- Details
- Category: การตลาด
- Published: Saturday, 19 September 2020 17:24
- Hits: 17672
รู้หรือไม่ ‘แสงแดด’ ทำร้ายดวงตาได้มากกว่าที่คุณคิด
ดู๋-สัญญา คุณากร แบรนด์แอมบาสเดอร์เอสซีลอร์
แสงแดดไม่ได้ทำร้ายแค่ผิวของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายดวงตาของเราได้อย่างคาดไม่ถึง และคนส่วนใหญ่ก็มักลืมไปว่าดวงตาของเรานั้นบอบบางกว่าผิวหนังมาก ทำให้การปกป้องดวงตาจากแสงแดดถือเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าการปกป้องผิวเสียอีก เอสซีลอร์ ผู้นำระดับโลกทางด้านการแก้ไขปัญหาสายตา ได้อธิบายเรื่องของผลเสียของแสงแดดต่อดวงตาไว้ว่า “ทุกครั้งที่ดวงตาสัมผัสกับแสงแดดก็จะถูกทำร้ายจากรังสีอัลตร้าไวโอเลตหรือรังสียูวีโดยตรง ซึ่งรังสียูวีแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ รังสียูวีเอ (UVA) และ รังสียูวีบี (UVB) ซึ่งแม้สัมผัสในระยะเวลาสั้นๆ ก็สามารถก่อให้เกิดความบกพร่องทางสายตาได้ และยังเร่งการเสื่อมสภาพของสายตาไปจนถึงโรคตาที่ค่อนข้างรุนแรง”
5 โรคตาต้องระวังเมื่อต้องสัมผัสยูวี
1. โรคต้อลม เกิดจากการสัมผัสรังสียูวี ซึ่งกระตุ้นการแตกหักของเนื้อเยื่อคอลลาเจนในเยื่อบุตาขาว ทำให้เยื่อบุตาเสื่อมสภาพและหนาตัวขึ้น ส่วนใหญ่ในระยะเริ่มแรกมักไม่มีอาการชัดเจน แต่เมื่อต้อลมมีขนาดใหญ่หรืออักเสบ อาจเกิดอาการเคืองตา แสบตา น้ำตาไหล หรือตาแดงได้
2. โรคต้อเนื้อ ปัจจัยก่อโรคที่สำคัญก็คือการสัมผัสรังสียูวี ในแสงแดดเป็นประจำ จัดอยู่ในกลุ่มโรคเยื่อบุตาเสื่อมสภาพเช่นเดียวกับต้อลม โดยในต้อเนื้อนั้น เยื่อบุตาจะหนาตัวมากขึ้นรวมถึงมีเนื้อเยื่อและเส้นเลือดเกิดมากขึ้น กลายเป็นเนื้อเยื่อแดงๆ อยู่บนตาดำ ซึ่งถ้าต้อเนื้อมีขนาดใหญ่หรือหนามากจนปกคลุมกระจกตาก็อาจส่งผลต่อการมองเห็น และต่อความโค้งของตาดำจากสิ่งแปลกปลอมในดวงตา
3. โรคต้อกระจก แม้โรคนี้พบมากในผู้สูงอายุเนื่องจากการเสื่อมของเลนส์แก้วตาตามธรรมชาติ แต่การสัมผัสรังสียูวีเอ (UVA) ในแสงแดดแป็นเวลานานก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับโมเลกุล ทำให้เลนส์แก้วตาเสียสภาพความใสไป เมื่อเลนส์ขุ่นย่อมทำให้การมองเห็นลดลง ดังนั้นโรคต้อกระจกจึงสามารถเกิดขึ้นในวัยหนุ่มสาวได้เช่นกัน
4. โรคจอประสาทตาเสื่อม รังสียูวีบี (UVB) เป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อการเสื่อมของจุดศูนย์กลางภาพจอประสาทตา โดยรังสียูวีบีจะเข้าไปลดความเข้มข้นของสารสี เกิดเป็นปัจจัยเสี่ยงให้จอประสาทตาเสื่อมเร็วขึ้น
5. โรคมะเร็ง การอยู่กลางแดดนานๆ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของมะเร็งบริเวณเปลือกตา เพราะเกิดการกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีเมลานินบริเวณเปลือกตา ทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตา และมะเร็งผิวหนังบริเวณเปลือกตา
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้โรคเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเอง เอสซีลอร์จะมาบอกเคล็ดลับการดูแลเพื่อเสริมเกราะให้แก่ดวงตาคู่สวยของเรา
เราจะปกป้องดวงตาจากแสงแดดตัวร้ายได้อย่างไร?
1. สวมแว่นตาที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวี
วิธีการป้องกันดวงตาจากแสงแดดที่ดีที่สุดคือการสวมแว่นที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉะนั้น ควรเลือกซื้อแว่นตาจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือเท่านั้น เลนส์สายตาเปลี่ยนสีอัตโนมัติทรานซิชั่นส์ (Transitions®) จากเอสซีลอร์ ไม่ได้ออกแบบเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาเท่านั้น แต่สามารถปกป้องดวงตาจากรังสียูวีได้ 100% รวมถึงแสงสีน้ำเงินจากอุปกรณ์ดิจิตอล จึงสามารถสวมใส่ได้ตลอดทั้งวันทั้งในร่มและกลางแจ้ง โดยตัวเลนส์จะเปลี่ยนเป็นสีเข้มเมื่ออยู่กลางแจ้งและกลับมาใสอีกครั้งเมื่ออยู่ในที่ร่ม ซึ่งเป็นการปกป้องดวงตาจากรังสียูวีในทุกสภาวะแสง แม้ที่มีแดดไม่แรง สีเลนส์ก็จะเข้มขึ้นตามระดับความเข้มของยูวีเช่นกัน
2. รับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ เพิ่มความแข็งแรงให้ดวงตา
การเลือกทานผักผลไม้ที่มีวิตามินต่างๆ และสารต้านอนุมูลอิสระเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะวิตามินเอซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเซลล์จอประสาทตาช่วยให้จอประสาทตาทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ อาหารที่มีวิตามินเอ ได้แก่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว ผลไม้เนื้อสีเหลืองและสีส้ม รวมถึงผลิตภัณฑ์นม ไข่แดง ตับหมูและตับวัว
3. การตรวจคัดกรองความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคตา
นอกจากการดูแลดวงตาทั้งภายนอกและภายในแล้ว การตรวจคัดกรองความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคตาเป็นประจำทุกปี ก็ช่วยให้เราสามารถดูแลรักษาได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดโรคเกี่ยวกับดวงตาขึ้น
สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ที่ศูนย์แว่นตาพันธมิตรของเอสซีลอร์ใกล้บ้านคุณ หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.essilor.co.th/products/transitions และ https://www.facebook.com/EssilorThailand/
A9445
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ