- Details
- Category: การตลาด
- Published: Monday, 23 June 2014 23:40
- Hits: 3514
ตลาดสถาบันสอนภาษาโตอีซีซีรุกขยายสาขารองรับ
แนวหน้า : นางโซเนีย แกน กรรมการผู้จัดการ สถาบันภาษา อีซีซี (ECC School of Languages) เปิดเผยว่า จากการที่ในปี 2558 จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ได้ส่งผลให้ประชาชนมีการตื่นตัวในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรก 2557 กับช่วงเดียวกันของปี 2556 ตลาดสถาบันสอนภาษามีการเติบโตขึ้น 20% ซึ่งคาดการณ์ว่าหลังจากนี้จะมีประชาชนที่เรียนหรือพัฒนาทักษะด้านภาษาต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 432,000 คน ในปี 2555 เพิ่มเป็นประมาณ 746,000 คน ภายในปี 2558 หรือเติบโตเฉลี่ยประมาณ 20% ต่อปี
โดยปัจจุบันตลาดสถาบันสอนภาษามีมูลค่าประมาณ 9,007 ล้านบาท เพื่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีเพียง 6,044 ล้านบาท และในปี 2558 คาดว่าตลาดสถาบันสอนภาษาจะมีมูลค่าเพิ่มป็นประมาณ 11,023 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสถาบันภาษา อีซีซี จึงมีแผนที่จะขยายสาขาให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนให้มากขึ้น โดยวางเป้าหมายที่จะขยายสาขาเฉลี่ยประมาณ 3-5 สาขาต่อปี ครอบคลุมจำนวนประประชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมถึงในต่างจังหวัดด้วย ซึ่งในปี 2557 นี้ กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาทำเลที่เหมาะสม ทั้งในทำเลคอมมูนิตี้มอลล์ หรือศูนย์การค้าชุมชน ห้างสรรพสินค้า และตามแหล่งชุมชนต่างๆ คาดว่าแต่ละสาขาจะใช้พื้นที่ประมาณ 400 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนประมาณ 5 ล้านบาทต่อสาขา
นอกจากนี้ สถาบันภาษา อีซีซี ยังได้วางแผนการพัฒนาหลักสูตรเพิ่มเติม อาทิ หลักสูตรการสอนภาษาอังกฤษสำหรับคอมพิวเตอร์ และศิลปะ โดยจับกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุระหว่าง 2.5-16 ปี ทั้งนี้คาดว่าในปี 2557 นี้ผลประกอบการจะมีการเติบโตประมาณ 20% ตามตลาดสถาบันสอนภาษา ปัจจุบันสถาบันภาษา อีซีซี มี 41 สาขา แบ่งเป็น กรุงเทพฯและปริมณฑล 24 สาขา ต่างจังหวัด 16 สาขา เร็วๆนี้จะขยายสาขาในไต้หวันอีก 1 สาขา
ธุรกิจกวดวิชาส่อแววคึกคัก อีซีซีเดินหน้าขยายสาขา/แม็คจ่อรีแบรนด์สู้ศึกในรอบ 10 ปี
ไทยโพสต์ : ปทุมวัน * อีซีซีเดินหน้าขยายสถาบันสอนภาษาต่อเนื่อง หลังคาดการณ์แนวโน้มตลาดสดใส คาดมีนักเรียนเติบโตเพิ่มปีละ 10-20% แม็คพร้อมหวนคืนสถาบันกวดวิชา หลังชะลอทำตลาดมา 10 ปี เดินหน้าขยายธุรกิจ
นางโซเนีย แกน กรรมการผู้จัดการ สถาบันภาษาอีซีซี เปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยลบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของสถาบันภาษาอีซีซี ยังคงมีผู้เรียนสนใจเข้ามาเรียนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงภาพรวมของธุรกิจสถาบันสอนภาษาก็ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ปกครองยังพร้อมที่จะใช้จ่ายและให้ความสำคัญด้านการศึกษาแก่บุตรของตนเอง
ขณะที่ในปัจจุบันคนไทยให้ความสนใจเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น 20% ปัจจัยหลักมาจากการเปิดประชาคมอาเซียนส่งผลให้ประชาชนมีความต้องการเรียนภาษาอังกฤษกันมากขึ้น จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นจึงทำให้สถาบันอีซีซีได้เตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 3-4 สาขาในปีนี้ ภายใต้งบประมาณราว 5-6 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นการลงทุนเองมากกว่าการมีพาร์ตเนอร์เข้ามาร่วมธุรกิจ และจะขยายสาขาไปตามศูนย์การค้าเปิดใหม่ที่มีศักยภาพและเหมาะแก่การเปิดสถาบันสอนภาษา โดยปัจจุบันมีอยู่ 41 สาขา อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 24 สาขา แบ่งเป็นในห้าง 23 สาขา สแตนอโลน 1 สาขา ส่วนในต่างจังหวัดมี 16 สาขา และในต่างประเทศที่ไต้หวันอีก 1 สาขา
สำหรับ ตลาดในต่างประเทศที่ผ่านมาได้มีการเปิดสถาบันไปที่ไต้หวันมาเป็นระยะเวลา 2 ปี ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งในตอนนี้ก็มีหลายประเทศที่ติดต่อเข้ามาอยากที่จะนำสถาบันภาษาอีซีซีไปเปิดในต่างประเทศ อาทิ ลาว เวียดนาม และพม่า แต่อยู่ในระหว่างศึกษาและเจรจาถึงความเป็นไปได้ในการเข้าไปทำธุรกิจ และคาดว่าภายหลังจากขยายธุรกิจได้ตามแผนที่วางไว้แล้วจะมีผู้เข้ามาเรียนเพิ่มขึ้นราว 10-20% ต่อปี
ด้านนายคมพิชญ์ พนาสุภน ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท แม็ค เอ็ดดูเคชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทไม่ค่อยได้ทำการตลาดกับสถาบันกวดวิชาแม็คมากเท่าไหร่นัก แต่ในตอนนี้จะเริ่มทำการโฟกัสในธุรกิจนี้ให้มากขึ้น เนื่องจากเมื่อก่อนบริษัทเคยเป็นผู้นำมาก่อน โดยนับจากนี้คงต้องดำเนินการขยายสาขาให้มากขึ้น จากปัจจุบันมีอยู่ราว 30 สาขา รวมถึงยังต้องมีการรีแบรนด์ให้เข้ากับยุคสมัยให้มากขึ้นอีกด้วย
ขณะเดียวกัน ยังพร้อมที่จะขยายธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัวนิตยสารจัซ ที่เป็นนิตยสารแจกฟรี เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มวัยรุ่นระดับมัธยมปลายทั่วประเทศ อายุระหว่าง 15-18 ปี โดยจะมีการเผยแพร่ผ่านช่องทางโรงเรียนในกรุงเทพฯ 60% โรงเรียนต่างจังหวัด 35% และร้านอาหารอื่นๆ อีก 5% โดยรายได้หลักจากนิตยสารดังกล่าวจะมาจากการขายโฆษณาและการจัดกิจกรรมในสัดส่วน 50 : 50
"การขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในทุกปี ก็เพื่อเตรียมตัวเข้าตลาดฯ โดยในขณะนี้อยู่ในขั้นตอน ของการศึกษาและพิจารณาว่าจะนำบริษัทเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือจะเป็นในส่วนของตลาด MAI"นายคมพิชญ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้บริษัทก็ได้เตรียมขยายธุรกิจไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านหรือแถบอา เซียนด้วยเช่นกัน โดยที่ผ่านมามีหลายประเทศเข้ามาติดต่อให้ผลิตตำราเรียนหรือหนังสือเรียนอยู่หลายประเทศ.