- Details
- Category: การตลาด
- Published: Monday, 16 March 2015 22:59
- Hits: 1854
ห่วงภาษี-เศรษฐกิจฉุดเม็ดเงิน'โฆษณา'อสังหาฯกร่อยตัดงบ
ไทยโพสต์ * สมาคมมีเดียฯ คาดมาตรการปรับภาษีอาจทุบกำลัง ซื้อผู้บริโภค เผยหากดีจีพีโตได้ 1% ฉุดภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาติดลบแน่ ขณะที่ผู้ประ กอบการอสังหาริมทรัพย์ยังไม่กล้าใช้งบ
นางวรรณี รัตนพล นายก สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) เปิดเผยว่า แนวคิดการปรับการจัดเก็บภาษีทางด้านต่างๆ ของทางภาครัฐ มองว่าหากรัฐบาลดำเนินการจัดเก็บภาษีด้วยอัตราใหม่จริง อาจจะส่งผลกระทบให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมโฆษณามีอัตราการขยายตัวที่ลดลง จากปัจจุบันก็มีปัจจัยลบทางด้านของเศรษฐกิจและกำลังซื้ออยู่แล้ว คาดการณ์ว่าการจัดเก็บภาษีที่จะปรับใหม่นั้น จะทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้เงินเพื่อซื้อสินค้ามากขึ้นไปอีก และก็จะส่งผลกระทบมายังการโฆษณาได้ด้วย
สำหรับ ภาพรวมของอุตสาหกรรมโฆษณาในปีนี้ มองว่าอาจสามารถมีอัตราการเติบ โตอยู่ที่ประมาณ 4-5% แต่หากมีปัจจัยที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และทำให้จีดีพีของเมืองไทยเติบโตได้เพียง 1% ก็อาจส่งผลให้อุตสาหกรรมโฆษณาเกิดการติดลบได้ โดยกลุ่มสินค้าที่ผู้ประกอบการยังคงใช้งบลดลงอย่างต่อเนื่อง และทำให้ไม่สามารถกลับขึ้นมาติดอันดับ 1 ใน 10 ได้ในขณะนี้ คือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่กลุ่มสินค้าที่พร้อมจะลดการใช้งบหากเศรษฐกิจไม่ดี คือ กลุ่มสินค้าลักชัวรี อาหารเสริม และค้าปลีก
อย่างไรก็ดี เมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ภาพรวมของอุตสาหกรรมเริ่มปรับตัวดีขึ้นบ้าง หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการใช้จ่ายผ่านสื่อรูปแบบทีวีดิจิตอล มองว่าผู้ประกอบการในธุรกิจควรมีการพัฒนาคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ที่ตรงกับความต้องการของผู้ชม ในขณะเดียวกันก็ควรรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายหลักของช่องที่ต้องการเข้าไปทำตลาดคือกลุ่ม ใด เพราะการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของช่องที่ชัดเจน ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการเลือกสินค้าเข้ามาโฆษณาในช่องนั้นๆ อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ MATT ได้จัดตั้งมีเดียรีเสิร์ชบิวโร (Media Research Bureau หรือ MRB) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสมาคมเพื่อเป็นหน่วยงานที่ควบ คุมดูแลและกำกับผลงานวิจัยสำหรับอุตสาหกรรมสื่อ ซึ่งล่า สุดมี 3 บริษัทวิจัยเอกชน ที่ยื่นความจำนงเข้ามาเพื่อรับงานดัง กล่าว ประกอบด้วย จีเอฟเค จากเยอรมนี, กันตาร์มีเดียจากอังกฤษ และวิดีโอรีเสิร์ชจากญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสามรายนี้จะต้องไปจัดทำรายละเอียดต่างๆ มา เช่นจำนวนครัวเรือนที่ใช้วิจัย มูลค่างานที่เสนอรูปแบบ ซึ่งหากใครได้งานวิจัยก็จะมีอายุสัญญานาน 5 ปี คาดว่าจะสรุปคัดเลือกได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้