- Details
- Category: การตลาด
- Published: Monday, 13 July 2020 17:50
- Hits: 1201
อมาโด้ปักธงบุกตลาด CLMV นำร่องกัมพูชาเปิดตลาด 2 ปี โต 60%
บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำ เตรียมแผนบุกประเทศกลุ่ม CLMV ชี้อนาคตสดใสมีแนวโน้มโตต่อเนื่อง อีกทั้งประชากรกลุ่มประเทศดังกล่าวนิยมบริโภคสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 นำร่องเปิดตลาดกัมพูชาพบผลตอบรับดีเกินคาดยอดขายโตปีละ 60% เปิดตลาด 2 ปีทำยอดขาย 15 ล้านบาท คาดปีนี้แตะ 25 ล้านบาท เผยทำตลาดกัมพูชาคุณภาพสินค้าและความน่าเชื่อถือต้องมาก่อน เดินกลยุทธ์การตลาดดึง 2 ดารา ศิลปินดังกัมพูชา เป็นพรีเซ็นเตอร์และพาร์ทเนอร์ธุรกิจกระจายตามหน้าร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และร้านค้าขนาดเล็ก สอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคนิยมสัมผัสและทดลองสินค้าก่อนซื้อ เดินหน้าศึกษาตลาดเวียดนามและลาว ก่อนบุกทำตลาดในปี 2564
นายธนา ลิมปยารยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำ เปิดเผยว่า บริษัทมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในประเทศกลุ่ม CLMV ได้แก่ ประเทศกัมพูชา (Cambodia) ประเทศลาว (Lao PDR) ประเทศพม่า (Myanmar) และประเทศเวียดนาม (Vietnam) เนื่องจากเป็นตลาดศักยภาพสูงและมีขนาดใหญ่ โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อปี 2562 ชี้ให้เห็นว่าประเทศกลุ่มดังกล่าวมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ทั้งยังมีจำนวนประชากรกว่า 170 ล้านคน ประชากรกว่า 60% เป็นวัยทำงานที่มีกำลังซื้อเป็น “ตลาดชายขอบ” ตลาดที่ใหม่และมีขนาดเล็ก จึงสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับกลุ่มประเทศ CLMV มีเสถียรภาพทางการเมืองอย่างมากเนื่องจากไม่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยนัก ทำให้นโยบายต่างๆ โดยเฉพาะนโยบายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจมีความชัดเจนและขับเคลื่อนได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยบวกจากการเป็นกลุ่มประเทศที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในอัตราที่ต่ำและมีความสามารถในการบริหารจัดการ การแพร่ระบาดของไวรัสได้อย่างรวดเร็วและรัดกุม จึงถูกจับตาว่าจะเป็นกลุ่มประเทศที่ฟื้นตัวได้เร็วหลังวิกฤตโควิด-19 ประกอบกับประชากรในกลุ่ม CLMV รู้จักและมีความนิยมสินค้าจากประเทศไทยเป็นอย่างมากเพราะเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ยาและสมุนไพรรักษาโรค สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม สินค้ากลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือน เรื่อยไปจนถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะ
อย่างไรก็ดี ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เดินหน้านำร่องบุกตลาดประเทศกัมพูชาเพื่อทดลองเปิดตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเริ่มต้นทำตลาดในประเทศกัมพูชามาได้ 2 ปี สามารถสร้างรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 60% โดยในปี 2561 มียอดขายราว 6 ล้านบาท ถัดมาในปี 2562 ทำยอดขายได้ 15 ล้านบาท และในปีนี้คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ 25 ล้านบาท โดยสินค้าไทยที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ในประเทศกัมพูชาคือสินค้ากลุ่มเสริมสุขภาพและความงาม ทั้งยังมีทิศทางเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากยังอยู่ในระยะเริ่มต้น รวมถึงหากเศรษฐกิจค่อยๆ ปรับฟื้นตัวดีขึ้นหลังวิกฤตโควิด-19 กำลังซื้อของคนกัมพูชาย่อมมีมากขึ้นตาม ส่งผลให้โอกาสในการเติบโตของตลาดวิตามินและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพในกัมพูชายังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
“การตลาดในกัมพูชา การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวสินค้าเป็นสิ่งสำคัญมาก ลูกค้าจะให้ความสำคัญกับคุณภาพและมาตรฐานของสินค้า และต้องสามารถเห็นและทดลองสินค้าตัวจริงได้ และเป็นปัจจัยหลักที่อมาโด้ให้ความสำคัญกับการบุกเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV เพราะแม้ว่าเราจะเป็นที่รู้จักดีในประเทศไทย แต่ที่ต่างประเทศแล้วเราก็เป็นแค่หนึ่งสินค้าใหม่” นายธนากล่าว
นายธนากล่าวเสริมว่า บริษัทใช้กลยุทธ์เปิดตลาดกัมพูชาด้วยการดึง 2 ดารา ศิลปินชื่อดังของกัมพูชา ได้แก่ โซโน่ เก สะวันนะรึด (ZONO Ke Sovannareth) - นักร้องค่าย Hangmeas ค่ายเพลงอันดับ 1 ของประเทศ และเป็นนักแสดงชาย สถานีโทรทัศน์ (ฟรีทีวี) กัมพูชา และปิค โสเพรีย Pich Sophea - นักร้องหญิงค่ายเพลง Hangmeas เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าและร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ธุรกิจในกัมพูชา โดยเน้นสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับบำรุงผิว เป็น best seller ได้แก่ Colligi Collagen และ amado Cerigi
ทั้งนี้ ในด้านพฤติกรรมผู้บริโภคในกัมพูชานิยมเห็นสินค้าและสัมผัสทดลองสินค้า ซึ่งปรับกลยุทธ์วิธีการขายให้สอดคล้องและเหมาะสมกับคนในพื้นที่มากขึ้น ทางการจำหน่ายในตลาดกัมพูชา จะผ่านตัวแทนที่มีอยู่ประมาณ 15 ราย และช่องทางตามร้านสะดวกซื้อ รวมถึงร้านขายยากว่า 19 จุด และยังมีแผนกระจายไปยังร้านค้าเล็กๆ อีกกว่า 10 ร้านค้า ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค นอกจากนี้ยังเริ่มเปิดช่องทางจำหน่ายออนไลน์จะเน้นไปที่ Facebook Fanpage: www.facebook.com/amadocambodiaoffice เพื่อเตรียมพร้อมการเติบโตด้านอีคอมเมิร์ซที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แม้ปัจจุบันคนกัมพูชาจะยังมีการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ไม่มากนัก แต่เชื่อว่าอนาคตการซื้อสินค้าออนไลน์จะค่อยๆ เติบโตหากการคมนาคมขนส่งในประเทศกัมพูชาพัฒนาให้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากความสำเร็จในการนำร่องทำตลาดประเทศกัมพูชาแล้ว บริษัทได้ศึกษาการขยายตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV เพิ่มเติมโดยตั้งเป้าในปี 2564 จะขยายตลาดออกไปยังประเทศเวียดนามและลาว โดยขณะนี้ได้เริ่มลงพื้นที่เพื่อทำการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อปรับกลยุทธ์วิธีการขายและการทำการตลาดในประเทศนั้นๆ ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับคนในพื้นที่มากขึ้นต่อไป
AO7313
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web