- Details
- Category: การตลาด
- Published: Saturday, 03 May 2014 22:01
- Hits: 3985
ดาว คอฟฟี่’เดินแผนบุกต่างประเทศ ประเดิมตลาดเมืองไทย มั่นใจคว้ามาร์เก็ตแชร์ 2%
แนวหน้า : น.ส.บุนเฮือง ลิดดัง รองประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ดาวเฮือง ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีก, อสังหาริมทรัพย์, สินค้าอุปโภคบริโภค, โรงแรม,ผลไม้อบแห้ง, ชาและกาแฟ ใน สปป.ลาว เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทก่อสร้างโรงงานผลิตชาและกาแฟแบรนด์’ดาว คอฟฟี่’และ ‘ดาว ที’ได้เองเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา ดังนั้นในปี 2557 นี้ จึงได้วางแผนรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์สินค้าทั้งในสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม กัมพูชา ไทย และประเทศในแถบตะวันออกกลาง รวมกว่า 10 ประเทศ
โดยเริ่มเปิดตัวที่ไทยอย่างเป็นทางการก่อนเป็นประเทศแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เข้ามาทำตลาดตามชายแดนมาแล้วประมาณ 6 ปี ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับที่ดี มียอดขายเป็นจำนวนมาก จากการซื้อสินค้าผ่านดิวตี้ฟรี ซึ่งการรุกตลาดในไทยครั้งนี้ จะเป็นการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย คือนางยุวดี วรวัฒน์ ด้วยการตั้งบริษัทร่วมทุนคือ บริษัท ซำ บาย ดี จำกัด ในการนำสินค้าระดับพรีเมียม (ระดับบน)ในกลุ่มชาและกาแฟ ผลไม้อบแห้ง เป็นต้น มาทำตลาดในไทย ผ่านช่องทางการขายต่างๆ อาทิ ห้างค้าปลีก ศูนย์การค้าชุมชน (คอมมูนิตี้มอลล์) ร้านค้าปลีก เป็นต้น โดยนางยุวดี จะดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ถือหุ้นในสัดส่วน 25% ทั้งนี้การทำตลาดในไทยปี 2557 นี้จะใช้งบในการทำการตลาดประมาณ 80 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันตลาดในไทยจะมีคู่แข่งในธุรกิจกาแฟเป็นจำนวนมาก แต่บริษัทก็ไม่หวั่น เพราะการทำตลาดของบริษัทจะเน้นที่รสชาติ ซึ่งเป็นกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าแท้ๆ ไม่มีการผสมสายพันธุ์อื่น และในการทำตลาดก็จะเน้นในเรื่องของรสชาติมากกว่าเรื่องของราคา ดังนั้นบริษัทจึงคาดว่าภายในระยะเวลา 2 ปีนับจากนี้ จะสามารถมีส่วนแบ่งทางการตลาดในไทยได้ประมาณ 1-2%
“ที่ผ่านมาบริษัทจะส่งเมล็ดกาแฟไปผลิตและใส่บรรจุภัณฑ์ที่อินโดนีเซีย แต่เมื่อบริษัทมีโรงงานของตัวเอง ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองปากเซ บนพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ มีกำลังการผลิต1,000 กิโลกรัมต่อชั่วโมง หรือปีละไม่น้อยกว่า 2,000 ตัน ก็สามารถทำให้ลดต้นทุนการผลิตได้ประมาณ 50% และทำให้สามารถปรับราคาสินค้าลงมาได้กว่า 10% ส่งผลให้ร้านค้าจำหน่ายสินค้าได้ง่ายขึ้น เพราะในสปป.ลาวก็มีคู่แข่งในธุรกิจนี้เช่นกัน”น.ส.บุนเฮือง กล่าว
สำหรับ คู่แข่งธุรกิจกาแฟในท้องถิ่นมีเพียงแบรนด์เดียวคือ แบรนด์ “สีนก” แต่เป็นเพียงรายเล็ก โดยปัจจุบันดาว คอฟฟี่ มีส่วนแบ่งตลาดในสปป.ลาว 70% จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 5-10 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี อย่างไรก็ตาม บริษัทจะมีการรุกตลาด
ต่างประเทศอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยจะมีรายได้จากกาแฟในสัดส่วน 80% และดิวตี้ฟรี 20% โดยมีรายได้รวมจากทุกธุรกิจปีละประมาณกว่า 160 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
เอกชนรวมพลังกาแฟอาเซียนบุกตียุโรป
ไทยโพสต์ : ชิดลม * 'คอฟฟี่ดาว'เตรียมผนึกกำลังพันธมิตรอาเซียนจัดตั้งสมาคมฯ สู้ศึกตลาดยุโรป พร้อมรุกไทย
นางสาวบุญเฮือง ลิดดัง รองประธานกรรมการ บริษัท ดาวเฮือง จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีก, อสังหาฯ, ชาและ กาแฟ ใน สปป.ลาว เปิดเผยว่า ในอีก 2 เดือนข้างหน้าทาง ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟจาก 10 ประเทศในกลุ่มอาเซียน จะทำการรวมตัวกันเพื่อจดทะเบียนที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งการจดทะเบียนดังกล่าวก็เพื่อเป็นการจัดตั้งสมาคมกาแฟอาเซียนขึ้น โดยการรวมตัวกันของกลุ่มผู้ผลิตและจัดจำ หน่ายกาแฟในครั้งนี้ ก็เพื่อที่ จะแข่งขันกับประเทศทางยุโรป ได้ง่ายขึ้น ซึ่งกาแฟของอาเซียน ในบางประเทศมีคุณภาพที่ดีมากพอที่จะแข่งขันอยู่แล้ว แต่ต้องมีการเพิ่มศักยภาพให้มากขึ้น
ขณะที่การทำตลาดในประเทศไทยของบริษัทที่ผ่านมาได้มีการนำผลิตภัณฑ์ในกลุ่มกาแฟภายใต้แบรนด์ดาว คอฟฟี่ทั้งในรูปแบบทรีอินวันและกาแฟสำเร็จรูปมาจำ หน่ายในไทยแล้วประมาณ 5-6 ปี รวมถึงผลไม้อบแห้งที่ทำตลาดมา 2 ปี ขณะเดียวกันยังได้ลงทุนเปิดร้านกาแฟ "เดอะทีรูมบายดาวคอฟฟี่" ซึ่งทำให้ในปี 2556 บริษัทมีรายได้จาก ประเทศไทยอยู่ที่ 20 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
"นับจากนี้ บริษัทจะทำการขยายสาขาร้านกาแฟ 'เดอะทีรูมบายดาวคอฟฟี่'ให้ได้ปีละ 1 สาขา ด้วยงบการลง ทุน 10 ล้านบาทต่อสาขา รวม ถึงจะทำตลาดกาแฟกระป๋องในประเทศไทยเพิ่มเติม และใช้งบในการโฆษณาประชา สัมพันธ์ราว 80 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีรายได้จากประเทศไทยอยู่ที่ 40 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ" นางสาวบุญเฮืองกล่าว.