- Details
- Category: การตลาด
- Published: Wednesday, 10 December 2014 09:25
- Hits: 2588
ร้านอาหารไทยทรุดต่ำสุดใน 5 ปี กรุ๊ปทัวร์หดหันปรับขึ้นราคาแทน
ไทยโพสต์ *ส.ภัตตาคารไทย เผยภาพรวมร้านอาหารไทยแย่สุดในรอบ 5 ปี ด้านกรุ๊ปทัวร์หดไม่มาเมืองไทย ส่งผลร้านอาหารขนาดใหญ่ตามแหล่งท่องเที่ยวขาดทุนปิดกิจการ
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงต้นปี ภาพรวมร้านอาหารค่อนข้างได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองค่อนข้างมาก แต่ภายหลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นขึ้นมาในระดับหนึ่ง จึงทำให้ช่วงเดือน พ.ย. ธุรกิจร้านอาหารเริ่มมีการปรับตัวเป็นในทิศทางที่ดีขึ้น โดยการเบิกจ่ายของภาครัฐประกอบกับการลงทุนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้นักธุรกิจเกิดความหวังว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยจะดีขึ้นอีกด้วย คาดการณ์ว่าบรรยากาศของร้านอาหารช่วงปลายปีนี้ คงจะดีกว่าช่วงที่ผ่านมาอย่างแน่นอน กลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อก็จะเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด เกิดการเดินทางในประเทศกันมากขึ้น
"มูลค่าร้านอาหารในประ เทศไทยปีนี้ คงมีการปรับตัวเติบ โตบ้างแต่อยู่ในอัตราที่ไม่มาก แม้ว่าจะมีผลกระทบทางด้านต่างๆ แต่ค่าครองชีพมีการปรับตัวสูงขึ้น จากปัจจัยนี้จึงทำให้แม้ผู้ประกอบการจะจำหน่ายสินค้าได้น้อย แต่มูลค่าก็ไม่ได้ลดลงไป ขณะเดียวกันปกติแล้วร้านอาหารจะสามารถแบกรับปัจจัยลบต่างๆ ได้ไม่เกินระยะเวลา 2 เดือน แต่ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา ค่อนข้างมีระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 5-6 เดือน ทำให้ปีนี้ภาพรวมร้านอาหารแย่ที่สุดในรอบ 5 ปี" นางฐนิวรรณ กล่าว
ขณะที่กรณีเรื่องของการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่คือวันที่ 31 ธ.ค. และ 1 ม.ค.ของทุกปี และช่วงสงกรานต์คือวันที่ 13-15 เม.ย.ของทุกปี เชื่อว่าไม่กระทบกับผู้ประกอบการร้านอาหารและภัตตาคาร และยังคงเปิดให้บริการเป็นปกติ
สำหรับ ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่น้อยลงนั้น ต้องยอมรับว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งการที่เมืองไทยมีจำนวนของนักท่องเที่ยวเดินทางมาน้อยลงนั้น ทำให้ร้านอาหารตามแหล่งท่องเที่ยวไม่มีผู้เข้ามาใช้บริการ โดยเฉพาะร้านอาหารขนาดใหญ่ในบางจังหวัด อาทิ เกาะช้าง ต้องปิดกิจการไป เนื่องจากต้องอาศัยคนจำนวนมากจึงจะทำให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ แต่ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ได้หายไป
นางฐนิวรรณกล่าวว่า ผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็มีผู้เข้ามาใช้บริการภายในร้านลดลงเช่นกัน จึงต้องหากลยุทธ์เพื่อเพิ่มค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคอยู่ที่ 300 บาทต่อหัว โดยร้านอาหารบางรายอาจมีการเพิ่มเมนูใหม่ขึ้นมา จัดโปรโมชั่น หรือทำการปรับเปลี่ยนภาชนะที่ใส่อาหาร แม้กระทั่งร้านก๋วยเตี๋ยวก็มีการปรับเปลี่ยนภาชนะให้ดูดีขึ้น เพื่อเป็นหนทางหนึ่งในการปรับเปลี่ยนราคา เนื่องจากร้านอาหารมีค่าใช้จ่ายคงที่ ได้แก่ ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเช่า เป็นต้นทุนอยู่แล้ว จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการใช้จ่ายต่อหัวของลูกค้าแทน เพราะไม่สามารถเพิ่มจำนวนคนเข้ามาใช้บริการได้
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ ว่าในปี 2558 ภาพรวมของร้านอาหารในประเทศไทยจะต้องดีกว่าปีนี้อย่างแน่นอน การที่กระทรวงต่างๆ มีบุคคลเข้ามา คอยกำกับดูแล พร้อมทั้งพยา ยามผลักดันให้เกิดการเบิกจ่าย เกิดขึ้นนั้น ประกอบกับการที่จะ มีรัฐธรรมนูญก็จะเป็นปัจจัยที่ ช่วยทำให้เกิดความหวังและความเชื่อมั่นในภาคของเศรษฐ กิจอีกด้วย.