- Details
- Category: การตลาด
- Published: Friday, 23 May 2014 21:53
- Hits: 3810
CTH อกหักรายได้พรีเมียร์ลีกพลาด
ไทยโพสต์ : สุขุมวิท * ซีทีเอชปรับแผนเร่งควานหาพันธมิตรทำธุรกิจ หลังอกหักรายได้จากพรีเมียร์ลีก ล่า สุดจับมือ ซี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จากประเทศอินเดีย ส่งช่องซีหนังเอาใจคอหนัง พร้อมดันฐานลูกค้าปีนี้เป็น 2 ล้านราย ลั่นมั่นใจปีนี้ปิดยอดได้กำไรแน่นอน
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางซีทีเอชมีแผนที่จะบุกตลาดผ่านแพลตฟอร์มหลายอย่างด้วยกัน โดยในขณะนี้ตลาดมีความหลากหลายทั้งในเรื่องของเพศและอาชีพต่างๆ มากมาย การดำเนินธุรกิจด้วยการหาแพลตฟอร์มที่มีความแตก ต่างจากที่มีอยู่จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบ คลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งในตอนนี้ซีที เอชมีทั้งคอนเทนต์ที่เป็นกีฬา สารคดี และบันเทิง โดยเฉพาะช่องทางรายการประเภทภาพ ยนตร์ ได้แก่ ช่องฟ็อกซ์ มูฟวี่ พรีเมียม, ฟ็อกซ์ มูฟวี่ เป็นต้น
ล่าสุด ได้ทำการจับมือกับ บริษัท ซี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ซึ่งบริษัทดัง กล่าวเป็นผู้ดำเนินธุรกิจอุตสาห กรรมหนังรายใหญ่จากประเทศอินเดีย ด้วยการเปิดช่องใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อ ช่องซีหนัง (Zee Nung) โดยการจับมือเป็นพันธ มิตรทางธุรกิจในครั้งนี้นับเป็นโมเดลใหม่ของซีทีเอชที่เป็นการร่วมทุนกันในช่องแล้วแบ่งผล ประกอบการ จากเดิมที่จะเป็น การเน้นซื้อคอนเทนต์ อาทิ การ แข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2012/2013 และผลการดำเนินงานไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
โดยในเบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะแบ่งรายได้อยู่ในระดับ 50 : 50 ซึ่งในตอนนี้ได้มีการออก อากาศภาพยนตร์ให้ได้รับชมฟรีอยู่ และจะสามารถอกอากาศจริงได้ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ โดยลูกค้าของซีทีเอชสามารถรับชมภาพยนตร์ช่องดังกล่าวในทุกระบบและทุกแพ็กเกจของบริษัท และคาดการณ์ว่าจะทำการวางแผนจัดทำแพ็กเกจใหม่ในภายหลัง
สำหรับการออกอากาศทาง ช่องดังกล่าวจะออกอากาศ 24 ชั่วโมง โดยจะมีภาพยนตร์ฉาย ตลอดทั้งปีประมาณ 550 เรื่อง หรือประมาณ 6-7 เรื่องต่อวัน ความยาว 2 ชั่วโมง 30 นาที โดย มีกลุ่มเป้าหมายเป็นทั้งในกลุ่มโรงแรม นักเรียนไทยที่จบการศึกษามาจากอินเดีย หรือผู้ที่เข้า ใจวัฒนธรรมของประเทศอินเดีย เป็นอย่างดี และจะเน้นลูกค้าที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งทาง บริษัทจะทำการลงทุนด้านแพลต ฟอร์มและในส่วนของการตลาดให้กับทางพันธมิตร
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้คาดการณ์ว่าบริษัทจะมียอดสมาชิกอยู่ที่ 2 ล้านราย จากในปัจจุบันมีอยู่เกือบ 1 ล้านราย และรวมถึงการหาพันธมิตรรายใหม่ที่เข้ามาดำเนินธุรกิจร่วมกันแล้วจะทำให้บริษัทมีรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับจุดคุ้มทุนและจะสามารถมีผลกำไรได้ในระดับหนึ่ง