- Details
- Category: การตลาด
- Published: Tuesday, 03 March 2015 00:30
- Hits: 1966
'สก๊อต' อัดงบ 500 ลบ.รวมดาวพรีเซ็นเตอร์ดึงมาริโอ้-เจมส์-พอร์ช และศรีริต้าช่วยกระตุ้นยอดโตเพิ่ม 17%
บ้านเมือง : สก๊อต มั่นใจเศรษฐกิจปี 58 โตต่อเนื่อง เดินหน้า อัดแคมเปญการตลาด ทุ่มงบ 500 ล้านบาท ดึงซูเปอร์สตาร์แถวหน้า มาริโอ้ เมาเร่อ, เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข, พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์, ศรีริต้า เจนเซ่น นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์ใหม่ หวังปลุกกระแสตลาดเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพคึกคักตลอดปี ตั้งเป้าสิ้นปีรายได้รวมเติบโตเพิ่ม 17%
นายสมโภช ชวาลเวชกุล กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในผู้นำตลาดเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ เปิดเผยว่า "เทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ทั้งนี้เห็นได้จากในช่วงปีที่ผ่านมามีผลิตภัณฑ์สำหรับ ช่วยดูแลสุขภาพเข้ามาทำตลาดเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งในปี 2557 "สก๊อต" สามารถปิดยอดขายรวมได้ที่ 3,700 ล้านบาท
โดยในปี 58 นี้ เราคาดการณ์ว่าทิศทางของตลาดเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพยังสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้มาจากสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่ดีขึ้น จึงสามารถช่วยเรียกความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับคืนมา จากปัจจัยบวกดังกล่าว และเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ บริษัทฯ ได้ ทุ่มงบ 500 ล้านบาท จัดแคมเปญและกิจกรรมทางการตลาดอย่างยิ่งใหญ่
พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยดึงพระเอก-นางเอกที่กำลังได้รับความนิยม และมีคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจนเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ในแต่ไลน์ ได้แก่ มาริโอ้ เมาเร่อ, เจมส์จิรายุ ตั้งศรีสุข, พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์ และ ศรีริต้า เจนเซ่น มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสก๊อต ซึ่งเหตุผลสำคัญที่เลือกทั้ง 4 คนนี้ เพราะทุกคนต่างเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่น อีกทั้งยังเป็นไอดอลของกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นด้านความสามารถและการดูแลตัวเองการดูแลสุขภาพ ทั้งนี้ในส่วนของผลิตภัณฑ์ "สก๊อต คิตซ์" ยังคงเป็น คุณลูกเกด เมทินี และน้องสกาย สำหรับ สก๊อต มีผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในตลาดทั้งหมด 4 กลุ่ม ดังนี้ 1.กลุ่มรังนกแท้ 2.กลุ่มซุปไก่สกัด 3.กลุ่มผลไม้สกัดเข้มข้น และ 4.กลุ่มคอลลาเจน
นายสมโภช กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่แล้ว เรายังเน้นการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ด้วยการใช้สื่อครอบคลุมแบบ 360 องศา ทั้ง Above the line, Below the line โดยเน้นสื่อทั้งโทรทัศน์, วิทยุ, สิ่งพิมพ์, อินเตอร์เน็ต ฯลฯ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจนและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตไว้ที่ 17% หรือประมาณ 4,300 ล้านบาท