- Details
- Category: การตลาด
- Published: Sunday, 01 June 2014 20:10
- Hits: 4482
เพิ่มศักยภาพธุรกิจด้วย bartercard เครื่องมือการตลาดที่คุณคาดไม่ถึง
แนวหน้า : กว่า 35,000 ธุรกิจทั่วโลก และกว่า 3,000 ธุรกิจในประเทศไทย คือเครื่องหมายการันตี คุณภาพเครื่องมือการตลาดสุดล้ำสมัย บาร์เทอร์คาร์ด (bartercard) คือหนึ่งในเครื่องมือที่นักธุรกิจระดับโลก ให้ความไว้วางใจ ให้เข้ามาช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี (SME) ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ เพื่อเพิ่มยอดขาย และลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจคนหนึ่ง ที่ต้องการเครื่องมือการตลาดรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งเอาไว้ บาร์เทอร์คาร์ดคือตัวเลือกที่คุ้มค่า เพราะเปรียบเสมือนมีแขนอีกข้างหนึ่ง เข้ามาเกื้อหนุนธุรกิจคุณ ให้ลอยอยู่เหนือหมู่เมฆ
เรวดี วัฏฏานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บาร์เทอร์คาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำเสนอวิธีการทำงานของบาร์เทอร์คาร์ดได้อย่างละเอียดยิบ ‘บาร์เทอร์คาร์ด’เปรียบเสมือนคนกลาง ที่ช่วยให้นักธุรกิจสามารถแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ และช่วยตอบโจทย์ลูกค้าทั้งสองด้าน คือ 1.เรื่องของการเพิ่มยอดขาย และ 2. เรื่องการลดค่าใช้จ่าย โดยนำวิธีการแบบโบร่ำโบราณ อย่างการนำหมูไปแลกไก่ ไก่มาแลกหมู มาเป็นแนวทาง โดยบาร์เทอร์คาร์ดได้นำเรื่องของเทคโนโลยี มาดัดแปลงให้ทำงานได้ง่ายขึ้น และเข้ากับยุคสมัยมากขึ้น
แล้วช่วยเพิ่มยอดขายอย่างไร?
ยกตัวอย่างเช่น คุณเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม มีห้องให้บริการ 100 ห้อง แน่นอนว่าคุณต้องมีทีมเซลล์ ทีมมาร์เก็ตติ้ง ทำการตลาดเพื่อขาย 100 ห้องให้หมด แต่ในสถานการณ์จริง มีความเป็นไปได้น้อยมาก ที่ทีมขายจะขายได้ตามเป้าในแต่ละวัน ฉะนั้นย่อมมีห้องว่างเหลือเป็นแน่ และมันคือช่องว่างทางธุรกิจ ที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับ
แต่หากคุณลองใช้บริการบาร์เทอร์คาร์ด ผลจะเป็นอย่างไรมาดูกัน สมมุติทีมขายสามารถขายได้เพียง 80 ห้อง จะเหลือห้องว่าง 20 ห้อง ในส่วนนี้ บาร์เทอร์การ์ดก็จะเข้ามาช่วยเติมเต็ม 20 ห้องที่เหลืออยู่ โดยการนำห้องว่างที่เหลือ ไปโปรโมทกับกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นฐานลูกค้าของบาร์เทอร์คาร์ดอยู่แล้ว จากนั้นบาร์เทอร์คาร์ดก็จะส่งลูกค้า ที่มีความต้องการในธุรกิจของคุณ เข้าไปเป็นลูกค้ารายใหม่
แล้วไหนละการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย?
เรวดี ยกตัวอย่างว่า หากบาร์เทอร์คาร์ดสามารถขายห้องให้คุณได้ 5 ห้อง ห้องละ 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 5,000 บาท และเงินจำนวนนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินเทรดบาท โดย 1 บาท เท่ากับ 1 เทรดบาท ทีนี้คุณก็มีเงิน 5,000 เทรดบาท อยู่ในบัญชีบาร์เทอร์คาร์ด เพื่อนำไปจับจ่ายใช้สอย
คราวนี้เมื่อธุรกิจของคุณมีความจำเป็น ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิ ค่าชุดยูนิฟอร์มพนักงาน ค่าตกแต่งอาคารสถานที่ ค่าทำความสะอาด เป็นต้น คุณก็สามารถใช้เงินเทรดบาท มาจับจ่ายซื้อสินค้าที่ต้องการ ผ่านกลุ่มลูกค้าของบาร์เทอร์คาร์ด โดยไม่ต้องใช้เงินสด ซึ่งเท่ากับว่าคุณนำห้อง 5 ห้องที่ว่างอยู่ มาแลกกับสิ่งที่คุณต้องการ
ทั้งหมด คือประโยชน์และหน้าที่ของ ‘บาร์เทอร์คาร์ด’ ที่ทำงานให้แก่ลูกค้า
‘เราเป็น business to business ร้อยเปอร์เซนต์ คนที่เราดูแลอยู่เป็นเจ้าของธุรกิจทั้งหมด ถามว่าในวันนี้ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจไม่นิ่ง ทุกคนพยายามรัดเข็มขัดตัวเอง พยายามดิ้นรนด้วยตัวเอง แต่ยังทำยอดขายไม่ได้ตามเป้า ยังประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ได้เท่าที่ควร วันนี้หากให้ ‘บาร์เทอร์คาร์ด’เป็นอีกเครื่องมือหนึ่ง ที่เข้ามาช่วยคุณทำยอดขาย และช่วยลดค่าใช้จ่ายให้คุณจะดีกว่าไหม’ เรวดี กล่าวย้ำ
หากถามว่า ธุรกิจเอสเอ็มอี (SME) ขนาดใดเหมาะกับบาร์เทอร์คาร์ด ต้องบอกว่าทุกขนาดสามารถใช้บริการได้ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นธุรกิจขนาดเล็กมากรายได้ต่อเดือนไม่ถึงแสนบาท อาจจะไม่เห็นผลตอบรับดีเท่าที่ควร
ธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ที่เหมาะกับบริการของเรา ควรเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตกลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น หากคุณเป็นพนักงานเงินเดือน ต้องการเปิดร้านอาหารไม่ใหญ่มาก ราว 30 ที่นั่ง เมื่อมีลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น คุณต้องการขยายร้านให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสำหรับขยายกิจการ ในระหว่างนี้หากคุณให้บาร์เทอร์คาร์ดเข้ามาช่วยดูแล จะทำให้คุณเบาแรง และไม่ต้องเสียเงินสด เหมือนคุณเอาข้าวผัดไปแลกกับสวน ไปแลกกับโต๊ะ และในขณะเดียวกันคุณก็ได้ลูกค้าเพิ่มอีกด้วย
อยากใช้บริการ ‘บาร์เทอร์คาร์ด’ต้องทำอย่างไร ?
เมื่อคุณต้องการใช้บริการ ‘บาร์เทอร์คาร์ด’ อันดับแรกให้แจ้งความประสงค์เข้ามาที่ช่องทางดังต่อไปนี้ 1.โทรมาที่เบอร์ 026-553-111 หรือ 2.ส่งรายละเอียดมาที่เว็บไซต์ www.bartercard.co.th
อันดับต่อมาเมื่อบาร์เทอร์คาร์ด ได้รับข้อมูลแล้ว ทีมที่ปรึกษาการค้าของบาร์เทอร์คาร์ด จะติดต่อกลับไปยังเจ้าของธุรกิจนั้นๆ เพื่อไปร่วมวิเคราะห์ว่า ธุรกิจของคุณต้องการอะไร หากสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ ก็จะเดินหน้าร่วมงานกันทันที ซึ่งการเข้าร่วมวิเคราะห์ของทีมที่ปรึกษาการค้า จะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ ลูกค้าจะต้องเสียค่าเข้าร่วมโครงการตามแพ็คเกจ ที่สามารถเลือกได้ตามต้องการ และเป็นการจ่ายเพียงครั้งเดียวตลอดชีพ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 10,000 บาทต้นไป ซึ่งผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ ขึ้นอยู่กับขนาดของแพ็คเกจที่เลือก
จากนี้ไป ‘คุณ’ ต้องย้อนกลับไปถามตัวเองแล้วว่า ต้องการให้ งธุรกิจของคุณมีลูกค้าเพิ่มขึ้นหรือไม่งและ‘คุณ’ต้องการ ‘ลดค่าใช้จ่ายหรือไม่’ ถ้าคำตอบคือ ‘ใช่’ ลองเปิดใจให้ ‘บาร์เทอร์คาร์ด’เข้ามาเติมเต็มช่องว่างในธุรกิจของคุณดู
