- Details
- Category: การตลาด
- Published: Wednesday, 11 February 2015 18:07
- Hits: 2354
'ซีเกท'ปักหลักชูไทยเป็นฐาน อัดงบ 15,300 ล้านขยายโรงงานใหม่
ไทยโพสต์ : ราชประสงค์ * ซีเกทมั่นใจลงทุนไทยระยะยาวอัดงบกว่าหมื่นล้าน สร้างตึกใหม่เสริมทัพที่โคราช หวังเป็นฐานผลิตฮาร์ดไดรฟ์ใหญ่ที่สุดป้อนตลาดโลก คาดใช้เวลาสร้าง 5 ปี พร้อมใช้งานครบวงจร เผยตลอด 32 ปี เป็นมูลค่าส่งออกแล้วกว่า 1.8 ล้านล้านบาท
นายเจฟฟรีย์ ดี ไนการ์ด รองประธานอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการหัวอ่านและบันทึกข้อมูล บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทใช้เงินลงทุนจำนวน 1.53 หมื่นล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปี ในการสร้างอาคารใหม่เพิ่มเติมในโรง งานผลิตและวิจัยพัฒนาที่ จ.นคร ราชสีมา เพื่อเสริมกำลังการผลิตฮาร์ดไดรฟ์และใช้เป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดในโลกของซีเกท โดยงบลงทุนดังกล่าวแบ่งเป็นงบ ในการก่อสร้างอาคารและสิ่งอำ นวยความสะดวก จำนวน 4.6 พัน ล้านบาท และอีกจำนวน 1.07 หมื่น ล้านบาท ใช้เพื่อลงทุนด้านเครื่อง จักรกลและอุปกรณ์ต่างๆ
ทั้งนี้ อาคารใหม่จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น 49% จากเดิมมีพื้นที่การผลิต 160,060 ตา รางเมตร เป็น 237,856 ตารางเมตร คาดว่าอาคารใหม่จะสร้าง แล้วเสร็จภายในปี 2559 และเปิดใช้ได้อย่างครบวงจรในปี 2562 ซึ่งมองว่าหลังจากที่อาคารเสร็จ สิ้นจะมีการสร้างงานเพิ่มขึ้นใน พื้นที่ประมาณ 2,500 ตำแหน่ง สำหรับซีเกทมีโรงงานผลิตในไทย 2 แห่ง คือ ที่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา และที่ อ.เทพา รักษ์ จ.สมุทรปราการ ซึ่งปัจจุบันซีเกทมีพนักงานกว่า 16,000 คน
"การเติบโตของตลาดข้อ มูลนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วอย่างน่าประหลาดใจ ปัจจุบันเราต้องพึ่งพาและอาศัยข้อมูลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เกิดการผลักดันและพัฒนาวิทยาการด้านเทค โนโลยีอื่นๆ ตามมา อาทิ คลาวด์ เซอร์วิส แอพพลิเคชั่นบนโทร ศัพท์เคลื่อนที่ โอเพนซอร์ส คอมพิวติ้ง และโซเชียลมีเดียต่างๆ และด้วยระยะเวลามากกว่า 30 ปี ที่ซีเกทได้ดำเนินการลงทุนในประ เทศไทย โดยวางกลยุทธ์และตั้งฐานการผลิตเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของซีเกททั่วโลก โดยการสร้างอาคารใหม่เพิ่มเติมในโรงงานผลิตของเราที่โคราชครั้งนี้ จะช่วยให้ซีเกทสามารถ ตอบสนองความต้องการด้านการจัดเก็บข้อมูลที่สูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ" มร.เจฟฟรีย์ ดี ไนการ์ด กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ซีเกทลงทุนในประเทศไทยเป็นเวลา 32 ปี คิดเป็นมูลค่าการส่งออกประมาณ 1.78 ล้านล้านบาท โดยปี 2557 ที่ผ่านมา ได้ลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาในไทย 1.8 พันล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.1 แสนล้านบาท
"มั่นใจว่าการลงทุนระยะยาวให้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อป้อนตลาดโลกนั้น ก็เพราะคนไทยมีความสามารถทั้งในระดับบริหาร ระดับปฏิบัติการ รวมถึงไทยอยู่ในตำแหน่งภูมิประเทศที่เชื่อมโยงกับหลายประเทศในเอเชีย อีกทั้งต้น ทุนในไทยก็เป็นส่วนหนึ่งในการตัด สินใจลงทุน" นายเจฟฟรีย์กล่าว
ด้านนางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ที่ปรึกษาอาวุโสด้าน การลงทุนของสำนักงานคณะกรรม การส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI กล่าวว่า ที่ผ่านมาบีโอไอได้พิจารณา ส่งเสริมโครงการการลงทุนของซีเกทไปแล้วถึง 38 โครงการ โดยในช่วง 8 ปีหลังนี้ ซีเกทมีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นสูงถึง 5.56 หมื่นล้านบาท และทางบริษัทยังได้มีการลง ทุนด้านวิจัยและพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยไทยชั้นนำหลายแห่ง ตลอดจนถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่บุคลากรไทยควบคู่กันไปด้วย.