- Details
- Category: การตลาด
- Published: Wednesday, 18 March 2015 22:20
- Hits: 3155
ซีพี รีเทลลิงค์ เปิดกลยุทธ์ปี 58 ตั้งเป้าเติบโต 3,300 ล้านบาท โครงการช่างสร้างอาชีพกว่า 600 คน รุก AEC เต็มสูบ
ซีพี รีเทลลิงค์ เดินหน้ารุกแผนธุรกิจสู่การเป็นผู้นำการให้บริการอุปกรณ์ด้านค้าปลีกและธุรกิจเครื่องดื่มกาแฟครบวงจร แถลงข่าวเปิดกลยุทธ์ปี 58 ตั้งเป้ายอดขายโต 15% พร้อมเตรียมเปิดโครงการ CSR โครงการใหม่กับโครงการ 'ช่างสร้างอาชีพ' กว่า 600 ตำแหน่งต่อปี เพื่อรองรับการเติบโตและการขายธุรกิจสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC อย่างเต็มที่
โดยนายนริศ ธรรมเกื้อกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด บริษัทในกลุ่มซีพี ออลล์ ผู้นำธุรกิจการจัดจำหน่ายและให้บริการอุปกรณ์ประกอบอาหารและเครื่องดื่มสำหรับภัตตาคาร, โรงแรม, ร้านสะดวกซื้อและอุปกรณ์เครื่องชงกาแฟ เปิดเผยว่า สำหรับ 3 ไตรมาสของปี 2557 นี้ ซีพี รีเทลลิงค์ มียอดการจำหน่ายสินค้าและให้บริการเป็นมูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท โตกว่า 7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นผลมาจากการมียอดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มกาแฟเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอัตราการบริโภคกาแฟของคนไทยเพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2557 นี้ บริษัทฯ คาดว่าจะมียอดการจำหน่ายสินค้าและให้บริการรวมกว่า 2,800 ล้านบาท
“ปี 2558 ที่จะถึงนี้ ซีพี รีเทลลิงค์ ตั้งเป้าการเติบโตของบริษัทรวมกว่า 3,300 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15% ด้วยการขยายสาขาของร้านกาแฟสร้างอาชีพเพื่อสังคมและชุมชน (CP Retailink Coffee) เพื่อรองรับความต้องการบริโภคกาแฟของคนไทยที่มากขึ้นและเพื่อสร้างอาชีพให้กับผู้ประกอบการรายย่อยพร้อมเดินหน้าจัดอบรมกาแฟสร้างอาชีพให้กับผู้สนใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งโดยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มีผู้ผ่านการอบรมไปแล้วรวมกว่า 5,000 คน พร้อมเสริมความเข้มแข็งด้วยกลยุทธ์การให้บริการหลังการขายและบริการแบบครบวงจรตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศด้วยศูนย์บริการกว่า 50 จุด ทีมช่างวิศวกรมากว่า 1,600 คน และรถบริการกว่า 700 คัน และเตรียมเพิ่มบุคลากรในปี 2558 กว่า 600 คน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ”
ด้วยการขยายธุรกิจเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC นายนริศกล่าวว่า“บริษัทมีนโยบายเพิ่มตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้มีการแต่งตั้งดีลเลอร์ไปแล้วในประเทศลาว กัมพูชา เมียนมาร์ และในอนาคตยังคงเดินหน้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านอีก 3 ประเทศได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เป็นต้น”
รองกรรการผู้จัดการซีพี รีเทลลิงค์ ทิ้งท้ายว่า จากความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจกาแฟนี้ ซีพี รีเทลลิงค์ได้ลงทุนเป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท ในการดำเนินธุรกิจโรงคั่วกาแฟเพื่อเป็นศูนย์กลางความรู้เรื่องการคั่วเมล็ดกาแฟ พร้อมทั้งผลิตและจำหน่ายเมล็ดกาแฟภายใต้แบรนด์ “ซีพี รีเทลลิงค์” สู่ผู้ซื้อเครื่องชงกาแฟและผู้แทนจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย
ซีพี รีเทลลิงค์ตั้งเป้าปี 58 ยอดขายโต 15% มาที่กว่า 3.4 พันลบ.
นายนริศ ธรรมเกื้อกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด บริษัทในกลุ่ม ซีพี ออลล์ (CPALL) เปิดเผยว่า ในปี 58 บริษัทตั้งเป้ายอดจำหน่ายสินค้าและให้บริการมูลค่ากว่า 3,400 ล้านบาท เติบโต 15%จากปี 57 ที่มีมูลค่ากว่า 2,900 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 10% จากปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ปีนี้มีกลยุทธ์การให้บริการหลังการขายและบริการแบบครบวงจรตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง ครอบคุมพื้นที่ทั่วประเทศด้วยศูนย์บริการกว่า 50 จุดเพื่อรองรับการบริการของลูกค้าในแต่ละ พื้นที่และเข้าซ่อมสินค้าได้อย่างรวดเร็วทันใจ ทีมช่างและวิศวกรที่มีความาสามารถหลากหลายมากกว่า 1,600 คน และรถบริการกว่า 700 คัน และเตรียมเพิ่มบุคคลากรในปีนี้กว่า 200 คนเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจช่วยให้เกิดการจ้างงานในประเทศ
นายนริศ กล่าวว่า ปีนี้จะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย แบบ"ออน กราวน์"(On Ground) โดยเพิ่มช่องทางการตลาดเครื่องชงกาแฟผ่านห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ผ่านช่องทางของ 24 Shopping ผู้นำด้านการจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางที่หลากหลายในกลุ่มซีพีออลล์ แบบ"ออน แอร์" (On Air) โดยจำหน่ายเครื่องชงกาแฟผ่านสื่อโทรทัศน์ และแบบ"ออนไลน์"(Online) ผ่านทาง www.7catalog.com และสื่อโซเชียลมีเดียอื่นๆ
โดยคาดว่า ยอดขายจากการเปิดช่องทางจำหน่ายกลุ่มใหม่ในปีนี้จะอยู่ที่ 25% จากปีที่แล้วที่ยังไม่มียอดขายจากช่องทางใหม่ดังกล่าว ขณะที่ยอดขายจากช่องทางจำหน่ายเดิมในปีนี้จะลดเหลือ 75% สำหรับช่องทางจำหน่ายกลุ่มใหม่ นอกเหนือจากการขายผ่านออนไลน์แล้ว ยังจะรุกตลาดเกิดใหม่ เช่น พม่า ,ลาว ,กัมพูชา เป็นต้น
"สถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ไม่กระทบกับบริษัทเรา เนื่องจากสินค้าที่เราขายเป็น real sector ที่ผู้ประกอบการซื้อไปเพื่อไปทำธุรกิจต่อ โดยปีนี้ถึงแม้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น แต่บริษัทตั้งเป้าโต 15% มาจากความเข้มแข็งด้านการให้บริการหลังการขายของบริษัทดีต่อเนื่อง ซึ่งปีที่ผ่านมาแม้เศรษฐกิจไม่ดีแต่ยอดขายก็ยังโตได้ 10%"นายนริศ กล่าว
นายนริศ คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้น่าจะเติบโตได้ 30% จาก 300 ล้านบาทในปีที่แล้ว โดยเป็นการเติบโตตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ปีนี้ตั้งงบลงทุน 200 ล้านบาท สำหรับการเปิดโรงคั่วกาแฟ 2 แห่ง ในย่านมหาชัย และบางนา บนพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร คาดว่าจะเปิดในไตรมาส 3/58 ซึ่งเมื่อโรงคั่วกาแฟทั้งสองแห่งแล้วเสร็จ จะทำให้มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 50 ตัน/เดือน
ขณะที่ล่าสุดได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้แทนจำหน่ายและดูแลผลิตภัณฑ์ของ บริษัท เฮนนี่ เพนนี คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องทอดและตู้รักษาความร้อนของผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารชั้นนำระดับโลกแต่เพียงผู้เดียวในไทย ได้ตั้งเป้ายอดขายปีแรกที่ระดับ 100 ล้านบาท โดยราคาตัวเครื่องอยู่ที่ 1 แสนบาท/เครื่อง โดยเบื้องต้นคาดจะจำหน่ายในไทยก่อน จากนั้นจะไปขยายไปยังประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) โดยคาดว่าสิ้นเดือนนี้จะมีการเซ็นสัญญากับมาเลเซียเพื่อจะนำเครื่องไปขายด้วย และมีแผนที่จะเข้าไปขายเครื่องทั้งในกัมพูชา พม่า และลาว ในระยะถัดไป
สำหรับ ส่วนยอดขายของซีพี รีเทลลิงค์ แบ่งเป็น อุปกรณ์เครื่องดื่ม เช่น เครื่องจ่ายกาแฟร้อน กาแฟเย็น ประมาณ 50% ,อุปกรณ์ด้านอาหาร 8% และส่วนที่เหลือเป็น อุปกรณ์เครื่องสร้างร้าน เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องปรับอากาศ กล้อง ขณะที่ในปีนี้ คาดว่ายอดขายอุปกรณ์ด้านอาหาร จะขยับเป็น 15% ขณะที่อุปกรณ์เครื่องดื่มก็จะเติบโตคู่กันไปด้วย และในปีนี้คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้อีก 1 บริษัทด้วย
นายนริศ กล่าวว่า สำหรับเงินลงทุนที่จะใช้สร้างโรงคั่วกาแฟนั้น จะมาจากกระแสเงินสดที่มีอยู่ และยังไม่มีความจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่มเติมโดยเฉพาะการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะยังมีเงินสดเหลือจำนวนมาก ขณะที่ในอนาคตยังมีแผนจะทำธุรกิจการให้บริการดูแลเครื่องปรับอากาศในคอนโดมิเนียมหรู ขนาดราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยปัจจุบันเริ่มทำตลาดแล้วในคอนโดมิเนียมของซีพี แลนด์ แต่ก็ยังมองหาคอนโดมิเนียมอื่นด้วย ซึ่งจะเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัทในอนาคต
อินโฟเควสท์