- Details
- Category: การตลาด
- Published: Sunday, 05 April 2015 22:04
- Hits: 1795
เมเจอร์ ลุยขยายสาขาโรงหนัง หวังรายได้ปี’63 ทะยานสู่ 20,000 ล้าน
แนวหน้า : นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2558 นี้ บริษัทมีแผนที่จะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 1,500 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาโรงภาพยนตร์ให้ครบ 600 โรงภายในปี 2558 ซึ่งถือเป็นการขยายสาขามากที่สุดนับตั้งแต่เปิดให้บริการมากว่า 20 ปี ทั้งนี้เพื่อรองรับความต้องการชมภาพยนตร์ของผู้บริโภคในทุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มวัยทำงาน จนถึงกลุ่มผู้สูงอายุ อีกทั้งเป็นการขับเคลื่อนนโยบายภายใน 5 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2563 ที่บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 500 โรง แบ่งเป็น สาขาในประเทศ 400 โรง และสาขาในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์ และเวียดนาม) 100 โรง
ทั้งนี้ การขยายโรงภาพยนตร์ดังกล่าว เพื่อรองรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในปี 2558 ที่คาดว่าจะเติบโตในระดับ 10-15% จากปี 2557 โดยมองว่าตลาดในประเทศไทยยังมีการเติบโต เพราะในปี 2558 จะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์รอเข้าฉายจำนวนมาก อย่างไรก็ตามบริษัทวางแผนธุรกิจภายใน 5 ปีข้างหน้า จะมีรายได้แตะระดับ 20,000 ล้านบาท โดยจะมีโรงภาพยนตร์ครบ 1,000 โรง ทำรายได้ให้กับบริษัทในสัดส่วนประมาณ 40% หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจมีเดียจะมีสัดส่วนรายได้ 12% และธุรกิจโบว์ลิ่ง 8%
นายวิชา กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทได้เปิดโรงภาพยนตร์แห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “ควอเทียร์ ซีนีอาร์ต” (Quartier CineArt) ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ (The EmQuartier) สาขาดังกล่าวมีพื้นที่ 6,500 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท มีโรงภาพยนตร์ 8 โรง รวม 1,440 ที่นั่ง จับกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในระดับ B + ขึ้นไป
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าในปี 2558 นี้จะมีความชัดเจนในการเข้าไปร่วมลงทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อทำธุรกิจโรงภาพยนตร์ในประเทศลาว โดยสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 70-80% และอีก 20-30% เป็นของพันธมิตร ส่วนโรงภาพยนตร์ที่บริษัทเปิดที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ได้รับกระแสตอบรับดีมาก หลังจากเริ่มเปิดให้บริการในปี 2557 คาดว่ายอดขายตั๋วในปี 2558 นี้จะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านใบ
สำหรับ ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก 2558 บริษัทคาดว่าจะเติบโตได้ดี โดยดูจากช่วงไตรมาสแรกปี 2558 นี้ มีการเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปี 2557 ที่ผ่านมา ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2 ปี 2558 น่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี เพราะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์รอคิวเข้าฉายหลายเรื่อง เนื่องจากภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดมีการปรับเปลี่ยนลำดับการฉายมาเป็นช่วงไตรมาส 2 ปี 2558 จำนวนมาก อาทิ Fast and Furious 7, The Avengers 2 และ Jurassic Park เป็นต้น ขณะที่ภาพยนตร์ไทยที่โดดเด่น อาทิ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน อวสานหงสา เป็นต้น
นายวิชา กล่าวว่า บริษัทคาดการณ์รายได้ในปี 2558 เติบโต 15% และมีกำไรเติบโตในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากมีโรงภาพยนตร์เปิดใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่สาขาเดิมก็ทำรายได้เติบโต 3-4% โดยปัจจุบันบริษัทมีโรงภาพยนตร์ทั้งสิ้น 78 สาขา จำนวน 527 โรง เป็นสาขากรุงเทพฯและปริมณฑล 31 สาขา จำนวน 296 โรง และต่างจังหวัด 46 สาขา ใน 34 จังหวัด จำนวน 224 โรง ส่วนต่างประเทศมี 1 สาขา จำนวน 7 โรง ในประเทศกัมพูชา