- Details
- Category: การตลาด
- Published: Saturday, 04 July 2015 22:35
- Hits: 2506
โออิชิ จัดทริปตื่นตัวฯ กับดาราเลิฟซิก คาดรายได้โต 100%
โออิชิ ปล่อยหมัดเด็ด ทุ่มกว่า 30 ล้านบาท รุกตลาดอาหารพร้อมรับประทาน ผุดแคมเปญ'ทริปตื่นตัว ทัวร์ตื่นเต้น'กับ 3 นักแสดงเลิฟซิก (Love Sice The Series) กัปตัน, ไวท์, เงิน คาดทำยอดขายเพิ่ม 100 เปอร์เซ็นต์ จาก 3 สินค้าหลัก เกี๊ยวซ่า, แซนวิช และ เทรนดี้ โรล
คุณแซม - ไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำทีมแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญการตลาด "ทริปตื่นตัว ทัวร์ตื่นเต้น" ที่จะเป็นหมัดเด็ดคว้าใจผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งมีการทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท คว้า 3 นักแสดงชื่อดังจากเลิฟซิกเดอะซีรี่ส์ อย่าง กัปตัน - ชลธร คงยิ่งยง, ไวท์ - ณวัชร พุ่มโพธิ์งาม, และ เงิน - อนุภาษ เหลืองสดใส มาร่วมกิจกรรมตื่นตัวและตื่นเต้นไปกับผู้โชคดีถึงประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าแคมเปญนี้จะสามารถเพิ่มรายได้กลุ่มอาหารพร้อมรับประทานโตขึ้นอีก 100%
คุณแซม กล่าวว่า "ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดประมาณ 22,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโต 10-15% ต่อปี ขณะที่ตลาดรวมอาหารพร้อมรับประทานหรืออาร์ทีอี (Ready to Eat) มีมูลค่าตลาดประมาณ 10,000 ล้านบาท ในช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 15-20% ต่อปี ติดต่อกันมานานกว่า 3-4 ปี และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องอีกไม่ต่ำกว่า 5 ปี บริษัทฯ จึงมีแนวทางและนโยบายสำคัญที่จะรุกตลาดอาหารพร้อมรับประทานทั้งแช่เย็นและแช่แข็งแบบเต็มสูบ โดยกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน ภายใต้ตราสินค้า โออิชิ มี3 ตัวคือ โออิชิ เกี๊ยวซ่า (OISHI Gyoza), โออิชิ แซนวิช (OISHI Sandwich) และใหม่ล่าสุดกับ โออิชิ เทรนดี้ โรล (OISHI Trendy Roll) ซึ่งทั้งหมดวางจำหน่ายที่เซเว่นฯ เป็นหลัก ปัจจุบันมีกำลังการผลิตเพียงร้อยละ 30 คือเกี๊ยวซ่า 14 ล้านชิ้นต่อเดือน, แซนวิช 2.4 ล้านชิ้นต่อเดือน, เบเกอรี่ 4 ล้านชิ้นต่อเดือน, ตลอดจนวัตถุดิบและสินค้าที่ส่งให้กับร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ 1,579 ตันต่อเดือน อย่างไรก็ตามหากเดินเครื่องผลิต 100% คาดว่าจะสามารถผลิตอาหารได้มากกว่าปัจจุบันถึง 2 เท่าตัว
"พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้สร้างสรรค์ไม้เด็ดการตลาด จัดแคมเปญ โออิชิ ทริปตื่นตัว ทัวร์ตื่นเต้น ภายใต้แนวคิดที่ว่า กิน-เที่ยว ไม่ธรรมดา! สุขสันต์ หรรษา ฟินเป็นบ้ากับ กัปตัน – ไวท์ – เงิน ดึง 3 นักแสดงดาวรุ่งจาก LOVE SICK THE SERIES มามัดใจผู้บริโภคผ่านการสื่อสารการตลาดครบวงจร Above the Line / Below the Line และโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊กเพจ โออิชิ เรดดี้ มีล เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% หรือราว 160 ล้านบาท"
สำหรับการร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีเที่ยวญี่ปุ่นกับแคมเปญ โออิชิ "ทริปตื่นตัว ทัวร์ตื่นเต้น" ลูกค้าโออิชิสามารถ ส่ง SMS พิมพ์ OIS ตามด้วยรหัส 8 หลัก (ตัวอย่าง: OIS1234XXXX) มาที่ 4221234 (ครั้งละ 3 บาททุกเครือข่าย) โดยสินค้าที่เข้าร่วมรายการ ประกอบด้วย โออิชิ เกี๊ยวซ่า, โออิชิ แซนวิช, และโออิชิ เทรนดี้ โรล (เฉพาะซองที่มีรายละเอียดกิจกรรมเท่านั้น) ผู้โชคดี 10 รางวัล (รางวัลละ 2 นั่ง รวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท) จะได้บิน...ฟินกระจายไปกับทริปในฝัน ตื่นตากับการท่องเที่ยวไปสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ หมูบ้านนินจาอิงะ (Iga Ninja Museum), ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle), และ ปราสาทแฮรี่พอตเตอร์ (The Wizarding World of Harry Potter, Universal Studio) พร้อมกับ 3 หนุ่ม กัปตัน, ไวท์, เงิน เลิฟซิก สามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2558
ทั้งนี้ โออิชิ กรุ๊ป ใช้งบลงทุนและงบการตลาดต่อปี ประมาณ 600 ล้านบาท คาดไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปีนี้ โดยมีการปรับใช้แผนการตลาดต่างจากเดิม คือเน้นแผนการตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์ มากกว่าอะโบฟเดอะไลน์ ในสัดส่วน 30:70 และมีแผนจะส่งออกสินค้ากลุ่ม RTE ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กัมพูชา พม่า และเวียดนาม ภายในปีนี้ เบื้องต้นเน้นส่งออกผลิตภัณฑ์ โออิชิ เกี๊ยวซ่า (ไก่) เป็นหลัก ขณะที่ในส่วนของร้านอาหารทางโออิชิฯ มีแผนจะขยายสาขาไปยังประเทศลาว กัมพูชา รวมถึงสวิสเซอร์แลนด์ โดยเน้นเปิดร้านชาบูชิ เป็นสำคัญ ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเจรจา คาดว่าภายในปี 2020 จะมีการขยายสาขาไปยังต่างประเทศได้สำเร็จ 5 ประเทศ และขยายได้ถึง 400 สาขาในประเทศไทย
อินโฟเควสท์
‘โออิชิ’ทุ่มงบ 30 ล้าน รุกอาหารพร้อมทาน
แนวหน้า : นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยมีมูลค่าตลาดประมาณ 22,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยประมาณ 10-15% ต่อปี ขณะที่ตลาดรวมอาหารพร้อมรับประทาน หรืออาร์ทีอี (RTE : Ready to Eat) มีมูลค่าตลาดประมาณ 10,000 ล้านบาท ในช่องทางห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 15-20% ต่อปี ติดต่อกันมานานกว่า 3-4 ปี และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องอีกไม่ต่ำกว่า 5 ปี
ทั้งนี้ จากแนวโน้มดังกล่างบริษัทจึงมีนโยบายที่จะรุกตลาดอาร์ทีอีทั้งแช่เย็นและแช่แข็งแบบเต็มสูบ โดยกลุ่มอาหารดังกล่าวภายใต้แบรนด์'โออิชิ' ประกอบด้วย 1.โออิชิ เกี๊ยวซ่า (OISHI Gyoza) 2.โออิชิ แซนด์วิช (OISHI Sandwich) และ3.โออิชิ เทรนดี้ โรล (OISHI Trendy Roll) ซึ่งโออิชิ เทรนดี้ โรล เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่งวางตลาด ทั้งหมดวางจำหน่ายที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เป็นหลัก
โดยปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตเพียง 30% คือ เกี๊ยวซ่า 14 ล้านชิ้นต่อเดือน, แซนด์วิช 2.4 ล้านชิ้นต่อเดือน, เบเกอรี่ 4 ล้านชิ้นต่อเดือน, วัตถุดิบและสินค้าที่ส่งให้กับร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ 1,579 ตันต่อเดือน อย่างไรก็ตาม หากเดินเครื่องผลิตเต็ม 100% คาดว่าจะสามารถผลิตอาหารได้มากกว่าปัจจุบันถึง 2 เท่าตัว
นายไพศาล กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย บริษัทจึงได้ได้งบกว่า 30 ล้านบาท จัดแคมเปญ โออิชิ “ทริปตื่นตัว ทัวร์ตื่นเต้น” ภายใต้แนวคิดที่ว่า กิน-เที่ยว... ไม่ธรรมดา! สุขสันต์ หรรษา ฟินเป็นบ้ากับ “กัปตัน-ไวท์-เงิน” 3 นักแสดงจาก “LOVE SICK THE SERIES” ผ่านการสื่อสารการตลาดครบวงจร คาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะผลักดันให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% หรือประมาณ 160 ล้านบาท
กำลังซื้อซบโออิชิรายได้หลุดพลิกเกมเข็นชาบูชิบุกยุโรป
ไทยโพสต์ : ราชประสงค์ * 'โออิชิ' เปิดดีลกับนักธุรกิจโรงแรมและอาหารจากสวิตเซอร์แลนด์ เล็งส่ง "ชาบูชิ" เสิร์ฟยุโรป ขณะที่ผลประกอบการในเมืองไทย ครึ่งปีแรกต่ำกว่าแผน 15% เชื่อจบปีหวิดเป้า
นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ในระหว่างการเจรจานักธุรกิจจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและโรงแรม แม้ว่าขนาดจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่บริษัทมองว่าด้วยความเป็นโอเปอเรเตอร์มากกว่านักลงทุน จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ ที่จะนำร้านอาหารชาบูชิเข้าไปขยายธุรกิจ ซึ่งยังไม่สามารถบอกถึงรายละเอียดที่แน่ชัดถึงการเจรจาว่าจะได้ข้อสรุปเมื่อใด แต่ส่วนใหญ่การ ดีลจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี
ขณะที่บริษัทมีแผน การดำเนินธุรกิจของบริษัทภายในปี 2563 ต้องการจะผลักดันรายได้ในกลุ่มธุรกิจอาหารรวมขึ้นมาเป็น 1.4 หมื่นล้านบาท คาดการณ์ว่าจะต้องใช้เงินลงทุนรวมทั้ง การขยายสาขาและงบประ มาณการตลาดราว 3,000 ล้านบาท เฉลี่ยประมาณ 500-600 ล้านต่อปี ซึ่งก็จะส่งผลให้บริษัทมีร้านอาหารเปิดให้บริการจำนวน 400 สาขา พร้อมกับการขยายธุรกิจร้านอาหารไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งคาดว่าช่วงเวลานั้นจะมีไม่เกิน 5 ประเทศรวมกัน 10 สาขา เน้นซีแอลเอ็มวีเป็นหลัก
สำหรับ ภาพรวมผลประกอบการช่วงที่ผ่านมาต่ำกว่าเป้าหมาย 15% มองว่าช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2558 นี้ จะยังมีปัจจัยลบเข้ามาทำให้ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจอยู่ แต่เชื่อว่าไตรมาสสุดท้ายจะดีขึ้น บริษัทจึงต้องมีการทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้จึงได้จัดแคมเปญ 'ทริปตื่นตัว ทัวร์ตื่นเต้น' ระหว่างวันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย. นี้ภายใต้งบ 30 ล้านบาท เพื่อรุกตลาดอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยของสภาพเศรฐกิจโลกที่ได้ส่งผลกระทบมาถึงภาพรวมภายในประเทศไทย อาจทำให้รายได้รวมในกลุ่มธุรกิจอาหารของบริษัทปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ 8,000 ล้านบาท หรือโต 27% คาดการณ์ว่าอาจโตได้เพียง 10% จากปี 2557 ปิดรายได้ไปราวกว่า 6,000 ล้านบาท.