- Details
- Category: การตลาด
- Published: Tuesday, 07 April 2015 18:12
- Hits: 2618
'ดอกบัวคู่'ทุ่ม 10 ล้าน ปรับโฉมสบู่บุกตลาดรับหน้าร้อน
ตลาดสบู่องศาเดือด'ดอกบัวคู่' เจ้าแห่งยาสีฟันสมุนไพรที่ครองแชมป์มากว่า 38 ปี ทุ่มตลาด 10 ล้าน ปรับโฉม'สบู่ดอกบัวคู่' รับหน้าร้อนระอุ ส่งสบู่สมุนไพร 4 สูตร เริ่มด้วย สบู่สมุนไพรเพื่อสุขภาพผิวสูตรดั้งเดิมที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่ให้ฟองมาก ใช้ได้กับทุกสภาพน้ำ เต็มไปด้วยประสิทธิภาพของสมุนไพรที่บรรจุอยู่ในก้อนสบู่ ทั้งชุมเห็ดเทศ ลดการสะสมแบคทีเรีย ลดกลิ่นกาย และน้ำมันมะพร้าว ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น ให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ติดกายตลอดวัน และสบู่สมุนไพรเพื่อสุขภาพผิวผสมอโลเวร่า และอโวคาโดออยล์ เพื่อให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น อย่างอ่อนโยน และสบู่สมุนไพรผสมเมล็ดธัญพืช เพื่อลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ ตบท้ายด้วยสบู่สมุนไพรขัดผิว สูตรดั้งเดิม สำหรับ เผยผิวเนียนสวย กระจ่างใส พร้อมจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายท้าลมร้อนริมหาดบางแสนกับงาน'DOK BUA KU FUN PARK ON THE BEACH'ตั้งเป้าอีก 2 ปีโกย 100 ล้าน พร้อมเตรียมขยายตลาดสู่ต่างประเทศอีกมากกว่า 12 ประเทศ
นายบัณฑิต ลีเลิศพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร แบรนด์ 'ดอกบัวคู่' เปิดเผยว่า บริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด ได้เริ่มกิจการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2520 ในรูปแบบของห้างขายยาสมุนไพรเล็กๆ ที่ผลิต และจัดจำหน่ายยา รักษาโรคต่างๆจากสมุนไพร และในเวลาต่อมาบริษัทฯ เริ่มทำการวิจัย ยาสีฟันที่ผลิตจากสมุนไพรในธรรมชาติของไทยขึ้นมา จนได้ยาสีฟันที่ทรงคุณค่าของสมุนไพรกว่า 10 ชนิด ดอกบัวคู่จึงเป็นผู้ผลิตยาสีฟันสมุนไพรแบรนด์แรกของไทย และด้วยคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด ผู้บริโภคใช้แล้วติดใจจนต้องบอกต่อ จนกลายเป็นที่รู้จัก และไว้วางใจของลูกค้า จนได้กลายเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรอันดับหนึ่งในประเทศ จนถึงทุกวันนี้
และเพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาด บริษัทจึงพัฒนาแชมพูสมุนไพร และสบู่สมุนไพร โดยสบู่สมุนไพรดอกบัวคู่ ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้รับความนิยมในภาคใต้เป็นภูมิภาคแรก เพราะปัญหาน้ำกร่อย ด้วยคุณสมบัติที่สามารถใช้ได้กับน้ำทุกประเภท แต่เมื่อใช้สบู่ดอกบัวคู่แล้วยังคงมีฟองมากตามที่ต้องการ ทำให้อาบน้ำได้สะอาดหมดจด พร้อมด้วยคุณสมบัติของชุมเห็ดเทศ ที่ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย รักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน และคุณสมบัติของน้ำมันมะพร้าว ที่ช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ป้องกันผิวแห้งแตก จึงทำให้เป็นที่ติดอกติดใจจนเกิดการบอกต่อ ซึ่งในปัจจุบันสบู่สมุนไพรดอกบัวคู่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในทุกภูมิภาค
โดยสบู่สมุนไพรดอกบัวคู่มีทั้งหมด 4 สูตร คือ สบู่สมุนไพรสูตรดั้งเดิม กล่องสีแดง ที่โดดเด่นเรื่องคุณสมบัติของสบู่ที่ให้ฟองมาก สามารถใช้ได้กับทุกสภาพน้ำ แม้แต่น้ำกร่อย จึงทำให้อาบน้ำได้อย่างสะอาดหมดจด และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพของสมุนไพรที่บรรจุอยู่ในก้อนสบู่ ทั้งชุมเห็ดเทศ ที่มีคุณสมบัติลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของปัญหากลิ่นกาย และน้ำมันมะพร้าว ที่ช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น พร้อมให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ติดกาย มั่นใจตลอดวัน
สูตรที่ 2 สบู่สมุนไพรสูตรอโลเวร่า และอโวคาโด ออยล์ กล่องสีเขียว ที่โดดเด่นเรื่องความนุ่มนวลของฟองสบู่ และช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น อย่างอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองต่อผิวที่บอบบาง ด้วยสรรพคุณของว่านหางจระเข้ และอโวคาโด ออยล์ ที่อุดมไปด้วยวิตามิน และ กรดไขมันที่จำเป็น ซึ่งเป็นอาหารผิว
สูตรที่ 3 สบู่สมุนไพรเพื่อสุขภาพผิว ผสมเมล็ดธัญพืช กล่องสีน้ำตาล ส่วนผสมสำคัญได้แก่ ข้าวบาร์เลย์,ไรย์,มอลต์,ข้าวโพด สำหรับสูตรนี้จะช่วยลดเลือนริ้วรอยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ สำหรับส่วนผสมของเมล็ดธัญพืชหลายชนิด เช่น ข้าวโพด ข้าวบาเลย์ ข้าวไรย์ มีโปรตีน และคิวเท็น ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยของผิว คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว กลิ่นหอมติดกาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน และสูตรที่ 4 สบู่สมุนไพรขัดผิว ซึ่งเป็นสบู่ขัดผิวที่มีส่วนผสมของเนื้อสมุนไพร ที่จะช่วยขัดผิวหมองคล้ำอย่างอ่อนโยน ให้ผิวกลับมาสวยกระจ่างใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ
นายบัณฑิต กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบัน “ดอกบัวคู่” มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าในประเทศอยู่ 3 ช่องทาง ได้แก่ Modern - Wholesales - Traditional Trade และในต่างประเทศ บริษัทได้ขยายตลาดไปยังประเทศ อเมริกา รัสเซีย ยูเครน เยอรมัน สวีเดน อิหร่าน จีน ไต้หวัน สิงค์โปร์ มาเลเซีย เวียดนาม พม่า ลาว กัมพูชา ฯลฯ โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับเครื่องหมาย ฮาลาล จากจุฬาราชมนตรีถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับความนิยมมากในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง รวมแล้วมากกว่า 12 ประเทศทั่วโลก
ปัจจุบัน'ดอกบัวคู่' มีสินค้าจำนวน 4 กลุ่ม ได้แก่ Oral Care (ยาสีฟัน, แปรงสีฟัน, น้ำยาบ้วนปาก) Hair Care (แชมพูสระผม, ครีมนวดผม, แฮร์โทนิค) Skin Care (สบู่สมุนไพรเพื่อสุขภาพผิว, ครีมอาบน้ำ) และกลุ่ม Food & Beverage (เครื่องดื่มรังนก ที่มีปริมาณรังนกมากกว่าแบรนด์ทั่วไปถึง 2 เท่า) ซึ่งภาพรวมยอดขายของบริษัทมีอัตราการเติบโตจากปี 2556 ประมาณ 5% มียอดขายประมาณ 1,100 ล้านบาท (ไม่รวมสินค้ากลุ่ม Food & beverage) โดยแบ่งเป็น กลุ่ม Oral Care 90% หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท กลุ่ม Skin Care 7% หรือประมาณ 75 ล้านบาท และ กลุ่ม Hair Care 3% หรือประมาณ 45 ล้านบาท โดยสินค้ากลุ่ม Skin Care มีอัตราการเติบโตถึง 10% เมื่อเทียบกับปี 2556
และในปี 2558 นี้ บริษัทตั้งงบการตลาดไว้ 100 ล้านบาท โดยจะแบ่งใช้งบในกลุ่มสบู่ 10 ล้านบาท โดยจะชูไปในเรื่อง การขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มผู้ใช้รายใหม่ ๆ รวมถึงการปรับรูปแบบ Packaging ให้ทันสมัยมากขึ้น และออกสินค้าใหม่เพื่อสร้างความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ โดยเน้นกลยุทธ์ Below The Line เข้าถึงผู้บริโภค อย่างกิจกรรม 'DOK BUA KU FUN PARK ON THE BEACH' กิจกรรมท้าลมร้อนบนชายหาดบางแสน กับเกมสนุกสุดมันส์นำทีมโดยดารานักแสดงชื่อดัง นำโดย หนูอิมอิม ก้าวมหัศจรรย์, กิ๊ฟท์ อรลีฬห์, บูม ปิยะพันธ์ ลูกแก้ว สมบัติเจริญ ร่วมสร้างสีสันความสนุก และให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ และทดลองใช้สบู่ดอกบัวคู่
“ตลาดสบู่สมุนไพรในปัจจุบันมีความคึกคักอย่างมาก และมีผู้เล่นรายใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาในตลาด ทำให้ตลาดนี้มีสีสันมากขึ้น มีการคิดค้นพัฒนาสูตรที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีสภาพผิวที่แตกต่างกัน โดยตลาดนี้ยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่มีการเปิดการค้าเสรี AEC จะเป็นโอกาสที่สบู่สมุนไพรของไทยจะขยายสู่ภูมิภาคอาเซียน และตลาดสบู่ในปัจจุบันมีมูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสบู่เหลว 5,000 ล้านบาท และสบู่ก้อน 5,000 ล้านบาท โดยตลาดสบู่ก้อนก็จะแบ่งเป็นตลาด สบู่เพื่อความสวยงาม 43% สบู่ฆ่าเชื่อ และสบู่เพื่อสุขภาพ 25% สบู่สมุนไพร 17% สบู่เด็ก 10% และสบู่สำหรับผู้ชายอีก 5% โดยตลาดสบู่สมุนไพรมีอัตราการเติบโตมากที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดสบู่ก้อนกลุ่ม อื่น ๆ โดยสบู่ดอกบัวคู่เอง ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2560 ไว้ที่ 100 ล้านบาท เติบโตจากปี 2557 ประมาณ 33%” นายบัณฑิต กล่าวปิดท้าย