- Details
- Category: การตลาด
- Published: Wednesday, 24 December 2014 21:05
- Hits: 2761
เจ.ไอ.บี. พร้อมปล่อยแฟรนไชส์ปูพรมต้นปี 58 ลุยรวด 3 ช่องทางขายปลีก-ขายส่ง-ออนไลน์
'สมยศ เชาวลิต'นายใหญ่ เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป ร่างแผนบุกธุรกิจไอทีปี 58 เตรียมปล่อยแฟรนไชส์ปูพรมหัวเมืองใหญ่ เพิ่มความแข็งแกร่งให้ตลาดภูมิภาค เผยไฟเขียวเป็นศูนย์ค้าส่งให้ร้านค้าในพื้นที่ และจุดเพิ่มความสะดวกให้นักช็อปออนไลน์ มั่นใจปี 58 เห็น เจ.ไอ.บี.แข็งแกร่งทุกช่องทางจำหน่าย
นายสมยศ เชาวลิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารร้านค้าปลีกสินค้าไอทีครบวงจรภายใต้ชื่อ เจ.ไอ.บี. (J.I.B.) กล่าวถึงนโยบายการขยายธุรกิจในปี 2558 ว่าพร้อมปล่อยแฟรนไชส์ร้านค้าปลีกสินค้าไอที เจ.ไอ.บี. (J.I.B.)ในตลาดส่วนภูมิภาคอย่างเต็มตัวเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นความชัดเจนได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/2558 เป็นต้นไป โดยจุดเด่นของแฟรนไชส์ร้าน เจ.ไอ.บี. (J.I.B.) จะเป็นร้านจำหน่ายสินค้าไอทีได้ครบวงจรทั้งค้าปลีก ขายส่งให้กับร้านค้าในพื้นที่ และเป็นจุดที่เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้แฟรนไชซี่ (Franchisee) สามารถให้บริการลูกค้าในพื้นที่ได้ครบทุกความต้องการ เนื่องจากบริษัทมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพสามารถรับออเดอร์และจัดส่งสินค้าให้กับทั้งร้านค้าและลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และตรงเวลา ซึ่งจะช่วยให้การขยายฐานธุรกิจเป็นไปอย่างคล่องตัว ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ
“ปี 58 จะเห็นร้านแฟรนไชส์ที่เราปล่อยออกสู่จังหวัดสำคัญทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคเหนือ เพราะระบบเราค่อนข้างสมบูรณ์แบบแล้ว โดยเฉพาะระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพสามารถกระจายสินค้าออกสู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศได้อย่างเที่ยงตรง แมนยำ และรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้เราขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องลงทุนสูงเหมือนในอดีต ในขณะเดียวกันเรายังได้ลูกค้าในพื้นที่ ที่เป็นฐานลูกค้าเดิมของแฟรนไชซี่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจะเป็นปีแรกที่จะเห็นรายได้จากร้านในส่วนภูมิภาคเติบโตอย่างชัดเจน” นายสมยศกล่าว
นอกจากนั้น บริษัทยังเดินหน้าเปิดร้าน เจ.ไอ.บี. (J.I.B.) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างใกล้ชิด โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่เป็นทำเลทอง หรือพื้นที่ที่มีศักยภาพเป็นหลัก ซึ่งในปี 2558 มีแผนจะเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่ที่มีศักยภาพเพิ่มอีกอย่างน้อย 10 สาขา หลังจากที่ในไตรมาสที่ 4/2557 ได้ขยายสาขาใหม่ถึง 7 สาขา คือ ร้านเจ.ไอ.บี. (J.I.B.) สาขาโรบินสันร้อยเอ็ด สาขาโรบินสันฉะเชิงเทรา สาขาโรบินสันสมุทรปราการ สาขา 3 เดอะมอลล์ บางแค สาขาศูนย์การค้า หัวหิน มาร์เก็ตวิลเลจ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สาขา โรบินสันมุกดาหาร และสาขาโรบินสันปราจีนบุรี ทำให้บริษัทมีสาขาคุณภาพทั้งการสร้างรายได้และการให้บริการหลังการขายจำนวน 130 สาขาทั่วประเทศในสิ้นปี 2557 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 140 สาขาในปี 2558
ส่วนร้านค้าปลีกคอมพิวเตอร์และสินค้าไอทีไลฟ์สไตล์ภายใต้ชื่อ Mine ที่เน้นจำหน่ายสินค้าไฮเอนด์(High end) ในแต่ละกลุ่ม เพื่อรองรับลูกค้าระดับมืออาชีพ อาทิ งานตัดต่อ งานออกแบบที่ต้องใช้เครื่องสเปกสูง รวมทั้งสินค้าในกลุ่มเกมมิ่งยอดนิยม และสินค้าพิเศษที่ไม่สามารถหาซื้อได้ในร้านขายคอมพิวเตอร์และไอทีทั่วไป รวมทั้งสินค้าในกลุ่มไอทีไลฟ์สไตล์เทคโนโลยีใหม่นั้น คาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างชัดเจนในปี 2558 หลังจากพบว่าร้าน Mine สาขาแรกที่เซ็นทรัลพระราม 2 ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
สำหรับ ช่องทางจำหน่ายผ่าน เว็ปไซต์ www.jib.co.th บริษัทยังเดินหน้าให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องหลังจากพบว่านักช็อปออนไลน์มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวยมากขึ้น โดยใช้จุดแข็งชื่อ เจ.ไอ.บี.ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างกว้างขวาง มีสินค้าให้เลือกมากกว่า 6,000 รายการ ด้วยการจัดส่งที่รวดเร็วเพียง 1 วัน และเน้นขายสินค้าที่มีคุณภาพ มีบริการหลังการขายรองรับอย่างสะดวกสบาย และประการสำคัญยังมีโปรโมชั่นพิเศษที่ลูกค้าหาไม่ได้ในการซื้อสินค้าจากหน้าร้านมามอบให้เป็นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ด้วย ซึ่งคาดว่าในปี 2558 ช่องทางนี้จะสามารถทำรายได้สูงถึงเดือนละ 100 ล้านบาท
“ในปี 2558 จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของ เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป อย่างชัดเจน ทั้งช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า และรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น รวมทั้งผู้บริโภคจะสามารถซื้อสินค้าผ่านช่องทางของ เจ.ไอ.บี.ได้อย่างสะดวกสบาย คุ้มค่า รวดเร็ว และมั่นใจได้ในคุณภาพของสินค้าทุกรายการ”กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย