- Details
- Category: การตลาด
- Published: Tuesday, 02 June 2015 22:33
- Hits: 2378
โรซ่า ชู Sport Marketing หวังยอดขายโต 10%
แนวหน้า : นายสุวิทย์ วังพัฒนมงคล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “โรซ่า” เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดปลากระป๋องโดยรวมมีมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท คาดว่าปี 2558 นี้ตลาดรวมมีแนวโน้มการเติบโตได้ประมาณ 7% ดังนั้นในปี 2558 นี้บริษัทจึงตั้งเป้าหมายไว้ว่าโรซ่าจะเติบโตจากปี 2557 ไม่ต่ำกว่า 10%
โดยกลยุทธ์หลักคือ ขยายฐานผู้บริโภคให้มากขึ้น รุกตลาดต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น และเพื่อตอบโจทย์ทางการตลาดดังกล่าวนี้ จึงได้ทุ่มงบประมาณการตลาด 100 ล้านบาท ในการทำแคมเปญสื่อสารทางการตลาด “ปลากระป๋องโรซ่า เคล็ดลับจากแม่” และได้ดึง “อแมนด้า คาร์” นักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย มารับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสื่อสารแนวคิดปลากระป๋องโรซ่าคือ “อาหารที่แม่เลือกให้ลูก กินแล้วแข็งแรงแบบนักกีฬา” ผ่านการสื่อสารแบบครบวงจร ทั้งสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์, สื่อ ณ จุดขาย, มีเดียออนไลน์ และกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
“จากผลการสำรวจตลาดพบว่า ตลาดหลักของแบรนด์โรซ่า และปลากระป๋องโรซ่า เป็นตลาดเมือง คือ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัดในเขตเมือง เป็นหลัก ปลากระป๋องจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดในการขยายตลาดของแบรนด์โรซ่า เพราะปลากระป๋องถือเป็นหนึ่งในสินค้าบริโภคหลักของคนไทยที่สามารถเข้าถึงได้ในทุกครัวเรือน เป็นอาหารที่มีประโยชน์และราคาไม่แพง”นายสุวิทย์ กล่าว
ส่วนเหตุผลที่บริษัทเลือก อแมนด้าคาร์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น เนื่องจากอแมนด้าคาร์ เป็นนักกีฬาที่เป็นที่รู้จัก สามารถตอบโจทย์ทิศทางการทำการตลาดผ่านกีฬา (Sport Marketing) ของแบรนด์โรซ่า นอกจากนี้ตัวตนของอแมนด้าคาร์ ยังเป็นความผสมผสานระหว่างความเป็นคนอีสานและเป็นคนไทยที่เติบโตในต่างประเทศ จึงสามารถจะเข้าถึงคนได้ในวงกว้าง และเหมาะสมที่จะเป็นตัวแทนปลากระป๋องโรซ่าได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ โรซ่ายังมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ทั้งคุณภาพของวัตถุดิบ กระบวนการผลิต และคุณค่าทางโภชนาการ ดังนั้นตั้งแต่ปี 2556 โรซ่าจึงได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำอาหารพร้อมรับประทานของโรซ่าเข้าไปสนับสนุนให้นักกีฬาทีมชาติไทยมีอาหารเสริมหรืออาหารว่างเก็บไว้รับประทานในระหว่างการฝึกซ้อม และระหว่างการแข่งขันในต่างประเทศ
พิษเศรษฐกิจขาลง'โรซ่า'เพลย์เซฟปัดแตกไลน์ธุรกิจ
ไทยโพสต์ : เพลินจิต * 'โรซ่า'ชี้กำลังซื้อ คนไทยร่วง ฉุดอัตราการซื้อปลากระป๋องลดลง ส่งผลยอดขายไตรมาสแรกทรงตัว ทุ่ม 100 ล้านบาท ดึงนักปั่นทีมชาติเป็นพรีเซนเตอร์ หวังสร้าง แบรนด์ลูกค้าต่างจังหวัด จบปีขอยอดขายโตไม่ต่ำกว่า 10%
นายสุวิทย์ วังพัฒนมงคล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปลากระป๋อง ตราโรซ่า เปิดเผยว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ายังไม่มีการฟื้นตัวดีนัก เห็นได้จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว ทำให้อัตราการซื้อปลา กระป๋องต่อตะกร้าเดิมอยู่ที่ 2.5 กระป๋อง ลดลงเหลือประ มาณ 2.1 กระป๋องต่อตะกร้า ด้วยเหตุนี้ทำให้ยอดขายของผู้ประกอบการหายไป และส่วนของบริษัทมียอดขายทรงตัวในไตรมาสแรกของปีนี้
"ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่แบบทุกวันนี้ บริษัทจึงยังไม่มีแผนขยายกลุ่มสินค้าอื่นเข้ามาทำตลาด โดยจะเน้นดำเนินธุรกิจภายใต้สิ่งที่บริษัทมีความชำนาญ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าปลากระป๋อง ซอส และอาหารพร้อมทาน คงไม่แตกไลน์ไปยังธุรกิจอื่นแต่อย่างใด" นายสุวิทย์กล่าว
ในการนี้เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ให้มีความแข็ง แกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ของต่างจังหวัด ซึ่งบริษัทยังมียอดขายที่น้อยอยู่หากเทียบกับเบอร์หนึ่งของตลาด เนื่องจากภาพลักษณ์ของแบรนด์โรซ่าจะถูกเข้าใจในกลุ่มผู้บริโภคว่าเป็นแบรนด์อินเตอร์ แม้ว่าจะเป็นสินค้าที่เป็นของคนไทยก็ตาม บริษัทจึงจำเป็นต้องสื่อสารไปยังผู้บริโภคต่างจังหวัดให้มีความเข้าใจดียิ่งขึ้น
ล่าสุด บริษัทได้ใช้งบประ มาณการตลาดราว 100 ล้าน บาทในการทำแคมเปญ "ปลา กระป๋องโรซ่า เคล็ดลับจากแม่" เพื่อเดินหน้าทำสปอต มาร์เก็ตติ้งอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้ได้นำ "อแมนดา คาร์" นัก กีฬาจักรยานทีมชาติไทยมา เป็นพรีเซนเตอร์ ภายใต้แนว คิด "อาหารของแม่" มองว่าด้วยคุณลักษณะของตัวพรีเซนเตอร์มีความเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี และจะทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคต่างจังหวัดรับรู้ถึงแบรนด์โรซ่าได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่บริษัทมีความแข็งแรงอยู่ระดับหนึ่ง
นายสุวิทย์กล่าวว่า ในปี 2558 นี้ ตั้งเป้าว่าจะมียอด ขายเติบโตประมาณ 12-13% จากเมื่อปี 2557 มียอดขาย 3,500 ล้านบาท รวมในไทยและต่างประเทศ แต่ก็คงต้องติดตามสถานการณ์ของเศรษฐ กิจกันต่อไป โดยเฉพาะราคาพืชผลการเกษตรที่จะมีผลต่อกำลังซื้อ ซึ่งสินค้าปลากระป๋องก็ถือว่าจับกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อยอยู่แล้ว จึงอาจทำให้เป้าหมายอาจไม่เป็นไปตามแผน แต่จะพยายามรักษาระดับการเติบโตให้ไม่ต่ำกว่า 10% ด้วยกิจกรรมต่างๆ.
