- Details
- Category: การตลาด
- Published: Wednesday, 22 December 2021 01:04
- Hits: 9484
Restaurant Brands International จับมือแอนท์กรุ๊ป
เร่งทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นสำหรับธุรกิจร้านอาหารทั่วเอเชีย-แปซิฟิก
พิธีลงนามความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง RBI และ Ant Group (ซ้าย: แองเจล เจา ประธานกลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศ แอนท์กรุ๊ป ขวา: เอเครม โอเซอร์ ประธานประจำภูมิภาค APAC ของ Restaurant Brands International)
Restaurant Brands International Inc. (“RBI”) หนึ่งในบริษัทที่ทำธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นเจ้าของแบรนด์ เช่น TIM HORTONS®, BURGER KING® และ POPEYES® ประกาศความร่วมมือระดับภูมิภาคกับแอนท์กรุ๊ป (Ant Group) โดยจะใช้ประโยชน์จากโซลูชั่นดิจิทัลของแอนท์กรุ๊ปเพื่อเร่งการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล หรือดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการดำเนินธุรกิจร้านอาหารทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการดำเนินงานของ RBI เพื่อสนับสนุนการทำงานของร้านอาหารแฟรนไชส์และการขยายธุรกิจในตลาดเอเชีย-แปซิฟิก
ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว แอนท์กรุ๊ปจะทำงานร่วมกับร้านอาหารแฟรนไชส์ของ RBI ในแต่ละประเทศ เพื่อติดตั้งการใช้งานโซลูชั่นดิจิทัล รวมถึงโซลูชั่นมินิโปรแกรมในรูปแบบของ Software-as-a-Service (SaaS) และ Alipay+ ซึ่งเป็นโซลูชั่นด้านการตลาดและการชำระเงินระหว่างประเทศที่ครอบคลุมทั่วโลก ความร่วมมือในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อมอบประสบการณ์หลากหลายช่องทาง (omni-channel) ที่ราบรื่นและสะดวกมากขึ้นสำหรับลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของร้านอาหาร
ด้วยโซลูชั่นมินิโปรแกรม SaaS แอนท์กรุ๊ปจะพัฒนามินิโปรแกรมสำหรับแต่ละแบรนด์ของ RBI ซึ่งได้แก่ Tim Hortons, Burger King และ Popeyes โดยมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสภาพตลาดของแต่ละประเทศ ภายใต้มินิโปรแกรมนี้ ร้านอาหารแฟรนไชส์ของ RBI ในแต่ละประเทศจะสามารถผนวกรวมการดำเนินงานทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ และช่วยให้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินงานได้อย่างละเอียดและเจาะลึกมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ลูกค้าของร้านอาหารจะสามารถเข้าถึงบริการเพิ่มเติมได้ เช่น เมนูและการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless) การสั่งอาหารทางออนไลน์แล้วไปรับที่ร้าน หรือการส่งถึงบ้าน ฟังก์ชั่นการสแกนและสั่งอาหารภายในร้าน เป็นต้น นอกจากนั้น มินิโปรแกรมยังผนวกรวมกับ Loyalty Program ที่มีอยู่ในแต่ละแบรนด์ของ RBI และนำเสนอฟีเจอร์ด้านการตลาดดิจิทัลเพิ่มเติม เช่น การแจกคูปองส่วนลดแบบดิจิทัล ฯลฯ
เพื่อช่วยให้ร้านอาหารของ RBI เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น มินิโปรแกรมดังกล่าวจะถูกบูรณาการเข้ากับแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ ในระดับประเทศและระดับภูมิภาค รวมถึงแพลตฟอร์มของ Chope ซึ่งเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพชั้นนำด้านเทคโนโลยี F&B ระดับภูมิภาค และบริการอีวอลเล็ทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นต้น
ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว RBI จะใช้ประโยชน์จากโซลูชั่น Alipay+ ของแอนท์กรุ๊ป เพื่อขยายทางเลือกในการชำระเงินสำหรับร้านอาหาร เว็บไซต์ แอพ และมินิโปรแกรมที่เกี่ยวข้อง ด้วยการผนวกรวมโซลูชั่นต่างๆ ของ Alipay+ การดำเนินงานของ RBI จะรองรับการชำระเงินต่างๆ เช่น ทรูมันนี่ วอลเล็ท (True Money Wallet) ในไทย, Touch ’n Go eWallet ในมาเลเซีย, GCash ในฟิลิปปินส์, Kakao Pay ในเกาหลีใต้ และอื่นๆ อีกมากมาย
เอเครม โอเซอร์ ประธานประจำภูมิภาค APAC ของ Restaurant Brands International กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ประกาศการเป็นพันธมิตรครั้งสำคัญกับแอนท์กรุ๊ป ซึ่งจะช่วยสนับสนุนภารกิจของเราเพื่อเพิ่มความสะดวกกับลูกค้าในการสั่งและรับประทานอาหารที่ง่ายขึ้น รวมถึงการชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ ที่สะดวก และตรงความต้องการของลูกค้า ผู้ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ในเอเชียจะได้รับประโยชน์จากการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานสู่ดิจิทัล และการรวมมินิโปรแกรมเข้ากับแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ เช่นกัน”
แองเจล เจา ประธานกลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศของแอนท์กรุ๊ป กล่าวว่า “การนำระบบการชำระเงินดิจิทัลและนวัตกรรมทางการตลาดมาใช้เป็นเรื่องสำคัญต่ออุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อให้บริการแบบไร้การสัมผัส (Contactless) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเพื่อให้แบรนด์สามารถปรับตัวได้เท่าทันต่อตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ แอนท์กรุ๊ปมุ่งมั่นในการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจ RBI ต่อการมุ่งสู่เส้นทางดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่น เพื่อนำเสนอประสบการณ์แก่ลูกค้าในรูปแบบใหม่ เชื่อมต่อลูกค้ากับแบรนด์ในเครือ RBI ทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับให้แก่ลูกค้า”
การปรับใช้โซลูชั่นดังกล่าวจะครอบคลุม 8 ตลาดในเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งประกอบด้วยร้านอาหาร 1,500 สาขาภายใต้ 3 แบรนด์หลักของ RBI
A12668