- Details
- Category: การตลาด
- Published: Thursday, 25 December 2014 07:54
- Hits: 3122
'เอพริล เบเกอรี่พายหมูแดง' เนื้อหอม ร่วมทุนสิงคโปร์บุกตลาดต่างประเทศ รับ AEC
บ้านเมือง : เอพริล เบเกอรี่ พายหมูแดงสัญชาติไทยเนื้อหอม ต่างชาติรุมจีบ เตรียมบุกต่างประเทศรับมือเออีซี ร่วมทุนสิงคโปร์เปิดแฟรนไชส์รายแรกในต่างประเทศ พร้อมแตกแบรนด์ใหม่ส่งออกเอเชีย ขณะที่ในประเทศมีแฟรนไชส์แล้วกว่า 40 ราย และเป้าหมายตั้งไว้ในปีนี้อยู่ที่ 100 รายทั่วประเทศ
น.ส.ณธนพร เอื้อวันทนาคูณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยไดมอนด์ฟูด จำกัด เจ้าของและผู้ผลิตขนมพายหมูแดงสัญชาติไทย เอพริล เบเกอรี่ (April's Bakery) เปิดเผยว่า ภายหลังจากประสบความสำเร็จในการทำตลาดพายหมูแดงสูตรฮ่องกงรายแรก ภายใต้ชื่อเอพริล เบเกอรี่ในประเทศไทย บริษัทฯ เตรียมแผนรุกตลาดอย่างจริงจังในประเทศอาเซียนในเร็วๆ นี้ ภายหลังจากที่เอพริล เบเกอรี่ได้ไปออกงานฟู้ดส์แฟร์ในสิงคโปร์เมื่อปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนจากต่างประเทศ อาทิ จีน อเมริกา ฮ่องกง เวียดนาม และสิงคโปร์ บริษัทจึงเตรียมขยายธุรกิจในต่างประเทศในปีหน้า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการเรื่องทดสอบคุณภาพสินค้า การจดทะเบียนตั้งบริษัทในต่างประเทศ และพัฒนาสินค้าเมนูต่างๆ
บริษัทเตรียมจัดตั้ง บริษัท จินชา ทีเฮ้าส์ จำกัด ในฮ่องกง เพื่อขยายธุรกิจที่ฮ่องกงและเตรียมออกงานฟู้ดส์แฟร์ในฮ่องกง เพื่อหาโอกาสในการทำธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันคาดว่าจะขยายธุรกิจผ่านแฟรนไชส์ในสิงคโปร์เป็นประเทศแรกในกลางปีหน้า สำหรับการขยายธุรกิจของ เอพริล เบเกอรี่ ในสิงคโปร์ และจะเปิดเป็นจุดขายตามออฟฟิศบิลดิ้ง เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อไปรับประทานที่บ้านได้ สำหรับค่ามาสเตอร์แฟรนไชส์ในต่างประเทศคาดว่าจะอยู่ที่ 10 ล้านบาท
สำหรับ ตลาดในประเทศไทย บริษัทยังมีแผนจะขยายสาขาของเอพริล เบเกอรี่เพิ่ม ปัจจุบันเอพริล เบเกอรี่มีสาขาทั้งสิ้น 56 แห่ง เป็นการขยายผ่านแฟรนไชส์ 50 แห่ง และลงทุนเอง 6 แห่ง ทั้งนี้ปัจจุบันยังมีผู้สนใจเป็นแฟรนไชส์ของเอพริล เบเกอรี่อีก 50 ราย ซึ่งบริษัทตั้งใจว่าจะขยายในต่างจังหวัดเป็นหลักเพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
"จนถึงวันนี้มั่นใจว่าแม้ขนมหน้าตาไม่สวยงาม แต่คุณภาพและรสชาติลูกค้าชอบ อย่างช่วงตรุษจีน ปีใหม่ผลิตแทบไม่ทัน ออร์เดอร์ครั้งละเป็นร้อยเป็นพันชิ้น เคยผลิตมากที่สุด 20,000 ชิ้นต่อวัน"
นอกจากนี้ ยังขาย 'พายหมูแดง'สูตรฮ่องกง เจ้าแรกของไทย ภายใต้แบรนด์ APRIL'S BAKERY (เอพริล เบเกอรี่) เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา และอาจพูดได้ว่า "ฟีดแบ็ก" ดีเกินคาด เพราะหลังจากประกาศขายแฟรนไชส์ใช้เวลาเพียง 6 เดือนเศษ ปรากฏมีผู้สนใจเข้าร่วมธุรกิจในฐานะแฟรนไชส์แล้ว กว่า 40 ราย และเป้าหมายตั้งไว้ในปีนี้อยู่ที่ 100 รายทั่วประเทศ
น.ส.ณธนพร กล่าวต่อว่า ในอดีตเป็นพนักงานต้อนรับของสายการบินต่างชาติและได้ออกมาทำธุรกิจส่วนตัว ด้วยความเป็นคนช่างทานและชอบทำอาหาร จึงขอทุนทางบ้านมาเปิดร้านกาแฟเล็กๆ อยู่คอมมูนิตี้มอลล์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และอาจเพราะไม่ศึกษาให้รอบด้านเสียก่อน เปิดได้ไม่ถึง 1 ปี ไม่มีกำไรเลย กิจการของตัวเองแห่งแรกจึงต้องปิดตัวลง
แต่ระหว่างปิดร้านดังกล่าวอยู่นั้น มีโอกาสได้ฝึกหัดทำเบเกอรี่อยู่หลายชนิด จึงตัดสินใจหันมาทำธุรกิจเบเกอรี่ของตัวเองอีกครั้ง พร้อมนำไปฝากขายที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านพระราม 3 ช่วงนั้นทำขนมสไตล์อิตาเลียน อย่างสแน็กผักโขม พิซซ่าโรลเบคอน ฯลฯ ออกมาใส่ตู้แช่ขายในห้าง แรกเริ่มผลตอบรับดีจนทางห้างบอกให้เพิ่มสาขา เลยต้องขยายการลงทุนด้วยการซื้อตู้แช่ใบละ 50,000 บาท นำไปวางตามห้างในเครือนับสิบแห่ง ปรากฏ "เจ๊ง" ไม่เป็นท่าภายในเวลาแค่เดือนเศษ
"ช่วงนั้นยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรออกมาขาย แต่ก่อนหน้ามีโอกาสเดินทางไปฮ่องกงบ่อย และมีเพื่อนๆ ชวนไปทาน "พายหมูแดง" เจ้าดัง และบอกให้ฟัง คนไทยที่ไปเที่ยวฮ่องกงเมื่อได้ทานแล้วต้องซื้อกลับมาเป็นของฝากกันแทบทุกราย เลยหิ้วกลับมาให้น้องสาวช่วยชิม ก่อนได้คำแนะนำ ทำไมไม่ทำของแบบนี้ออกมาขายบ้าง"
"ตอนนั้นบอกน้องสาวไป ดูแล้วไม่ใช่จะทำง่ายๆ เพราะแป้งมีหลายชั้น อีกอย่างตัวเองถนัดทำของหวานมากกว่าของคาว กระทั่งสถานการณ์ของร้านย่ำแย่สุดๆ เลยตัดสินใจลองทำดู เป็นการลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ไม่ได้ซื้อสูตรมาแต่อย่างใด"
หลังจากวางตลาดไม่นาน ยอดขายดีขึ้น มีลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ เมื่อผลประกอบการดีขึ้น จึงขยับขยายสาขาอีกครั้ง กระทั่งมีหน้าร้านขายเกือบ 10 แห่ง ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้มีคนสนใจมาเลียบเคียงขอซื้อแฟรนไชส์
บริษัทฯ ตั้งกฎไว้ว่าสำหรับค่าแฟรนไชส์ 500,000 บาท ผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ไปจะได้รับแบรนด์อิมเมจ และมีสิทธิ์สั่งซื้อขนมในราคาแฟรนไชส์ ส่วนตู้แช่ อุปกรณ์ต่างๆ ในการขาย ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องลงทุนเองทั้งหมด
นอกจากเอพริล เบเกอรี่แล้ว บริษัทยังผลิตสินค้าเป็นเค้กสับปะรดสูตรฮ่องกงแบรนด์ใหม่คือมณีออกสู่ตลาด คาดว่าจะส่งสินค้านี้ไปจำหน่ายตาม ซูเปอร์มาร์เกตในฮ่องกง จีนและไต้หวันในอนาคต ด้วยแผนธุรกิจดังกล่าวบริษัทคาดว่าจะทำให้ยอดขายเพิ่มเท่าตัวเป็น 300 ล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า
