- Details
- Category: การตลาด
- Published: Monday, 21 November 2022 17:12
- Hits: 1794
เปิดแนวคิดผู้บริหารรุ่นที่ 2 ชลิต อินดัสทรีฯ ชูกลยุทธ์ เน้นคุณภาพ-เทคโนโลยีปรับปรุงประสิทธิภาพ
บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยางของไทย ภายใต้แบรนด์ “POP” อะไหล่ยานยนต์คุณภาพสูงมาตรฐานสากลจากฝีมือคนไทย ได้ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 30 ปี มีความเชี่ยวชาญในการผลิตและจำหน่ายอะไหล่ทดแทนและอะไหล่ยางสำหรับใช้ในรถยนต์ทุกชนิดแบบครบวงจร ทั้งชิ้นส่วนอะไหล่ประเภททดแทน หรือ REM (Replacement Equipment Manufacturers) ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่เพื่อการทดแทนชิ้นส่วนที่เสียหรือสึกหรอ รวมถึงตลาด OEM (Original Equipment Manufacturers) รับจ้างผลิตชิ้นส่วนเพื่อป้อนโรงงานรถยนต์โดยตรง มีผลิตภัณฑ์รองรับความต้องการของผู้ใช้งานมากกว่า 4,000 รายการ ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถกระบะ รถเพื่อการพาณิชย์ รถบรรทุก รถญี่ปุ่น รถยุโรป อาทิ ยางแท่นเครื่อง, ยางแท่นเกียร์, ยางกันกระแทก, ยางเพลากลาง, บู๊ชปีกนก และบูชโช๊คอัพล่าง เป็นต้น
ปัจจุบันบริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด อยู่ภายใต้การบริหารงานของ นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ทายาทรุ่นที่ 2 เปิดเผยว่า ชลิต อินดัสทรีฯ มีแนวทางชัดเจนในการศึกษาและวิจัยนวัตกรรมสู่ตลาดโดยใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากโรงงานบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทั้งในไทยและต่างประเทศ การันตีด้วยผลิตภัณฑ์ไทยคุณภาพที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T MARK) ระบบบริหารงานด้านคุณภาพสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (IATF 16949: 2016 Automotive Quality Management System Standard) การรับรองมาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพ (ISO9001) และใบรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว
“ผมเข้ามาสานต่อและบริหารงานต่อจากครอบครัว ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เราให้ความสำคัญกับหลักการบริหารงานให้ประสบผลสำเร็จ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสุด เพื่อตอบสนองความความพึงพอใจและความต้องการของลูกค้าได้ตรงตามเวลา ในราคาที่ยุติธรรม ด้วยบริการที่ดีและรวดเร็ว โดยเรามีพันธกิจ (Mission) คือ 1. พัฒนาความสามารถของบุคลากรทั้งความรู้-ทักษะ, เครื่องมือ-เทคนิคการผลิตเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และ 2. ตอบสนอง –ประสานงานกับลูกค้าอย่างรวดเร็ว” นายชวิศ กล่าว
นายชวิศ ยงเห็นเจริญ ยังได้เปิดเผยถึง กลยุทธ์ในการนำพาองค์กรสู่เป้าหมายความสำเร็จที่วางไว้ โดยมี 3 กลยุทธ์ใหญ่ๆ คือ ด้านคุณภาพ, ด้านเทคโนโลยีปรับปรุงประสิทธิภาพ และด้านเพิ่มยอดขาย นอกจากนี้ ในแต่ละกลยุทธ์หลักก็จะมีการประชุมกับผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนั้นๆ และกำหนดกลยุทธ์ย่อยต่อไปเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ และจึงทำ KPI เพื่อชี้วัดสำหรับการติดตามผลงานอย่างชัดเจน
“นอกจากนี้ เรายังได้เตรียมแผนรับมือในระยะยาว เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “POP” และสร้างความมั่นคง ยั่งยืนขององค์กรแบบองค์รวม โดยมีความมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรตามแผนที่วางไว้ 1. ยกระดับบุคลากรและพัฒนาฝีมือแรงงาน 2. สร้างนวัตกรรมความรู้เชิงทฤษฎีและปฏิบัติจัดตั้ง Training Centre ร่วมกับพันธมิตร 3. รับงาน OEM มากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ 4. ขยายการผลิตและผลิตชิ้นส่วนและวัตถุดิบขึ้นเอง
ด้วยกลยุทธ์และเป้าหมายที่ชัดเจนนี้ แม้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและทั่วโลกได้รับผลกระทบ รวมถึงบริษัทชลิต อินดัสทรีฯ ทำให้ยอดขายโดยรวมของบริษัทหยุดชะงักไปบ้าง แต่ด้วยการวางแผนตั้งรับและมองการณ์ไกลของผู้บริหาร รวมถึงความร่วมมือร่วมใจของพนักงาน ทำให้ชลิต อินดัสทรีฯ ผ่านวิกฤติมาได้อย่างดี อีกทั้งการที่บริษัทมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย จึงยังพอเห็นตัวเลขในการเติบโตในกลุ่มลูกค้าบางกลุ่มให้ชื่นใจได้ และมียอดขายรวมเติบโตสวนกระแส ถือเป็นอีกบริษัทฯที่น่าจับตามอง ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ www.chalitindustry.com
A11934