาก็ตาม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์มาม่าเย็นตา โฟต้มยำหม้อไฟที่มีอัตราการเติบโตถึง 40% ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีแรกโตได้ราว 3% ขณะที่ภาพรวมตลาดบะ หมี่กึ่งสำเร็จรูปเติบโตเพียง 1.1% เท่านั้น
สำหรับ กิจกรรมทางการตลาดที่จะเกิดขึ้น เพื่อเป็นส่วนช่วยผลักดันยอดขายนับจากนี้ บริษัทจะยังเดินตามแผนธุรกิจเดิมที่วางไว้ ภายใต้งบประมาณตลอดปี 200 ล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมาใช้ไปที่ราว 160 ล้านบาท บริษัทมองว่าการจัดทำโปรโมชั่นควบคู่ไปกับแคมเปญต่างๆ จะยังคงเป็นกลยุทธ์หลักที่สร้างยอดขายได้ดีอยู่ เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหลายรายทำโปรโมรชั่นในลักษณะต่างๆ ก็เป็นตัวที่ทำให้สามารถประคองยอดขายได้ดีอยู่
ขณะที่การทำตลาดในต่างประเทศ ตอนนี้ต้องยอมรับว่าสัดส่วนยอดขายยังอยู่ในระดับไม่มากนัก คงต้องใช้เวลาสักพักจึงจะเห็นความชัดเจนในส่วนนี้ โดยเมื่อปลายปี 2557 ได้เข้าไปจัดตั้ง บริษัท สหเวียดนาม จำกัด เพื่อจัดจำหน่ายสินค้าภาย ในเครือและนอกเครือที่เป็นแบรนด์ไทย บริษัทยังคงเน้นขยายตลาดในกลุ่มซีแอลเอ็มวีเป็นหลัก ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม เนื่องจากมีพฤติกรรมใกล้เคียงกับผู้บริโภคชาวไทย
นายเวทิต กล่าวว่า สภาพปัญหาเศรษฐกิจตอนนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งภาครัฐก็กำลังเร่งพยายามกระตุ้นกำลังซื้อในระดับล่าง ด้วยโครงการต่างๆ และมาตร การที่จะเกิดขึ้น พร้อมกับทำให้ผู้บริโภคในระดับบนที่มีกำลังซื้อดีอยู่แล้ว แต่ไม่มีอารมณ์ในการจับจ่ายให้กลับมาอีกด้วย ส่วนตัวค่อนข้างเชื่อมั่นในทีมเศรษฐกิจ ด้านปัจจัยเรื่องค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าลงนั้น มองว่าไม่ได้ส่งผลดีในทางตรงมากนัก เพราะหากเงินบาทอ่อนค่า แต่ยังไม่สามารถอยู่ในระดับที่แข่งขันต่อคู่แข่งต่างประเทศได้ ก็ไม่ได้เป็นผลดีต่อการส่งออก
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าหลังจากบริษัทดำเนินธุรกิจตามแผนที่วางไว้แล้ว บวกกับภาพรวมที่จะปรับตัวดีขึ้น มองว่าจะส่งผลให้บริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 5% หรือทำให้ภาพรวมทั้งบริษัทมียอดขายราว 3.2 หมื่นล้านบาท