- Details
- Category: การตลาด
- Published: Friday, 22 September 2023 18:23
- Hits: 2219
'อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ' เปิดกลยุทธ์พานักธุรกิจไทยลุยตลาดต่างประเทศเต็มตัว พร้อมแผนเทรดโชว์ตลอด ปี 2567
บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดกลยุทธ์พานักธุรกิจไทยลุยตลาดต่างประเทศเต็มตัวพร้อมแผนเทรดโชว์ตลอดปี 2567 ขยายเครือข่ายทางการค้า การลงทุน พร้อมเผยยอดรวมปี 2566 ปิดยอดเกิน 1,000 ล้านบาท เผยภาพรวมธุรกิจอีเว้นท์ปีนี้เติบโตสูงขึ้นทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน บริษัท ครีเอทีฟ อีเว้นท์ อันดับ 7 ของโลก (จัดอันดับโดยนิตยสารสเปเชี่ยล อีเว้นท์ แม็กกาซีน ประเทศสหรัฐอเมริกา) กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ท้าท้ายของอินเด็กซ์ฯ
โดยภาพรวมตลอดปีเมื่อเทียบกับปีที่แล้วถือเป็นภาพรวมที่ดี เราได้สร้างสรรค์งานสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของงานอีเว้นท์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่เรามีความแข็งแกร่ง และเป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยผลประกอบการสุทธิไตรมาสที่ 2 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 คาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทฯ ปีนี้เติบโต 6% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 ผลประกอบการณ์ที่มีอัตราการเติบโตขึ้นเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งในปีนี้ผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่างทุบงบในการจัดกิจกรรมมากขึ้น
“ในด้านของกลุ่มธุรกิจ Own Creation ไลฟสไตล์ เทรดแฟร์ ในปีนี้อินเด็กซ์ฯ วางกลยุทธ์งานเทรดแฟร์ นำทัพนักธุรกิจไทยบุกตลาดเอเชีย ขยายเครือข่ายทางการค้า การลงทุนตลอดปี 2567 พร้อมไลน์อัพเทรดแฟร์ในปีหน้า อาทิ ประเทศ สิงคโปร์, เกาหลีใต้, กัมพูชา, อินโดนีเชีย และซาอุดีอาระเบีย เป็นการสร้างโอกาสและเจาะตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง สามารถขยายตลาดเพื่อเปิดการค้ากับประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมผู้ประกอบการ นักลงทุนด้านต่างๆ ที่ต้องการจะขยายและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น
โดยมีแนวคิดหลักคือ เพิ่มโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ขยายโอกาสทางการค้าการลงทุน หาคู่ค้าและพันธมิตรทางการค้า ขยายดิสทริบิวเตอร์ เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายและต้องการสินค้าไทยจำนวนมาก บริษัทฯ ได้ขยายตลาดไปยังประเทศอื่นที่น่าจับตามอง อาทิ ประเทศอินโดนีเชีย เสือเศรษฐกิจใหม่แห่งเอเซียน
ปัจจุบันรัฐบาลอินโดนีเชีย ยังได้มีการปรับยุทธศาสตร์ระยะยาว เพิ่มเม็ดเงินการลงทุนตั้งฐานการผลิตและยังได้พัฒนาส่วนต่างๆ มากมาย การจัดการภาคสาธารณะ โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเหล่านี้ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดของนักธุรกิจไทยไปยังประเทศอินโดนีเชียอีกด้วย และอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจคือ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นดินแดนแห่งโอกาสทอง และดาวรุ่งจากการลงทุนแห่งอนาคตมูลค่ามหาศาล
อีกทั้ง ยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูงภายใต้แผน Saudi Vision 2030 เป้าหมายการพัฒนาตามแผน Saudi Vision 2030 ลงทุนในภาคเศรษฐกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน 4 ล้านล้านดอลลาร์ โครงการก่อสร้าง 4,700 โครงการ เช่น โครงการที่อยู่อาศัย THE LINE สนามบิน KING SALMAN และสายการบิน RIYADH AIR ใน 7 ปีข้างหน้า ซาอุฯ จะเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญของนักธุรกิจที่ต้องการบุกตลาดที่มีกำลังซื้อสูง
ในปลายปีนี้มาร่วมสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศซาอุฯ ด้วยกันในงาน Thailand Mega Fair 2023 – The Kingdom of Saudi Arabia ในวันที่ 13-16 ธันวาคม 2566 ณ The Arena Riyadh กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ผนึกกำลังกับสภาหอการค้าไทยแห่งประเทศไทยในการจัดเทรดแฟร์นี้ ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและบริการของไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในซาอุฯ ที่ได้รวบรวมสินค้าและบริการนวัตกรรมจากประเทศไทยทุกด้าน
ไปสู่ใจกลางของกำลังซื้อที่ทรงพลังที่สุดในตะวันออกกลาง ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากบริษัทชั้นนำตบเท้าเข้าร่วมงาน อาทิ สยามพิวรรธน์ SCG International BDMS มาม่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สถาบันการบินพลเรือน โรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลเวชธานี โรงพยาบาลสุขุมวิท โรงพยาบาลเอเซีย พานาซี เมเดิคอล เซ็นเตอร์ วิทยาศรม ยาดมตราโป๊ยเซียน รีโว่เมด ซี แวลู แม่น้ำ กรุ๊ป ไฮคิว ข้าวตราหงษ์ทอง คาเฟ่อเมซอน ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ สตาร์แอร์ แอร์อามีน่า บิทไวส์ กรุ๊ป เข็มเหล็ก ซัมมิท ฟุตแวร์
และผู้ประกอบการชั้นน้ำด้านน้ำมันจากไม้กฤษณาหลากหลายบริษัท รีบจับจองโอกาสที่ดีที่สุดของปีเพื่อเพิ่มโอกาสใหม่ทางธุรกิจ โค้งสุดท้ายกับการออกงานแสดงสินค้าที่เป็นประตูสู่โอกาสทางการค้า เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย สามารถนำสินค้าและบริการขยายตลาดไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย อย่าพลาดโอกาสสำคัญนี้ สนใจจองพื้นที่โดยด่วนที่ คุณรัชฎาภรณ์ คงทน โทร. 089-564-2610 E-Mail. [email protected] https://thailandmegafair.com
นอกจากงานเทรดแฟร์แล้ว เรายังสร้างสรรค์โปรเจ็กต์พิเศษต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นกับงาน ‘กิโลรัน (KILORUN)’ มหกรรมงานวิ่งที่ไม่ได้วัดเป็นกิโลเมตรอย่างเดียว แต่วัดเป็นกิโลกรัม ชูไลฟ์สไตล์เก๋ วิ่ง เที่ยว กิน เน้นการพัฒนายกแหล่งท่องเที่ยวให้กลายเป็นไอคอนนิกดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีมาก ปีนี้ประเดิมจังหวัดแรก คือ จังหวัด ภูเก็ต และในเดือนธันวาคมนี้ จัดที่กรุงเทพมหานคร
สำหรับ ช่วงเดือนตุลาคม เราได้สร้างสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่บนดอยช้าง จังหวัดเชียงราย ในชื่อ Village of Wonder ดอยช้าง ไปรับลมหนาวบนดอยช้างกับวิวแบบพาโนรามาท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมเปิดนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2566 จนถึง 31 พฤษภาคม 2567 นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน กล่าว