- Details
- Category: การตลาด
- Published: Tuesday, 30 August 2022 07:04
- Hits: 3793
SAPPE ผนึก WORKPOINT จัดตั้งบริษัท WOPE ลุยทำตลาดรูปแบบใหม่ Eatertainment ผ่านอาหารและเครื่องดื่มที่สร้างสรรค์ ต่อยอดความเชี่ยวชาญ ขยายฐานผู้บริโภค
บมจ.เซ็ปเป้ หรือ SAPPE จับมือกับ บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ หรือ WORK จัดตั้งบริษัท WOPE ผนึกศักยภาพเจ้าตลาดเครื่องดื่ม Functional Drink และผู้นำวงการสื่อข่าวสาร/บันเทิงเมืองไทย เตรียมลุยตลาดอาหารเครื่องดื่มรองรับเทรนด์คนรุ่นใหม่ หลังเปิดตัวลูกอมครูเพ็ญศรี ลูกอมเคี้ยวหนึบ 2 รสชาติ เมื่อปีที่แล้วประสบผลสำเร็จ เตรียมขยายไลน์สินค้าเพิ่ม และออกสินค้าใหม่ไตรมาส 4 ปีนี้ นับเป็น New Partner ที่มาเสริมทัพความแข็งแกร่งร่วมกับ Partners ที่มีอยู่แล้วทั่วโลกของ SAPPE พร้อมโชว์แนวทางการทำตลาดรูปแบบใหม่ ‘Eatertainment’ ส่งมอบความบันเทิงของเวิร์คพอยท์ผ่านสินค้านวัตกรรมจากเซ็ปเป้ ซึ่งเป็นการใช้ความเชี่ยวชาญของแต่ละฝ่ายมาต่อยอด และขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างยิ่งขึ้น
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้ บริษัท เซ็ปเป้ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SAPPE เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK โดยร่วมลงทุนในบริษัทร่วมทุนชื่อ บริษัท โวป จำกัด (WOPE Co.,Ltd.) เพื่อพัฒนา ผลิต ทำการตลาด และจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มผ่านนวัตกรรมและการสื่อสารที่โดนใจผู้บริโภค โดย Sappe Holding เข้าถือหุ้นใน WOPE เป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดภายในกิจการ ขณะที่ THB ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 40 คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 50 ล้านบาท
นายธนศักดิ์ หุ่นอารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK เปิดเผยว่า ความสำเร็จของลูกอมครูเพ็ญศรี ที่เราส่งชิมลางสู่ตลาดเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของเวิร์คพอยท์ที่นำจุดแข็งของ Character Asset ครูเพ็ญศรี จากซิทคอมเรื่อง “หกฉากครับจารย์” ที่ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 มาต่อยอดในธุรกิจไลน์ใหม่อย่างขนม ทำให้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อีกมากในตลาดอาหารและเครื่องดื่ม จึงร่วมลงทุนใน WOPE เพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ของทั้ง 2 องค์กรให้สนุกมากขึ้น โดยเรามีแผนออกสินค้าใหม่ตัวแรกของ WOPE ในไตรมาส 4 ปีนี้
“จุดแข็งของเวิร์คพอยท์ คือการมีรายการที่ดี มีช่องทางสื่อสารครอบคลุมในทุก Platform ทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ สามารถเข้าถึงคนทุกเพศทุกวัย ครอบคลุมทั่วประเทศ ในขณะที่ SAPPE มีความเชี่ยวชาญในการผลิตผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เป็นนวัตกรรมและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ด้วยศักยภาพของทั้ง 2 บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญที่ต่างกัน เชื่อว่าการจับมือกันในครั้งนี้จะสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจให้ผู้บริโภคได้มากกว่าเดิม”
นายอดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ รองประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร SAPPE กล่าวว่า การดำเนินงานภายใต้ WOPE จากนี้ SAPPE จะดูแลเรื่อง Innovation ของสินค้าตลอดทั้ง Supply Chain เพื่อให้ได้สินค้าที่แปลก แตกต่าง และส่งมอบให้ลูกค้าทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศ CLMV โดยในอนาคตอาจขยายไปในกลุ่มลูกค้าของ SAPPE ประเทศอื่นๆ หากผลิตภัณฑ์ใดสามารถตอบโจทย์ประเทศนั้นๆ ด้วย ในขณะที่เวิร์คพอยท์ ดูแลเรื่องการสื่อสารและการตลาด ให้ไปถึงกลุ่มลูกค้าและเพิ่มความน่าสนใจในผลิตภัณฑ์ผ่านเครื่องมือต่างๆ ที่เวิร์คพอยท์มี นับเป็นการต่อยอดความเชี่ยวชาญและเรียนรู้ซึ่งกันและกันไปด้วย
“เราพยายามเอา Asset ของเวิร์คพอยท์มาต่อยอด เช่น อะไรที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว อย่างครูเพ็ญศรี มาใช้สื่อสารตัวสินค้า หรือสินค้าอาจจะมีการใส่ Creativity ที่มาจากทางเวิร์คพอยท์เข้าไปด้วย รวมถึงการใช้นักแสดงในสังกัดเวิร์คพอยท์มาสร้างความสนุก สร้างสีสันให้กับสินค้า เพิ่มความบันเทิงให้กับกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เป็นการสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า ‘Eatertainment’ ให้ลูกค้าได้เสพความบันเทิงของเวิร์คพอยท์ ผ่านสินค้านวัตกรรมคุณภาพที่สร้างสรรค์โดยเซ็ปเป้”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE กล่าวเพิ่มเติมว่า “ภาพรวมตลาดอาหารเครื่องดื่มในประเทศในปีนี้ อาจยังไม่เติบโตอย่างที่เราคาดการณ์ แม้ว่าจะมีการผ่อนผันมาตรการการท่องเที่ยวแล้ว แต่คงมีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ ที่ส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่ลดลง การร่วมมือครั้งนี้ เป็นการเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่ๆ ที่มีความแตกต่างออกไปจากกลุ่มสินค้าเดิม ซึ่งจะช่วยสร้างความแปลกใหม่ให้แก่ตลาด และยังเป็นการขยาย Portfolio ของสินค้าในประเทศอีกด้วย โดยตั้งเป้ายอดขายปีหน้า (ปี 2566) ของการร่วมมือครั้งนี้ที่ 200 ล้านบาท จากกลุ่มลูกอมครูเพ็ญศรีที่มีการวางจำหน่ายแล้ว และกลุ่มสินค้าใหม่อีก 2 กลุ่มที่กำลังจะออกจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้า”
“การหา Business Partnership ที่มีศักยภาพ คือหนึ่งใน Innovation Strategy ที่เราดำเนินงานมาโดยตลอด และด้วยความแข็งแกร่งของ Business Partners คุณภาพที่เรามีอยู่ทั่วโลก แม้ในช่วงสถานการณ์ที่ท้าทายต่างๆ เรายังสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง การจับมือกับเวิร์คพอยท์ในครั้งนี้ จึงนับเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของ Partners ขึ้นมาอีกขั้น ทีมงาน SAPPE รู้สึกภูมิใจทุกครั้งเมื่อมี Business Partners ใหม่ๆ เข้ามาร่วมกันคิดสร้างสรรค์ผลงานเจ๋งๆ โดยเฉพาะครั้งนี้ เป็นทีมงานคนเก่ง ที่อยู่นอกวงการอาหารเครื่องดื่มที่เราชื่นชมไอเดียและความคิดสร้างสรรค์มาตลอดอยู่แล้วด้วย”นางสาวปิยจิต กล่าว